‘วิโรจน์’โยนประชาชนตัดสินผลลัพธ์‘ศึกซักฟอก’ แจง 3 คอนเซ็ปต์มีครบทั้ง‘ข้อมูลลับ-จุดไต้ตำตอ-เรียบเรียงข้อเท็จจริง’ เตรียมบุก‘สรรพากร’ 28 มี.ค.68 ถามชัดๆ‘แพทองธารโมเดล’ โยงมาตรฐานปม‘หุ้น-ตั๋วPN’ ชี้‘ครม.’ไฟเขียวกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร ต้องดู‘ประโยชน์-ผลกระทบ’ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน-เศรษฐกิจ
27 มีนาคม 2568 ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาว่า เราทำได้ตามแผนตามที่เราคาดหวัง ส่วนจะดีหรือไม่ดีอย่างไร เราก็รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่จะเอาไปปรับปรุงการทำงานในสภาฯต่อไปอยู่แล้ว คนที่ประเมินที่ดีที่สุดก็น่าจะเป็นประชาชน ส่วนที่มีการเอาไปเปรียบเทียบกับการอภิปรายของพรรคประชาธิปัตย์ในอดีตว่าสมัยนั้นมีข้อมูลลับออกมามากกว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ มีอยู่ 3 กลุ่ม
กลุ่ม 1 คือเอาข้อมูลลับออกมา ซึ่งเราก็มี แต่เราถูกเบรกโดยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่1 ในเรื่องไอโอกองทัพ ที่เราลงลึกถึงระดับปฏิบัติการ แม้แต่นายกรัฐมนตรี รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ยังไม่รู้ และตกเป็นเป้าหมายโจมตีด้วย ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะสะท้อนว่ามีกลุ่มองค์กรไอ้โม่งที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาจากหน่วยงานใดตามรัฐธรรมนูญก่อการ ถึงขั้นวางเป้าหมายเป็นนายกฯที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ได้อภิปรายในสภา
กลุ่ม 2 เป็นการเรียบเรียงข้อเท็จจริงและเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น พอเราเรียบเรียงจะเห็นถึงข้อสังเกตของข้อมูลที่ไม่เชื่อมโยงกันของเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ ที่มันอยู่ในเรื่องเดียวกัน และตั้งเป็นคำถามเป็นข้อสงสัย เช่น กรณีชั้น 14 ของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน
กลุ่ม 3 เป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ เช่น เรื่องการหลีกเลี่ยงภาษีหรือไม่ของนายกรัฐมนตรี เป็นข้อมูลจุดใต้ตำตอ ทุกคนสามารถเข้าไปดูบัญชีทรัพย์สินของนายกรัฐมนตรีได้อยู่แล้ว แต่เราเอามาวิเคราะห์ เอามาพิจารณาในรายละเอียด เทียบกับข้อกฎหมายต่างๆ ที่นายกรัฐมนตรีพึงปฏิบัติ แต่เราเชื่อว่าไม่ปฏิบัติ
นายวิโรจน์ เปิดเผยด้วยว่า ในวันที่28มี.ค.นี้ เวลา08.30น. ตนจะเดินทางไปที่กรมสรรพากร เนื่องจากขณะนี้ เจ้าของกิจการหลายคนถามว่า ใช้แพทองธารโมเดลได้หรือไม่ ในกรณีหุ้น และตั๋วสัญญาใช้เงิน หรื ตั๋ว PN แต่คนที่จะงอน คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คนแรก ตนคิดว่าน่าจะเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะนายเศรษฐา ก็เคยโอนหุ้นในลักษณะนี้ให้กับลูกสาว เช่นเดียวกัน ส่วนกรณีอธิบดีกรมสรรพากรที่ออกมาระบุว่าสามารถทำได้นั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ตรงประเด็น เนื่องจากพูดถึงกันคนละกรณี ซึ่งสิ่งที่ทุกคนสงสัย คือการมีพฤติกรรมแบบนี้ คือการติ๊งต่างทำเป็นซื้อหรือหรือไม่
นายวิโรจน์ กล่าวด้วยว่า เนื่องจากกรณีที่ตั๋วนี้ไม่มีการระบุว่า จะจ่ายวันไหน แต่เมื่อไปถามน.สแพทองธาร ก็บอกว่าจะจ่ายปีหน้า และการที่ดอกเบี้ยไม่มีนั้น ก็เหมือนเป็นการแลก และหากไม่มีตรงนี้ ก็คือการให้ที่ชัดเจน เพราะเป็นการเปลี่ยนมือจากคนอื่นมาอยู่ที่น.ส.แพทองธาร แต่น.ส.แพทองธารไม่ได้จ่ายสักบาท ซึ่งหากถือว่าเป็นการให้ ก็ต้องไปจ่ายภาษีการรับให้อีกอยู่ดี จึงทำให้สงสัยว่าเป็นนิติกรรมอำพรางหรือไม่ ซึ่งตนมองว่า นี่คือช่องว่างทางกฎหมาย หากจะบอกว่าเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายใครก็ทำกัน ตนก็ไม่เห็นว่ามีใครจะแสดงตัวในเรื่องนี้ มีแต่การทำแบบหลบๆ ซ่อนๆ กันทุกคน และยิ่งหากมีการทำกันเยอะ ก็จะส่งผลเสียต่อสาธารณะ
นายวิโรจน์ ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า เราต้องดูประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับประชาชน หากเกิดประโยชน์และมีความเป็นธรรมก็คงไม่มีใครคัดค้าน แต่หากมีผลกระทบต่อสังคมตามที่หลายฝ่ายกังวลแต่ไม่ได้มีข้อชี้แจง หรือแนวทางในการควบคุมจำกัดผลกระทบเชิงลบรัฐบาลก็ควรทบทวนและเร่งดำเนินการ
“ตราบใดที่เกิดประโยชน์กับประชาชน เศรษฐกิจ โดยที่เราสามารถควบคุมผลกระทบเชิงลบได้ ผมมองว่าทุกฝ่ายก็คงยอมรับได้ ปัญหาอยู่ที่ว่าผลกระทบเชิงลบและความเป็นธรรมในการประมูล ในการให้สัมปทานโปร่งใสหรือไม่” นายวิโรจน์ กล่าว
เมื่อถามว่ามองว่ารีบเกินไปหรือไม่เพราะเพิ่งผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงวันเดียว นายวิโรจน์ กล่าวว่า แล้วแต่การคาดการณ์ในเมื่อตกลงกันได้แล้วก็ไปต่อ เราอย่าคิดกังวลอะไรขนาดนั้น ชีวิตต้องทำงานต่อ ตนเป็นคนตำหนิติติงรัฐบาลด้วยเหตุด้วยผล วันนี้รัฐบาลทำงานต่อ ฝ่ายค้านก็ทำงานต่อ เรามองว่าเป็นการทำงานต่อเนื่องแล้วกัน
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี