นายกฯเตรียมส่งคนคุยม็อบเห็นต่างเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ชี้ 10% สร้างกาสิโนของขนาดพื้นที่ไม่ใช่มูลค่าลงทุน ด้าน “100 องค์กร”แถลงการณ์ค้าน “ก.ม.กาสิโน” ตีเช็คเปล่าซูเปอร์บอร์ด-ครม.,มีอำนาจตัดสินใจเรื่องใบอนุญาต-พื้นที่สร้างอย่างไร้ขีดจำกัด
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไฟเขียว ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมเห็นต่างเตรียมยกระดับชุมนุม จะทำความเข้าใจเพื่อไม่ให้บานปลายอย่างไรว่า หลังจากการประชุม ครม.ได้ให้สัมภาษณ์เรื่อง 10% ที่จะเป็นกาสิโน อาจมีความเข้าใจว่าเป็นเรื่องของเงินลงทุนซึ่งไม่ใช่ แต่ 10% ดังกล่าวเป็นเรื่องของพื้นที่ที่จะทำทั้งหมด เช่น ทำทั้งฟลอร์หรือทั้งชั้นให้เป็นกาสิโน ส่วนเรื่องเงินเป็นการประเมินว่าเมื่อทำแล้วจะได้เงินเข้าประเทศเท่าไหร่ อย่างไร และตอนนี้ทุกอย่างยังไม่ชัดเจน ต้องผ่านขั้นตอนแรกก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เตรียมยกระดับการชุมนุมอย่างไร นายกฯกล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจและส่งคนไปคุยในรายละเอียด
ผู้สื่อข่าวถามถึงทำเลที่จะสร้างเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์จะมีที่จังหวัดภูเก็ตด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้ยัง จะดูเป็นรายพื้นที่ไปก่อน เราเริ่มขั้นตอนแรกก่อน ถ้าเห็นประโยชน์อย่างไร จึงจะขยายต่อ
ด้านพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติให้สัมภาษณ์ถึงการลาประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 27 มีนาคมเกี่ยวข้องกับกรณีเรื่องร่าง พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือไม่ว่า ไม่เกี่ยวกัน แต่เนื่องจากก่อนหน้านั้นประมาณ 2 สัปดาห์ มีคนไทยใน 10 จังหวัด ถูกกักอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย เพราะหนังสือเดินทางขาดเหมือนเป็นการหลบหนีเข้าเมือง เรื่องนี้ทำงานร่วมกันมานาน จึงไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อนว่าจะมีประชุม ครม.วันที่ 27 มีนาคม ซึ่งต้องนำตัวคนไทยกลับมาวันที่ 27 มีนาคมตนจึงลาประชุมไว้ก่อนวาระการประชุมจะมา
ผู้สื่อข่าวถามถึงจุดยืนเรื่อง เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ของพรรคประชาชาติเป็นอย่างไร พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า สส.มุสลิมในสภาฯที่ไม่ใช่แค่พรรคประชาชาติ ก็มองว่าขัดกับหลักศาสนา เมื่อกฎหมายเข้าในสภาฯ ก็จะเป็นดุลพินิจของสส.อยู่แล้ว โดยต้องดูทุกมาตรา เพราะกฎหมายฉบับนี้ผ่านการรับฟังความเห็นมาหลายรอบ อย่างครั้งที่แล้วพิจารณารายงานเรื่องนี้ พรรคประชาชาติก็ได้ขออนุญาตพรรคร่วมรัฐบาลในส่วนของสส.ที่เป็นมุสลิม
ถามว่าย้ำจุดยืนของพ.ต.อ.ทวีมองเรื่องนี้จะมีผลดีหรือผลเสียมากกว่ากัน พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ขอดูในตัวกฎหมายก่อน แต่รวมๆสมัยที่ยังเป็นการศึกษาเรื่องนี้ เห็นว่ากฎหมายเกี่ยวกับกาสิโนจะขัดหลักศาสนา แต่ก็ต้องขอดูในรายละเอียดก่อน
วันเดียวกัน มีความเคลื่อนไหวของ เครือข่ายภาคประชาสังคม 100 องค์กร อันประกอบด้วยองค์กรศาสนา องค์กรชุมชน องค์กรเด็กเยาวชนและครอบครัว องค์กรอาสาสมัคร องค์กรการศึกษา และอื่นๆ ร่วมลงนามออกแถลงการณ์คัดค้านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร มีเนื้อหาโดยสรุปว่า หลังครม.เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ…. ทันทีหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯผ่านไปเพียงหนึ่งวัน โดยไม่สนใจใยดีต่อข้อคัดค้านของสส. เสียงติติงของนักวิชาการ รวมถึงเสียงทัดทานของประชาชนหลายภาคส่วน ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเคยพูดว่า “เรื่องนี้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ”
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุต่อว่า การพูดจาหลักลอยดั่งไม้หลักปักขี้เลนของนายกฯบวกกับอาการรีบร้อนเร่งรัดอย่างผิดสังเกตของรัฐบาล ที่พยายามจะผลักดันกฎหมายนี้ให้เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรก่อนปิดสมัยประชุมวันที่ 11 เมษายนนี้ ทั้งที่ยังมีความหละหลวมหลายเรื่องที่สำคัญ อาทิ การเปิดกว้างให้มีกาสิโนซุกอยู่ภายใต้เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แบบไม่จำกัดจำนวน ความไม่ชัดเจนของขนาดกิจการ มีกี่แห่ง ความไม่ชัดเจนในกลุ่มเป้าหมายลูกค้ากลุ่มใด นักท่องเที่ยวต่างชาติหรือคนไทย
“การมอบอำนาจแบบ “ตีเช็คเปล่า” ให้คณะกรรมการนโยบายและครม.มีอำนาจมากมาย ทั้งการกำหนดจำนวนใบอนุญาตฯ พื้นที่ตั้ง หลักเกณฑ์การพิจารณาลงทุน กำหนดสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโน กำหนดหลักเกณฑ์เพื่อควบคุมการป้องกันการฟอกเงิน เสนอแนะอัตราการเก็บภาษีต่อครม. กำหนดอัตราค่าใบอนุญาตและค่าธรรมเนียมการเข้ากาสิโนของคนในประเทศ”แถลงการณ์ระบุ
รวมทั้งมีอำนาจยกเลิกกฎหมายหรือกฎระเบียบ ที่เป็นอุปสรรคขัดขวางต่อการดำเนินการสถานบันเทิงครบวงจร รวมถึงเปิดช่องให้นำรายได้จากค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ซึ่งเป็นเงินจำนวนมหาศาลไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมือง ด้วยการกำหนดกลไกที่ไร้การถ่วงดุลและตรวจสอบความรับผิดรับชอบ ซึ่งอาจนำมาซึ่งการทุจริตเชิงนโยบาย
แถลงการณ์ดังกล่าวยังเป็นห่วงการให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ลงทุน โดยการยกเว้นการบังคับใช้กฎหมายอื่นหลายฉบับ ทั้ง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ร.บ.บริษัทมหาชน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนต่างชาติ การเปิดช่องให้สามารถเช่าที่ดินได้เป็นระยะเวลานานทีละ 30 ปี ไปได้ต่อเนื่อง การยกเว้น พ.ร.บ.การพนันเพื่ออนุญาตให้จัดเล่นพนันที่ต้องห้ามได้ การยกเว้นคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 22/2558 เพื่อให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ 24 ชั่วโมงการควบคุมสถานบริการ ด้วยแนวคิดการออก super license แบบอนุญาตครั้งเดียวเบิกทางให้ทำได้ทุกเรื่อง
นอกจากนี้ ยังละเลยความเป็นจริงของการทุจริตคอรัปชั่นในหมู่นักการเมืองและข้าราชการไทย เมื่อมาบวกกับบทบัญญัติทางกฎหมายที่คลุมเครือ จึงไม่อาจเชื่อมั่นได้มากพอต่อมาตรการป้องกันการฟอกเงิน ที่เชื่อมโยงกับขบวนการธุรกิจผิดกฎหมาย การฉ้อโกง และการทุจริตคอรัปชั่น รวมถึงการไม่ให้ความสำคัญต่อการรับฟังความเห็นของประชาชน การทำประชามติแม้ในระดับพื้นที่ที่จะตั้งสถานบันเทิงครบวงจร การไม่มีส่วนร่วมและไม่ได้รับประโยชน์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งการไม่ให้ความสำคัญที่มากพอต่อการป้องกันแก้ไข และเยียวยาผลกระทบอันอาจเกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
ความหละหลวมทั้งปวงนี้ รัฐบาลเจตนาผลักความรับผิดชอบไปให้แก่กระบวนการตัดสินใจในสภาผู้แทนราษฎร และเปิดโอกาสให้เกิดการต่อรองของตัวแทนผู้ได้เสียผลประโยชน์ในชั้นกรรมาธิการ ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลที่นำมาสู่ความรู้สึกไม่เชื่อมั่นของประชาชนต่อผลได้ผลเสียที่จะเกิดตามมา และความไม่ไว้วางใจต่อความไม่โปร่งใสของกลไกการตัดสินใจ อันอาจจะนำมาซึ่งการอำนวยผลประโยชน์ต่อกลุ่มทุน และการทุจริตรับสินบนของผู้ที่เกี่ยวข้อง
เครือข่ายภาคประชาสังคม 100 องค์กร อันประกอบด้วยองค์กรศาสนา องค์กรชุมชน องค์กรเด็กเยาวชนและครอบครัว องค์กรอาสาสมัคร องค์กรการศึกษา และอื่นๆ ตามรายนามแนบท้ายนี้ ขอแสดงจุดยืนต่อเรื่องนี้ ดังต่อไปนี้ ขอประณามการตัดสินใจของครม.ต่อการผลักดันนโยบายที่เอาแต่ได้นี้ โดยพยายามสร้างประเด็นลวงด้วยตัวเลข 10% ว่า กาสิโนจะเป็นส่วนน้อยทั้งที่เป็นเป้าหมายใหญ่ บวกกับการโกหกคำโตว่าจะมีคอนเสิร์ตฮอลล์และสเตเดียมขนาดใหญ่ ทั้งที่ ในร่างกฎหมายนี้ไม่ได้กำหนดให้ต้องทำ ดึงดันที่จะเดินหน้าผลักดันสิ่งนี้ทั้งที่รู้ว่าจะเป็นเหตุจุดชนวนความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในสังคม
ขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองแสดงความกล้าหาญ โดยการประกาศจุดยืนที่ชัดเจนของพรรคต่อร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ และกล้าประกาศรับผิดรับชอบต่อผลที่จะเกิดตามมา จากการมีส่วนร่วมในกระบวนการพิจารณากฎหมายนี้ ซึ่งถือเป็นการสมรู้ร่วมคิดในการกำหนดนโยบายที่ส่งผลเสียต่อสังคมในระยะยาว
นอกจากนี้ ยังเสนอให้วุฒิสภานำพาวุฒิภาวะสู่สังคม โดยเป็นเจ้าภาพจัดกระบวนการรับฟังความเห็นของประชาชนทุกภาคส่วน รวมถึงองค์กรท้องถิ่นต่างๆ นำมาสู่การตัดสินใจกำหนดนโยบายอย่างรอบคอบ
“เครือข่ายภาคประชาสังคม 100 องค์กร ขอประกาศว่า จะดำเนินการทุกวิถีทางตามสิทธิทางกฎหมายที่จะคัดค้านการเดินหน้าของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ และพร้อมจะร่วมแสวงหาหนทางที่สร้างสรรค์ในการสร้างความสุข ความเจริญให้เกิดขึ้นในสังคม”แถลงการณ์ระบุ
สำหรับชื่อ 100 องค์กรร่วมคัดค้าน อาทิ 1.มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน 2.เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน 3.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล 4.มูลนิธิสุขภาพไทย 5.มูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ 6.มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก 7.มูลนิธิชีววิถี 8.มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว 9.สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า 10. สถาบันส่งเสริมบทบาทพ่อแม่เพื่อสังคม 11.ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชน (ขสช.) 12.เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.) 13.เครือข่ายพ่อแม่ผู้ปกครองในสถานศึกษา 14.เครือข่ายละครเฉพาะกิจเธียเตอร์ 15.เครือข่างองค์กรงดเหล้า 4 ภูมิภาค 16.เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต 17.เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง 18.เครือข่ายนักกฎหมายเพื่อสังคม 19.เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี