‘ภูมิธรรม’ยันไม่มีนโยบายกองทัพปฏิบัติการ‘ไอโอ’ ชี้ไร้รัฐซ้อนรัฐ หลังมีชื่อแกนนำตกเป็นเป้า
28 มีนาคม 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ถึงในกองทัพได้มีการพูดคุยถึงข้อเท็จจริงเรื่องไอโอหรือไม่ ว่า เรื่องรายละเอียดเป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงาน ทุกประเทศก็มีการทำ อยู่ที่ลักษณะว่าจะมีการดำเนินการลักษณะปัญหาเป็นอย่างไร ส่วนที่ฝ่ายค้านหยิบยกมาอภิปรายนั้นได้เรียนไปแล้วเราว่านโยบายใช้ IO แต่มีการใช้เพื่อดูแลเรื่องความมั่นคง แต่ว่าสิ่งที่ได้พูดมาไม่ใช่นโยบายของรัฐบาล เพราะฉะนั้น ได้รับทราบแล้ว สั่งการทุกส่วนไปแล้วให้ตรวจดูว่าเป็นเรามีกระบวนการทำด้านความมั่นคง ที่กระทบกับสิ่งที่เขาพูดหรือไม่ แต่ตนเองเชื่อมั่นว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ส่วนที่มีชื่อแกนนำรัฐบาลอยู่ในปฏิบัติการ IO นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าไปคิดเยอะ เพราะตนเองก็โดนได้ ซึ่งจริงหรือไม่ก็ยังไม่รู้ แต่อย่างที่บอกปกติสิ่งนี้เสริมมา เราก็ต้องจัดการอย่างเต็มที่ แต่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ได้ชี้แจงไปแล้ว ว่าตนเองก็โดนหลายเรื่องที่ไม่จริงซึ่งก็ต้องมีการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้น และต้องให้โอกาสฝ่ายปฏิบัติได้ทบทวน และดูซึ่งผู้บัญชาการเหล่าทัพ ก็ได้ยืนยันว่า จะไปตรวจสอบดูแลอย่างเต็มที่ ย้ำว่า ไม่มีอะไรน่ากังวล
เมื่อถามว่าการมีชื่อแกนนำรัฐบาลในปฏิบัติการไอโอ จะสะท้อนว่าเป็นรัฐซ้อนรัฐหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้ที่พูดหมายถึงว่ามันจริงแล้ว ตนเองกำลังบอกว่าไม่รู้ว่ามันจริงหรือไม่ และย้ำว่า มันไม่มีรัฐซ้อนรัฐ มีรัฐเดียว
เมื่อถามถึงการที่แกนนำรัฐบาลตกเป็นเป้าของฝั่งที่ทำ IO นายภูมิธรรม ตอบทันทีว่า “ผมไม่เชื่อว่าแกนนำรัฐบาลจะโดน พวกเราทำงานด้วยกันมาอย่างดี”
เมื่อถามว่าจะมีการสอบถามกองทัพถึงการติดตามตัวบุคคลในลักษณะนี้ เพื่อป้องกันความมั่นคงด้านใดหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราจะไม่เรียกในลักษณะที่กองทัพ หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องตกเป็นจำเลย เพราะเรายังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร วิธีการทำงาน และวิธีการพูดคุย จึงไม่ควรเริ่มต้นจากการสงสัยเขา แล้วมาดำเนินการ แต่ได้สั่งการไปแล้วว่าให้ตรวจสอบ ซึ่งต้องรอ และเชื่อมั่นในกำลังพลของเรา เพราะรัฐบาลไม่มีนโยบาย ตนเองในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็ไม่มีนโยบาย
ส่วนจะต้องมีการเช็คลิสต์เพจต่าง ๆที่เป็นเพจ IO หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องดูรายละเอียด ตนเองไม่อยากเริ่มต้นมาทำงานกับผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยการสงสัย และไปเที่ยวติดตาม ตนเองคิดว่านโยบายที่ให้ไปชัดเจนแล้ว ผู้นำกองทัพก็รับนโยบายไปชัดเจนแล้ว ส่วนหนึ่งเราก็ดำเนินการ และผลักดันติดตามนโยบายที่เป็นอยู่ ส่วนที่มีเรื่องอื่น ๆ ขึ้นมา จะให้เราปฏิเสธไปโดยทันที มันก็จะกลายเป็นว่าเราไม่เชื่อมั่น และไม่ยอมรับฟังแต่ตนเองเชื่อมั่นในหน่วยงานของเรา ว่าไม่มีเรื่องเหล่านี้ เพราะไม่ใช่นโยบายของรัฐบาล ดังนั้น เมื่อมีการออกมาเราก็รับทราบขั้นต้น ตนเองผู้ชัดเจนในสภาวะยอมรับเอาสิ่งนี้มาพิจารณา และไปติดตามตรวจสอบว่าเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้น ในเมื่อผลยังไม่ออก
“ก็ไม่อยากใช้คำว่า “ถ้า“ ซึ่งหากใช้คำว่า “ถ้า” ฟังแล้วมันระคาย ซึ่งทำแล้วมันไม่ดี ทุกอย่างต้องเริ่มจากความเป็นจริง ถือว่าพอสมควรแล้วในชั้นนี้ที่รับมาพิจารณารับมาตรวจสอบก่อน หากพบว่าความเป็นจริงเป็นอย่างไรก็ค่อยมาว่ากัน” นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามแสดงว่าว่ากองทัพสามารถทำ IO ด้านความมั่นคงได้จริงหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดเลย แต่ตอนนี้คิดว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นในที่ต่าง ๆ ทั่วโลก และทางตนเองไม่มีนโยบายสิ่งต่าง ๆ ถ้ากองทัพ จะทำก็เป็นเรื่องความมั่นคงซึ่ง จะมีผลทำลายประเทศ หรือทำให้ประเทศเกิดความเสียหาย เรื่องนี้เรายังไม่เห็นข้อเท็จจริง เอกสารที่นำมาก็ต้องขอมาดูและมาตรวจสอบก่อน พร้อมย้ำว่า ตนเองอยากให้นำปัญหามาพูดคุยกันดี ๆ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี