ซักฟอกขยี้แผลปมชั้น14-ป่วยทิพย์
จัดหนัก‘ทักษิณ’
‘โรม’ชำแหละดีลต่างตอบแทน
แฉมี‘2ไอ้โม่ง’คอยเป็นตัวช่วย
นายกฯโต้ฝ่ายค้านปัด‘ดีลปีศาจ’
โวย‘พ่อ’เจอแต่ความอยุติธรรม
ซักฟอกวันที่ 2 “รังสิมันต์”ถล่มยับ “ป่วยทิพย์-ชั้น 14” ซัดนายกฯประจักษ์พยานและตัวการสำคัญในการทำผิดก.ม.ชั้น 14 ชำแหละดีลปีศาจแลกปท. ปกปิดอาการป่วยมุ่งช่วยพ่อไม่ให้นอนคุกแม้แต่วันเดียว แฉทำเป็นกระบวนการทำลายกระบวนการยุติธรรม ต่างตอบแทนอวยยศให้จนท. ซัดหลอกลวง ขาดความซื่อสัตย์ เข้าข่ายผิดกม.อาญา “อั้งยี่-ซ่องโจร” ด้าน “ทวี”โต้กลับโรมมโนสร้างวาทกรรม ป้อง “อิ๊งค์”ไม่เกี่ยว เพราะแม้วเข้าเรือนจำก่อนรับตำแหน่ง ขณะที่นายกฯลุกขึ้นแจงยาวโอด20ปี “พ่อ”เจอสารพัดความ ’อยุติธรรม‘ เล่นงานติดหนึ่งในท็อป ต้องจากไปอยู่ไกลครอบครัวสุดเจ็บปวด เย้ยถ้า‘ก้าวไกล-เพื่อไทย’ จับมือตั้งรัฐบาลสำเร็จ ยังไงก็กลับมาอยู่ดี ปณิธานแรงกล้า ขอใช้ชีวิตบั้นปลายที่ไทย ขอรอผลสอบ‘แพทยสภา’ออก แจงปม’ป่วยชั้น14‘ไปยังไงก็ไม่เชื่อ
เมื่อวันที่ 25มีนาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเริ่มขึ้นเวลา 08.00 น. โดยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาญัตติด่วนขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล(น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี) ที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และคณะเป็นผู้เสนอญัตติ ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง
เปิดฉากจวกนายกฯลอยตัวเหนือปัญหา
โดยน.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ลุกขึ้นอภิปรายเป็นคนแรกเนื้อหาสรุปว่า น.ส.แพทองธารไม่มีคุณสมบัติผู้นำประเทศ ขาดความรู้ความสามารถไม่มีวุฒิภาวะผู้นำ ไม่มีเจตจำนงรับใช้ประชาชน ทุกวันนี้ไทยมีโจทย์ยากมากมายที่ต้องทำให้สำเร็จไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จีนเทา ไทยเทา ปัญหาคอรัปชั่น การศึกษา การแข่งขันทางการค้าในภูมิภาค ไปจนถึงโครงสร้างทางการเมือง เช่นกระบวนการยุติธรรมและรัฐธรรมนูญ วันนี้ประชาชนติดตามการแก้ปัญหาของนายกฯอย่างจดจ่อและจริงจัง แต่นายกฯกลับลอยตัวเหนือปัญหา การตอบคำถามของนายกฯ ในงานสัมมนาเศรษฐกิจ มักตอบคำถามแบบผิวเผิน เลื่อนลอย ไม่ตรงเป้าหมาย ไม่สามารถสร้างแรงจูงใจดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในประเทศได้หรือพูดจาจับสาระอะไรไม่ได้เลยนอกจากนี้ นายกฯไม่มีกาลเทศะในการใช้โซเชียลมีเดีย จนสังคมวิจารณ์ว่าอ่านไอแพดมากเกินไป และโพสภาพพร้อมแคปชันที่ไม่เหมาะสมช่วงที่ประชาชนต้องเผชิญความยากลำบากในหลายเหตุการณ์
อิงค์นั่งนายกฯทำไทยเสียโอกาศอื้อ
“ระยะเวลาที่น.ส.แพทองธาร ดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้อะไรไปเยอะได้พาพ่อกลับบ้าน ได้โปรไฟล์ ได้ยกระดับสถานะทางสังคมของตัวเองให้สูงขึ้นอีก แต่คนไทยต้องเสียโอกาสที่จะมีผู้นำขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปข้างหน้า เสียภาพลักษณ์ของประเทศต่อนานาชาติ เสียโอกาสทวงคืนความเป็นธรรมให้ผู้เสียชีวิตคดีตากใบ เสียจุดยืนในหลักการสากล เสียโอกาสได้เห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เสียโอกาสได้เห็นว่ารัฐบาลพลเรือนมีน้ำยากว่ารัฐบาลทหาร”น.ส.ภตคมนกล่าว และย้ำว่า สิ่งที่พูดมาทั้งหมดนั้นเชื่อว่าไม่เกินเลยความรู้สึกของประชาชนเลย คุณสมบัติของนายกฯที่พูดมา เป็นรูปธรรมชัดเจนที่สุดว่าประชาธิปไตยกำลังถูกย้ำยีให้อ่อนแอ และไร้เกียรติ สะท้อนให้เห็นโครงสร้างการเมืองไทย หากมีอำนาจต่อรองมากพอ ขึ้นมาเป็นนายกฯโดยไม่มีคุณสมบัติเลยก็ได้
รังสิมันต์ถล่มชั้น14ซัดดีลปีศาจ
ต่อมานายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนลุกขึ้นอภิปรายถึงการทำลายกระบวนการยุติธรรมกรณีให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในฐานะบิดาของน.ส.แพทองธาร นายกฯ พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น14ว่า น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ทั้งนี้ นายกฯ คือ ประจักษ์พยานและตัวการสำคัญต่อการทำผิดกฎหมายในเรื่องชั้น 14 เพราะมีชื่อ1 ใน 10 ที่สามารถเข้าเยี่ยมที่โรงพยาบาลตำรวจได้ อย่างไรก็ดี ต้องย้อนกลับไปช่วงที่นายทักษิณลี้ภัยต่างประเทศ 15 ปี ก่อนได้กลับไทยช่วงรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ซึ่งการกลับประเทศดังกล่าวตนเชื่อว่ามีดีลลังกาวีเกิดขึ้น และภาพที่เดินทางมาถึงประเทศไทยคือคนที่สุขภาพแข็งแรง แต่ผ่านไปสองวันพบว่าทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพแถลงถึงอาการป่วย4โรคร้ายแรงและมีอาการวิกฤตที่ต้องส่งไปยังโรงพยาบาลตำรวจ
“มีไอ้โม่ง2ตัวใจดี ลดแลกแจกแถมให้บิดานายกฯออกจากเรือนจำเพื่อรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ หากวันนั้นไอ้โม่งขัดขวาง ไม่มีทางที่นายใหญ่จะได้ไปโรงพยาบาลตำรวจ จนกว่านายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯมีอำนาจเต็ม ซึ่งเรื่องนี้น.ส.แพทองธารรู้เห็นทั้งหมด รวมถึงไม่ดำเนินคดีกับไอ้โม่งตามที่สัญญากับประชาชน เพราะพ่อได้กลับบ้านแล้ว นี่คือดีลแลกประเทศดีลปีศาจที่นายกฯสมคบเพื่อช่วยเหลือพ่อตัวเองไม่ให้นอนคุกแม้แต่วันเดียว” นายรังสิมันต์ อภิปราย
ปิดอาการป่วยไม่ให้พ่อติดคุกแม้แต่วันเดียว
นายรังสิมันต์อภิปรายต่อว่านอกจากนั้นยังพบการร้องขออภัยโทษเฉพาะราย หลังจากที่นายทักษิณพักในโรงพยาบาลตำรวจแล้ว7 วัน ซึ่งน.ส.แพทองธารอกตัญญู ไม่ดำเนินการ ทำให้นายทักษิณต้องดำเนินการด้วยตนเอง ทั้งที่มีอาการป่วยหนักปางตาย ต้องเตรียมเอกสารเพื่อร้องฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษด้วยตนเอง ทั้งนี้ตนมองว่านายกฯรู้ว่าพ่อไม่ป่วย จึงให้เขียนขออภัยโทษเอง ซึ่งกรณีดังกล่าวมีรายงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ระบุว่ามีอาการป่วยวิกฤตสลับปกติ จึงเป็นการย้อนแย้ง และนายกฯ ทำเรื่องตบตาประชาชน เรื่องอาการป่วยเพื่อได้อภิสิทธิของการพักรักษาตัวระดับวีวีไอพีที่โรงพยาบาลตำรวจ
ซัดอวยยศปูนบำเหน็จคนช่วยพ่อ
“นายกฯ ปกปิดอาการป่วยเพื่อให้ไม่ให้คนติดคุกแม้แต่วันเดียว และมีการสมคบคิด ซึ่งเป็นนายกฯ จอมหลอกลวง ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงแต่งตั้งบุคคลที่ช่วยเหลือพ่อให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง อวยยศ หน้าที่การงาน รวมถึงได้รับการปูนบำเหน็จเพิ่มเติมในรอยต่อรัฐบาล นายเศรษฐาและน.ส.แพทองธาร คือ โดยเฉพาะแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ ที่ได้นั่งให้เป็นกรรมกรอิสระของบอร์ดไออาร์พีซีได้เงินนับล้านบาทต่อปี และเป็นตัวเต็งรองผบ.ตร.ก่อนเกษียณ นอกจากนั้นยังให้หมอที่ลงนามในใบความเห็นแพทย์เพื่อรักษาตัวต่อ ซึ่งชื่อย่อ พล.ต.ท.ส.ม. ซึ่งเป็นพี่ชายของอดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งย้ายมาอยู่กับพรรคเพื่อไทยมีส่วนได้เสียหรือไม่ ซึ่งคิดเป็นอื่นไม่ได้ว่าเป็นการตอบแทนทางการเมือง เอาความยุติธรรมและผลประโยชน์แลกเพื่อคนในครอบครัว” นายรังสิมันต์ อภิปราย
งงมีมือถือใช้ละเมิดกม.ราชทัณฑ์
นายรังสิมันต์กล่าวด้วยว่า แม้เรื่องที่เกิดขึ้นจะเกิดก่อนที่เป็นนายกฯ แต่เมื่อเป็นนายกฯแล้ว กลับไม่ดำเนินคดีใดๆ ทั้งยังพบข้อมูลว่าระหว่างรักษาตัว มีบุคคลนอกชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล และพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส เข้าเยี่ยม มีรายละเอียดว่ามีการกินอยู่ระดับหรู นอกจากนั้นยังมีประเด็นว่านายทักษิณแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทบุคคลที่เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งหนึ่งวันให้หลังจากที่แพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์แถลงว่ามีอาการป่วยหนัก แสดงให้เห็นว่านายทักษิณที่แพทย์บอกว่าป่วยหนักสามารถมีโทรศัพท์มือถือไว้ใช้ได้ ซึ่งไม่ถูกจำกัดสิทธิ ทั้งนี้คนที่มีมือถือไว้ใช้ได้ส่วนใหญ่เป็นเจ้าพ่อค้ายาเพื่อสั่งการ ซึ่งกรณีนี้นายใหญ่ถือเป็นเจ้าพ่อเครือข่ายทางการเมืองที่ชั้น 14หรือไม่
ย้ำป่วยทิพย์-สมคบคิดทุบระบบยุติธรรม
“นายกฯ อาจเอาโทรศัพท์ไปให้ใช้ระหว่างควบคุมตัว คือการละเมิดกฎหมายราชทัณฑ์ และยืนยันว่าไม่มีการป่วยวิกฤต แต่คือ ป่วยทิพย์ และหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ไม่พบมีการเข้ารักษาตัวต่อ ถือเป็นการโกหก เพราะทราบดีว่าบิดาไม่ได้ป่วย ส่วนการพักโทษนั่นไม่ตรงกับความจริง กรณีชั้น14 นายกฯ ปฏิเสธไม่ได้ถึงการสมคบคิดเพื่อทำลายระบบยุติธรรม อย่างไรก็ดีเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช. ซึ่งถูกคาดหวังต่อการตรวจสอบต่อความยุติธรรม อย่าให้การเข้าเรียนหลักสูตร บยส.23 ที่แพทย์ใหญ่กับประธาน ป.ป.ช.ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นมาเป็นอุปสรรคตรวจสอบ” นายรังสิมันต์ อภิปราย
ผิดฐานอั่งยี่ซ่องโจรพานักโทษแหกคุก
นายรังสิมันต์อภิปรายด้วยว่าการกระทำของนายกฯและคณะไม่ต่างจากพานักโทษแหกคุก และสิ่งที่นายกฯและพวกดำเนินการคือ การสมรู้ร่วมคิดของหน่วยงานโรงพยาบาลตำรวจและราชทัณฑ์ สิ่งที่นายกฯ ทำครบองค์ประกอบกฎหมายอาญามาตรา 209 และมาตรา 210 ฐานอั้งยี่ ซ่องโจร ซึ่งบทบัญญัติกำหนดโทษร้ายแรง เชื่อถ้ามีการทลายซ่องโจรจันทร์ส่องหล้าสามารถเอาผิดคนจำนวนมากได้เหตุที่นายทักษิณไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว เป็นเพราะการกระทำผิดกฎหมาย ที่นายกฯและลูกสมุนทำดีลแลกประเทศ จนทำลายหลักนิติรัฐและกระบวนการยุติธรรม ถือเป็นการละเมิดกฎหมาย ขาดคุณสมบัติการเป็นนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการอภิปรายของนายรังสิมันต์นั้นพบว่า มีสส.พรรครวมไทยสร้างชาติ และ สส.พรรคเพื่อไทยลุกประท้วงกรณีพาดพิงถึงบุคคลภายนอกอยู่เป็นระยะ ซึ่งประธานในที่ประชุมได้พยายามควบคุมโดยย้ำถึงเวลาที่มีจำกัดที่ต้องยุติการอภิปรายก่อนเที่ยงคืน เพื่อให้สามารถลงมติได้ในวันถัดไป.
“ทวี”ป้อง“อิ๊งค์”ไม่เกี่ยวยังไม่เป็นนายกฯ
ต่อมาเวลา 12.00น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรมลุกขึ้นชี้แจงว่า ตนถูกพาดพิงโดยนายรังสิมันต์โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่ระบุว่ารมว.ยุติธรรม อยู่ในตำแหน่งอย่างเหนียวแน่น เนื่องจากเรื่องไม่โปร่งใสชั้น 14 และยืนยันกระทรวงยุติธรรมต้องเชื่อมั่น เข้าถึงเป็นที่พึ่งประชาชน ซึ่งตนแอบหวังว่าท่านน่าจะเป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพของประเทศ แต่สิ่งที่ท่านมาพูดตนก็เสียใจ เพราะท่านช่างตัดตอน จินตนาการและใช้วาทกรรม ในกรณีนายทักษิณไม่ได้เกี่ยวกับน.ส.แพทองธารเลย เพราะนายทักษิณ ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ไปเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม2567ตอนนั้นน.ส.แพทองธาร ยังไม่ได้เป็นนายกฯ และที่ท่านอ้างว่ามีดีลแลกประเทศ และขยายว่ามีดีลปีศาจตนไม่รู้ว่าก้นบึ้งของจิตใจท่าน ท่านจะหมายถึงอะไร ถ้านายรังสิมันต์ดูให้ดีเป็นวาทกรรม และเป็นเรื่องที่นายรังสิมันต์จินตนาการเอง ท่านต้องยอมรับว่าหลังจากการยุบสภาของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ การเลือกตั้งเมื่อปี 2566 พรรคที่ได้คะแนนมากที่สุดคือพรรคก้าวไกล ปัจจุบันเป็นพรรคประชาชน
โต้ดีลแลกปท.ซัด“โรม”มโนสร้างวาทกรรม
“เรื่องนี้ไม่ได้เป็นดีลแลกประเทศ ส่วนท่านจินตนาการอย่างไรเชิงลึก ผมไม่ใช่คนแบบท่าน ผมรู้อะไรลึกกว่าท่าน พูดไปคนของท่านก็จะเสียหาย ผมจะไม่พูด ส่วนกรณีนายทักษิณ ตอนที่ท่านเข้ามา รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสินยังไม่ได้เป็นรัฐบาล และผมไม่รู้ว่าเป็นรมว.ยุติธรรมหรือไม่ นายทักษิณเข้ามาก็มีอาการที่เล่าว่าป่วยและส่งโรงพยาบาลตำรวจ แต่สิ่งที่น่าเสียใจคือนายรังสิมันต์ จบนิติศาสตร์ และทราบหรือไม่ว่าในกฎหมายราชทัณฑ์ คนที่เจ็บป่วยต้องไปส่งรักษาพยาบาลเขาให้ถือว่าสถานที่รักษาพยาบาลคือเรือนจำ ท่านสะใจใช่หรือไม่ต้องการให้ถูกทรมานหรืออย่างไร เราถือว่าโรงพยาบาลที่ไปรักษาตอนนี้ปีหนึ่งมีผู้ต้องขังเกือบแสนคนที่ต้องไปพักเราถือว่าสถานที่เหล่านั้นเราถือเป็นที่ควบคุม กฎกระทรวงก็เขียนว่าเป็นที่ควบคุมพิเศษ เป็นสิทธิ์ของโรงพยาบาลจะจัด และถ้าท่านเกิดหนีจากที่ควบคุมเหมือนหนีจากเรือนจำ”รมว.ยุติธรรมชี้แจง
ชี้รักษาพยาบาลเป็นสิทธิ์ไม่ใช่อภิสิทธิ์
และว่า ที่บอกว่าไม่มีสักวันเดียวที่นายทักษิณติดคุก ต้องการวาทะกรรมเพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิดใช่หรือไม่ การคุ้มครองสิทธิ์พื้นฐานของคนท่านบอกว่าเป็นอภิสิทธิ์ ท่านพูดไม่จบ คือเมื่อนายทักษิณ เข้าไป ตนเข้ามาสัก1 เดือน ตนก็คิดว่าระหว่างนี้ท่านอยู่โรงพยาบาลตลอดสังคมจะมองว่าเป็นการช่วยเหลือกันหรือไม่ ท่านทราบหรือไม่ว่าในรัฐธรรมนูญหมวดหน้าที่ของรัฐ บอกว่าประชาชนเจ็บป่ายก็ต้องไปรักษาพยาบาล นายทักษิณเป็นประชาชนก็ต้องได้รับการรักษา แต่ท่านถูกควบคุมอยู่ไปไหนไม่ได้ เมื่อรัฐธรรมนูญเขียนให้รัฐต้องปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ตนคิดว่าจะเอาท่านกลับมาได้หรือไม่ กฎหมายไม่มีให้เลย ต้องทำตามความเห็นของแพทย์ เมื่อครบ 120 วันต้องมีเรื่องรายงานมาที่นายกฯ
เตือนอย่าทำตัวใหญ่กว่ากม.-พร้อมแจงปปช.
รมว.ยุติธรรมกล่าวต่อว่า ทราบหรือไม่อธิบดีกรมราชทัณฑ์เป็นมืออาชีพ ไม่รู้จักกับนายทักษิณ และเมื่อครบวันที่ 22 กุมภาพันธ์ เรือนจำพิเศษกรุงเทพตั้งคณะแพทย์ 5 คนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ ต้องไปดูว่ากลับมาเรือนจำได้หรือไม่ ปรากฏว่าคณะก็ให้ขึ้นกับดุลยพินิจแพทย์ผู้รักษา และอธิบดีกรมราชทัณฑ์มีหนังสือโต้ตอบรพ.ตำรวจ ก็อนุมัติให้อยู่โรงพยาบาลต่อเพราะหมอที่โรงพยาบาลมีความเห็นให้อยู่ต่อ ส่วนกรณีเจ้าพนักงานกระทำชอบหรือไม่นั้น อยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และเรื่องของนายทักษิณ องค์กรอิสระเกือบทุกองค์กรเข้ามาตรวจสอบ
“ท่านต้องเข้าใจว่า การที่นายทักษิณอยู่รพ.ตำรวจ ที่กฎหมายได้เขียนว่าเป็นเรือนจำแล้วถูกควบคุม แต่ท่านบอกว่าไม่ถูกควบคุม ท่านทำตัวใหญ่กว่ากฎหมายใช่หรือไม่ ที่ผมไม่อยากพูดมากไปกว่านี้ แพทยสภา เรื่องของหมอ ความเจ็บป่วยท่านกับผมก็ไม่มีใครรู้ดี และมีกฎหมายเรื่องจรรยาบรรณแพทย์ เรื่องอยู่ที่แพทยสภา รับเรื่องไว้ปีกว่าแล้ว ยังต้องสอบสวน แต่ท่านรับเรื่องไปแป๊บเดียว ท่านวินิจฉัยหมดเลย ว่าดีลปีศาจ ท่านมีอะไรอยู่ในใจใครคือปีศาจของท่าน“ รมว.ยุติธรรม กล่าว และย้ำว่า ที่ท่านโน้มน้าวอะไรมาทั้งหมด ท่านสมมุติเอาเอง เพราะวันนี้เราเตรียมไปให้การกับป.ป.ช. ซึ่งยังไม่เรียกราชทัณฑ์เลย อย่าไปดูแคลนป.ป.ช. ท่านอย่าเข้าใจว่าแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ไม่มีความรู้ ไม่อยากให้ด้อยค่าคนอื่น ความจริงไม่มีอะไรเมื่อเรื่องเข้าป.ป.ช. แม้แต่กรรมการป.ป.ช. ยังเอาเรื่องมาเปิดเผยไม่ได้แต่วันนี้ท่านสมมุติไปทั่ว
“ไหม”ซัดทำเสียของ-คนร้องหาลุงตู่
เวลา 14.00 น. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนอภิปรายไม่ไว้วางใจน.ส.แพทองธารตอนหนึ่งว่า สิ่งที่รัฐบาลงน.ส.แพทองธารบริหารประเทศย่ำแย่ แต่ความผิดมหันต์ที่ให้อภัยไม่ได้ในการบริหารเศรษฐกิจผิดพลาดล้มเหลว เพราะทำให้คนร้องหาและคิดถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ แบบนี้เรียกว่าเสียของที่ประชาชนเข้าคูหาเลือกตั้งที่ฉันทามติอยากได้รัฐบาลประชาธิปไตย ดังนั้นให้อภัยไม่ได้ทำให้คนลืมภาพร้ายของรัฐประหาร และมีความคิดว่าสมัยพล.อ.ประยุทธ์ยังดีกว่านี้
น.ส.ศิริกัญญาอภิปรายด้วยว่าขณะนี้ประชาชนเผชิญกับภาวะค่าครองชีพสูง สินค้าขึ้นราคา ค่าไฟฟ้าสูงที่บอกว่าจะลดค่าไฟเป็นแค่ราคาคุย ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ ที่บอกว่าจะขึ้นค่าแรง 400 บาทปี2567ทำไม่ได้จริง ทั้งที่มีอำนาจเต็มมือ ถือเป็นการหลอกลวงเพื่อหวังคะแนนเสียง
น.ส.ศิริกัญญายังยกสถิติช่วงที่น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯมีบริษัทปิดกิจการ 11% มีเปิดใหม่ 4% ทำให้มีคนงานตกงานจำนวนมาก ขณะที่เอสเอ็มอีจมกองหนี้ ส่วนตลาดทุนตกต่ำ เพราะการบริหารที่ไม่ได้เรื่อง ทั้งนี้เดือนมีนาคม2568 ตั้งเป้าให้จีดีพีโต 3.5% ขณะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังคงใช้มาตรการเดิม ทำให้เป็นคำถามว่าจะทำให้ดีขึ้นได้อย่างไร หากยังบริหารผิดพลาดซ้ำซาก ซึ่งไม่เห็นแผนภาพรวมของรัฐบาลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีแต่การขายผ้าเอาหน้ารอดเท่านั้น
อิ๊งค์ลุกแจงปมรร.เขาใหญ่ทำถูกกม.
กระทั่งเวลา 15.40 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจงประเด็นที่ถูกพาดพิงเป็นครั้งแรกของการอภิปรายวันที่สอง เริ่มจาก เรื่องการครอบครองที่ดินเทมส์วัลลีย์ (THAMES VALLEY)เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา โดยยืนยันบริษัทครอบครัวตนทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายกิจการโรงแรมทุกประการ ส่วนกรณีแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รัฐบาลดำเนินการไปมากพอสมควรแล้ว มีการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านได้แก่ จีน เมียนมาและกัมพูชา เรื่องจับกุม ปราบปราม การตัดไฟ นายสีจิ้น ผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนชื่นชม ที่ไทยดำเนินการเด็ดขาด รวดเร็ว วันนี้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่มาตรการซีลชายแดนต้องอาศัยความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านเราทำงานเป็นทีม จนได้ผลดี หวังว่าฝ่ายค้าน จะเข้าใจการทำงานแบบทีมเวิร์ค และให้เกียรติซึ่งกันและกัน
โวปราบแก๊งคอลฯได้ผลคดีลด67%
นายกฯยังชี้แจงการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่รัฐบาลเดินหน้าต่อเนื่อง มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ หรือ AOC สายด่วน 1441 รับแจ้งเหตุจากประชาชนตลอด24 ชั่วโมง ระงับบัญชีม้าไปแล้ว 1.92 ล้านบัญชี สถิติการแจ้งความคดีอาชญากรรมออนไลน์ทั้งหมดของประเทศไทยลดลงไปถึง 20% โดยเฉพาะคดีคอลเซ็นเตอร์อย่างเดียว ลดลงถึง 67% ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนลดลงกว่า 50% จากวันละ 100 ล้านบาท เหลือ 50 ล้านบาท แต่ตัวเลขยังไม่เป็นที่น่าพอใจ รัฐบาลจะทำให้เข้มข้นมายิ่งขึ้น“ น.ส.แพทองธาร กล่าว
ดิจิทัลวอลเล็ตตรงปกโดนเป้า
ส่วนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต นายกฯกล่าวว่า เป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล ที่เผชิญมรสุมการคัดค้านจากหลายองค์กร แต่รัฐบาลพยายามประคับประคองให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจตามเป้าหมาย ดำเนินมาเฟส 3 กำลังมาถึงเป็นดิจิทัลวอลเล็ตเต็มรูปแบบ กำลังทดลองพัฒนาระบบ เป้าหมายระยะยาวคือ ยกระดับสังคมไทยเป็นสังคมดิจิทัล ตนมั่นใจว่าภายใน 1 วาระของรัฐบาลนี้จะเกิดผลเป็นรูปธรรมปกก็ตรง เป้าก็โดน
โอดกลางสภาฯพ่อไม่ได้รับความยุติธรรม
ส่วนประเด็นชั้น 14 นั้น นายกฯชี้แจงว่า ตนอยากชี้แจงในฐานะลูกสาว ตั้งแต่พ่อของตนเดินทางกลับมาประเทศไทย จนถึงวันที่ออกจากโรงพยาบาลชั้น14 ตนยังไม่ได้เป็นนายกฯ ไม่อยากให้ท่านอภิปรายให้เกิดความสับสนเหมือนว่าตนเป็นนายกฯแล้ว และมีอำนาจสั่งข้าราชการหรือใครๆ ตอนนั้นตนเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และไม่มีอำนาจใดๆเลย การจะอภิปรายอะไรแบบนี้ ต้องเห็นค่าของผู้ที่รักษากฎหมาย คนที่เป็นข้าราชการ การพูดแบบนี้เหมือนเป็นการด้อยค่า
”ดิฉันเชื่ออย่างยิ่ง ไม่ว่าลูกคนไหนก็ตาม ที่เห็นความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับคุณพ่อที่ผ่านมาเกือบ20ปี ไม่มีใครอยากให้เกิด สถานการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมาในรอบ 20 ปีของประเทศเรา ในเรื่องความอยุติธรรม ถ้าจะหาใครสักคนที่เผชิญความไม่ยุติธรรม ดิฉันมั่นใจว่าดร.ทักษิณ คือหนึ่งคนท็อปๆเลย ที่ได้รับความไม่ยุติธรรม ท่านได้ถูกยึดอำนาจทางการเมือง แล้วยังถูกยึดทรัพย์สิน ถูกลอบสังหารหลายรอบ ดิฉันตอนนั้นอยู่มหาวิทยาลัยก็ทราบว่าคุณพ่อถูกลอบสังหาร แต่สมัยนั้นเครื่องมือสื่อสารไม่ดีเหมือนสมัยนี้ พอเราได้ยินมา เด็กอายุ 18-19 คนหนึ่งที่ทราบว่ามีคนตั้งใจจะสังหาร ก็ไม่ได้มีความรู้สึกที่ดี เป็นเหตุการณ์ที่ต้องลุ้นแบบนี้หลายครั้ง เป็นสิ่งที่เกิดความเจ็บปวดในครอบครัว นอกจากนี้ ยังต้องถูกพลัดพรากไปไกลกัน อยู่คนละประเทศเสมอ ดิฉันพยายามเดินทางไปหาคุณพ่อบ่อยๆ กระทั่งช่วงโควิด ดิฉันท้องลูกคนแรก 6 เดือน เดินทางยากลำบาก ไปอยู่กับท่าน 1 เดือน กลับมาก็ 7 เดือน ตอนนั่งเครื่องบินก็เสียน้ำตา ไม่รู้ว่าโควิดจะหยุดเมื่อไหร่ เราเดินทางท้องโตจะติดหรือไม่ ช่วงนั้นวัคซีนก็ไม่มี“ น.ส.แพทองธาร กล่าว
และว่า ความไม่ยุติธรรมเหล่านี้เกิดขึ้น ทำให้ครอบครัวที่เราสนิทกันอยู่แล้วรักกันมากขึ้น ทำให้ตนเติบโตขึ้นมาอย่างมีสติ ทราบว่าอะไรควรไม่ควร ต้องเห็นใจซึ่งกันและกันอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่ตนได้ฝึกฝนตัวเองมา ในความลำบากก็มีข้อดีที่ซ่อนอยู่ในนั้น
โต้ดีลปีศาจ-ถึงพท.เป็นพรรคร่วมพ่อก็กลับ
ส่วนที่มีสมาชิกกล่าวหาว่าคุณพ่อตนกลับมาเพราะมีดีลกับปีศาจผ่านการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ ยืนยัน100% ว่า ไม่ใช่ความจริง เป็นการตัดสินใจของท่านเต็มรูปแบบว่าจะกลับมา ตนก็ไม่อยากให้ท่านกลับมาต้องติดคุก หรือถูกจำกัดที่ทาง จึงบอกคุณพ่อไปว่าไม่เป็นไร อยู่เมืองนอกก็เจอกันได้ แต่ท่านอยากใช้เวลาที่เหลือกับครอบครัวที่ประเทศไทย ท่านรักและห่วงประชาชนมาก จะคิดแต่เรื่องเศรษฐกิจ คิดให้ประชาชนรวย ตนฟังท่านแล้วก็รู้สึกว่ามีแรงบันดาลใจในการทำงาน เพราะรู้สึกว่าคนเราเจอเรื่องมากมายขนาดนี้ แต่ยังคิดเรื่องดีๆกับคนอื่นได้ ต้องใช้พลังบวกในใจอย่างมาก ตนก็ได้อะไรตรงนี้มา
”ถ้าวันนั้นทางเพื่อไทย และก้าวไกลจับมือกันสำเร็จแล้วตั้งรัฐบาลได้ ท่านเป็นผู้นำรัฐบาล ส่วนพวกเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ยังไงดร.ทักษิณก็กลับมาอยู่ดี แม้ว่ารัฐบาลนั้นจะจัดตั้งโดยใคร คือเรื่องจริงที่คุณพ่อตั้งใจแล้วว่าจะกลับมาให้ได้ ส่วนกระบวนการของพระราชทานอภัยโทษ เป็นสิทธิของผู้ต้องคดีความทุกคน ที่มีขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ดิฉันขอไม่ก้าวล่วง” นายกฯกล่าว
ปมชั้น14ให้รอฟังแพทยสภา-ตอบไปก็ไม่เชื่อ
และว่า ถ้าจะบอกท่านป่วยจริง ป่วยหลอก เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าคุณพ่อป่วยต้องรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ เป็นสิ่งที่ชัดเจน ถ้าตนจะบอกท่าน คุณพ่ออายุ 70 กว่าป่วย ท่านจะเชื่อดิฉันหรือไม่ ก็ไม่เชื่อ แต่ยืนยันว่าป่วยจริงๆต้องได้รับการผ่าตัด ช่วงโควิดเป็นโควิดหนักมาก น้ำหนักลดไป10กว่ากิโล ผมร่วง มีจุดที่ปอด ท่านเชื่อหรือไม่ ก็ไม่เชื่อ ถ้าจะบอกว่าคนอายุ70กว่าต้องผ่าตัด แล้วการผ่าตัดมันไม่ได้ง่ายเหมือนคนอายุน้อย ท่านเชื่อหรือไม่ ก็ไม่เชื่อ ตนก็ไม่ทราบว่าต้องอธิบายแบบไหน ดังนั้น ขอให้รอการตรวจสอบของแพทยสภา เชื่อว่าผลสรุปจะออกมาในอีกไม่นาน หวังว่าทุกฝ่ายจะยอมรับ เพราะถามจากตน ตนตอบท่านก็ไม่เชื่ออยู่ดี
ยันไม่เคยแทรกแซงขรก.
น.ส.แพทองธาร กล่าวด้วยว่า เมื่อมีกระบวนตรวจสอบกรณีนายทักษิณ ในฐานะลูกสาว ตนห่วงใยแน่นอน ตนเป็นลูกสาวที่รักคุณพ่อ แต่ในฐานะนายกฯ ตนไม่เคยใช้อำนาจไปแทรกแซงหน่วยงานใดเลย อย่าดูถูกข้าราชการไทย อย่าดูถูกระบบกระบวนการของราชการไทย ยุคสมัยนี้ทุกอย่างตรวจสอบได้ ส่วนที่มีการเรียกร้องให้ตนลาออก ถือเป็นสิทธิ์ที่ทุกคนสามารถทำได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำไม่ได้คือขอให้ตนลาออกจากความเป็นลูกสาว หรือความเป็นแม่ ตนลาออกไม่ได้ ตนพร้อมทำงานให้กับคนทุกกลุ่ม ทุกคน ทุกจังหวัด ทุกที่ เพราะสวมหมวกนายกฯไทย ตนทำหน้าที่นี้เต็มที่สุดความสามาระแน่นอน แต่ในฐานะลูกสาวของนายทักษิณ ตนพูดคำนี้ด้วยความภูมิใจตั้งแต่ตนสามารถพูดได้ ขอให้ดูและพิสูจน์ที่ความสามารถตน และความตั้งใจในการทำหน้าที่นายกฯของตน หากจะมีการวิพากษ์วิจารณ์หรืออภิปรายใดๆ ก็ขอให้วิจารณ์การทำงาน น่าจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อสภาฯ และประเทศ
“บิ๊กอ้วน”ตอบสนุกดี-ชี้พูดยาวไม่เป็น
ด้านน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงสภาเวลา 10.25 น. เพื่อเข้าร่วมประชุมสภาฯญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่สองโดยให้สัมภาษณ์ภาพรวมการอภิปรายฯวันแรกว่า ก็ดีนะ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตอบสนุกดี
ผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายค้านคาดหวังให้นายกฯตอบชี้แจงยาวๆ เช่น ประเด็นโรงแรมที่เขาใหญ่ นายกฯ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญอยู่ที่เนื้อหา และต้องรักษาเวลาของสภา ตนเป็นคนที่พูดตรงพ้อยท์ พูดยืดยาวไม่ค่อยเป็น แต่ก็จะพยายามพูดให้ยาวขึ้น
มั่นใจตอบเคลียร์-เมินหมัดเด็ดฝ่ายค้าน
ถามว่า การชี้แจงเมื่อวันที่ 24 มีนาคมมั่นใจว่าเคลียร์หรือไม่อย่างไร นายกฯกล่าวว่า เคลียร์และดีใจที่หลายฝ่ายออกมาขยายผล ส่วนกรณีโรงแรมที่เขาใหญ่ ตนนั่งดูอยู่ นายวราวุธศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ชี้แจงถือว่าละเอียดพอสมควร และตนไม่อยากเสียเวลาสภา ส่วนที่ฝ่ายค้านระบุวันนี้จะมีไฮไลท์การอภิปรายกลัวจะมีหมัดเด็ดอะไรหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่กลัว ไม่น่ามีอะไรที่เราทำผิดหรือไม่โปร่งใส เพราะอย่างที่บอกบัญชีทุกอย่างของบ้านเรา ดูตั้งแต่ปี2549 ตั้งแต่รัฐประหารคุณพ่อ ทุกอย่างก็โปร่งใสบัญชีเล็กบัญชีน้อยต่างๆไม่มีอะไรผิดอยู่แล้ว การแจ้งบัญชีทรัพย์สิน เราก็ทำตามกฎตามเกณฑ์ทั้งหมด และถามตลอดด้วยว่าถ้าซื้อใหม่จะทำอย่างไร เราพยายามให้เคลียร์ตลอดอยู่แล้ว การอภิปรายเมื่อวันที่ 24 มีนาคมคิดว่าอธิบายให้ประชาชนฟังครบแล้ว แต่ถ้ามีอะไรก็บอกได้ เผื่อยังเก็บไม่ครบ
ปมภาษียื่นสอบตามกระบวนการได้เลย
ผู้สื่อข่าวถามว่าเห็นจะมีการยื่นตรวจสอบเรื่องภาษีต่อกรมสรรพากรและยื่นสอบจริยธรรมด้วย นายกฯกล่าวว่า ก็ยื่นตามกระบวนการได้เลย เพราะในส่วนของตนทำตามกฎเกณฑ์ทุกอย่าง จะตรวจสอบอะไรก็ได้เลย เพราะตอนที่เข้าการเมืองก็รู้อยู่แล้วว่าต้องถูกตรวจสอบ
ถามถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายนายทักษิณกรณีชั้น14 จะใช้โอกาสนี้ชี้แจงเลยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เรื่องชั้น14ขอไปรวบรวมประเด็นก่อนว่ามีตรงไหนควรตอบหรือไม่ตอบ เพราะเป็นหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมตอบในรายละเอียดทั้งหมด เรื่องชั้น 14ตอนนั้นตนยังไม่ได้เป็นนายกฯ ตอนคุณพ่อกลับก็ยังไม่ได้เป็นนายกฯ คุณพ่อออกมาจากโรงพยาบาลแล้วสักพักถึงได้เป็นนายกฯ ต้องดูว่าการที่ฝ่ายค้านอภิปรายตั้งแต่เมื่อวันแรก เป็นผลงานรัฐบาลอื่น ตนก็งงเหมือนกัน ว่าทำไมมาอภิปรายที่ตัวแพทองธาร ชินวัตร
ตลกพ่อมอนิเตอร์ตลอดคอมเม้นท์มาหา
เมื่อถามว่าได้รับรายงานหรือไม่ตามที่แกนนำพรรคกล้าธรรมระบุมี 10 เสียงจากฝ่ายค้านจะมาสนับสนุนนายกฯ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่เลย พรรคร่วมฯ แข็งแรงอยู่แล้ว ถามต่อว่า นายทักษิณระบุจะมอนิเตอร์การอภิปรายตลอดได้มีคำแนะนำหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า สิ่งที่ตลกอีกเรื่องคือคุณพ่อมอนิเตอร์ตลอดเวลาและส่งข้อความมาหาตนเยอะมาก แต่ตนไม่ได้อ่าน เพราะตนยุ่งมากเตรียมประเด็นอยู่ เลยไม่ได้ตอบอะไรใคร แต่ก็มีโทรศัพท์มาหาตนถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง พ่อก็ส่งคอมเม้นต์มาแต่ละช่วงก็ตลกดี คุณพ่อก็เหมือนชาวบ้านท่านหนึ่งที่คอมเม้นต์ ไม่มีอะไรพิเศษ
ถามถึงกรณีนายกฯลุกขึ้นชี้แจงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ สิ่งที่พูดไม่เป็นความจริง ทำไมถึงชี้แจงเช่นนั้น นายกฯกล่าวว่า ก็เป็นอย่างนั้น เอาสั้นๆก่อน ยาวๆเอาทีหลัง เพราะมีหลายคนพูดยาว ตนก็ไม่อยากพูดยาวเกินไป ส่วนโซเชียลมองว่าสิ่งที่ชี้แจงไปอาจทำให้เสียคะแนนให้พล.อ.ประวิตร นายกฯมองว่า ก็แบ่งๆกันไป
บี้สรรพากรสอบตั๋วPN-ยื่นปปช.ฟันอาญา
ขณะที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการยื่นเอาผิดกรณีการเลี่ยงภาษี 218 ล้านบาท โดยวิธีออกตั๋วPN ของน.ส.แพทองธารว่า สังคมยังรอให้นายกฯออกมาชี้แจง ซึ่งเป็นพิธีกรรมการซื้อหุ้นของคนในครอบครัว โดยนายกฯยอมรับกลางสภาว่าจริง และจะจ่ายกันปีหน้า และสังคมรอคำตอบจากนายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากรด้วยเช่นกัน และนายกฯก็ยอมรับเป็นเรื่องปกติที่คนในแวดวงธุรกิจทำกัน ตนจึงอยากเรียกร้องใครที่ทำแบบนี้ช่วยแสดงตัว ซึ่งตนสอบถามบุคคลอื่นแล้ว ไม่มีใครกล้าแสดงตัวเพราะกลัวกรมสรรพากรตรวจสอบ
“อธิบดีกรมสรรพากรต้องมาตอบว่านายกฯทำแบบนี้ได้หรือไม่ กำลังมีเจ้าของกิจการ เจ้าของห้างร้านอีกจำนวนมาก ที่กำลังจะโอนหุ้นโอนทรัพย์สินให้ลูก เขาจะได้นำพฤติกรรมของน.ส.แพทองธาร ไปเป็นแบบอย่าง โดยไม่ต้องให้เงินแต่ให้ออกเป็นตั๋วPN ไม่ต้องกำหนดจ่ายวันไหนและไม่มีดอกเบี้ย ไม่ต้อง ชำระภาษีการรับให้ ผมยังรอคำตอบ เพื่อให้การจัดเก็บภาษีการรับให้ร้อยละ 5เสมอภาคกันทั้งประเทศ” นายวิโรจน์ กล่าว และยืนยันว่าเรื่องนี้ มีความผิดทางอาญาแน่ ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร และจะยื่นเรื่องต่ออธิบดีกรมสรรพากร หลังเสร็จการอภิปรายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนการจะยื่นความผิดอาญาและผิดประมวลจริยธรรมอย่างร้ายแรง ต่อป.ป.ช.นั้น ทำได้ทันที เพราะมีแนวคำพิพากษาที่ศาลฎีกาเคยตัดสินไปแล้ว ส่วนจะยื่นวันไหนขอหารือกับพรรคก่อน แต่ยืนยันว่ายื่นแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี