นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหว จี้ปัญหา SMS แจ้งเตือนล่าช้า กำชับเตรียมแผนรับมือ แก้ปัญหาการจราจร ด้านกรมทรัพยากรธรณี แจงยังไม่มีเทคโนโลยีแจ้งเตือนแผ่นดินไหวล่วงหน้า รายงานอาฟเตอร์ช็อกกว่า 100 ครั้ง จากนี้กระทบไทยน้อย
วันที่ 29 มีนาคม 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวและมาตรการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย รวมทั้งผู้ราชการจังหวัด 76 จังหวัด
นายกฯ กล่าวว่า ตอนที่เกิดเหตุการณ์ 13.20 น. สิ่งแรกที่ประชาชนควรได้รับรู้หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว โดยสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องการส่งเอสเอ็มเอสแจ้งเตือนประชาชน ทางนายภาสกร บุญญลักษณ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งว่าทางกรมมีกองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา จะรายงานเรื่องแผ่นดินไหวมาที่ ปภ. และทาง ปภ.แจ้ง กสทช. เพื่อส่งเอสเอ็มเอสแจ้งประชาชน 4 ครั้ง ครั้งแรกเวลา 14.42 น. เนื่องจากสถานการณ์เกิดขึ้นแล้ว ปภ. จึงส่งในลักษณะการแจ้งให้ประชาชนเข้าไปเก็บของในอาคารได้
ขณะที่นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการฯ รักษาราชการแทนเลขาธิการ กสทช. ชี้แจงว่า กสทช.ได้ส่งเซลบอร์ดแคส หรือการส่งข้อความแชทจำนวนมาก ในเวลา 14.44 น. ซึ่งส่งได้ทีละ 2 แสนเลขหมาย ปัจจุบันส่งแล้วกว่า 10 ล้านเลขหมาย ปัญหาที่ช้า คือต้องรันหมายเลข ระยะทางที่ส่งรอบแรกครอบคลุม 4 จังหวัด ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล กทม. ส่วนการส่งรอบที่ 2 ครบ 76 จังหวัดทั่วประเทศ โดยข้อความเป็นไปตามที่ ปภ.ส่งมา ซึ่งระบุว่า ให้แจ้งประชาชนสามารถเข้าไปในอาคารกรณีที่จำเป็น และประสานกับกรมอุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับเรื่องอาฟเตอร์ซ็อก
และในครั้งที่ 2 และ 3 เวลา 16.07 น. และ 16.09 น. แจ้งในเรื่องข้อปฏิบัติตน เมื่อเกิดแผ่นดินไหว และครั้งสุดท้ายเวลา 16.44 น. แจ้งให้ประชาชนกลับเข้าอาคารได้
นายกฯ ระบุว่าปัญหา คือ ส่งเอสเอ็มเอสเตือนประชาชนช้า และไม่ทั่วถึง ข้อความไม่ได้มีประโยชน์มาก เบื้องต้นทราบว่าระบบเซลล์บอร์ดแคส จะเปิดเต็มรูปแบบในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ที่จะสามารถส่งข้อความหนึ่งครั้งและกระจายไปได้ครอบคลุมทั้งหมด การขอความร่วมมมือกับเครือข่ายระบบสื่อสาร จะขอความร่วมมือได้อย่างไร จะทำให้การส่งข้อความจาก 200,000 ต่อหนึ่งครั้งเป็น 1,000,000 คนได้อย่างไร และชาวต่างชาติที่ซื้อซิมไทยจะได้รับข่อความเตือนภัยหรือไม่ ขอให้ กสทช.และ ปภ.ประสานงานกัน เพราะตนจะต้องตอบคำถามประชาชน เนื่องจากตนสั่งไปตั้งแต่ 14.00 น. แต่ระบบไม่มีการส่ง
นายกฯ ยังได้กล่าวขอบคุณรายการโทรทัศน์ทั้งหมด ที่ออกรายการเฉพาะกิจ ที่สามารถทำได้ภายในไม่ถึง 5 นาที หลังจากที่ได้สั่งการ พร้อมกันนี้นายกฯ กำชับทุกคนให้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องแผ่นดินไหวกับประชาชนให้มากขึ้น ว่าต้องทำตัวอย่างไร
ส่วนเรื่องระบบขนส่งสาธารณะหยุดบริการ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้รายงานว่า ทันทีที่เกิดเหตุ นายสุริยะ ได้แจ้งให้ตั้งศูนย์สั่งการของกระทรวงทันที หลังจากนั้นสั่งการให้ระบบขนส่งมวลชนหยุดบริการชั่วคราว เพื่อตรวจสอบสถานการณ์โดยทั่วไป ทั้งทางอากาศ ราง และน้ำ โดยมุ่งเน้น โครงสร้างยกระดับอุโมงค์ใต้ดิน ให้วิศวกรเข้าตรวจสอบ
และในส่วนทางอากาศสั่งปิดทันทีตั้งแต่บ่ายโมงกว่า เช็คโครงสร้างอาคารและรันเวย์ ก่อนกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งภายใน 1 ชั่วโมง ส่วนโครงสร้างถนนทุกหน่วยได้ตรวจสอบทันที โดยเฉพาะเส้นทางที่สุ่มเสี่ยง คือ สะพานข้ามแม่น้ำ ทางยกระดับของการทางพิเศษฯ พบว่ามีปัญหาจุดเดียวคือบริเวณ ทางขึ้น-ลงเชื่อมระหว่างทางด่วนกับถนนวิภาวดีรังสิต -ดินแดง ที่มีเครนจากบนอาคารเอกชนพังลงมาทับ
นายกฯ ได้กล่าวเสริมว่า หากมีเหตุการฉุกเฉินอีก รวมทั้งอุบัติเหตุ ขอให้วางแผนเตรียมไว้ เพื่อแจ้งประชาชน ว่าเส้นทางไหนปิด หรือมีปัญหา ควรส่งเอสเอ็มเอสบอกข้อมูลแจ้งประชาชนได้
จากนั้นปลัดกระทรวงคมนาคม ยังรายงานว่า ในส่วนทางราง ทางยกระดัยและใต้ดิน ที่ปิดเมื่อวาน ก็เปิดให้บริการหมดแล้วเช้านี้ ยกเว้นสายสีชมพูกับสายสีเหลืองปิดอีก 1 วัน เพื่อตรวจสอบโครงสร้าง ขณะที่ถนนเปิดทั้งหมดแล้ว ยกเว้นทางขึ้นทางด่วนวิภาวดีที่เครนพังลงมา หากพร้อมจะเปิดในบ่ายวันนนี้
ในช่วงท้ายนายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี จากที่ได้ติดตามสถานการณ์ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงปัจจุบันพบว่าหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นกว่า 100 ครั้ง และทุกครั้งที่เกิดจะมีความรุนแรงน้อยลง แนวโน้มการเกิดอาฟเตอร์ช็อก จะเลื่อนไปทางทิศเหนือ ทางเทือกเขาหิมาลัยและประเทศจีน แปลกว่าจะเกิดห่างจากไทยมากขึ้นกว่าเดิม ยินยันว่าผลกระทบกับประเทศไทยน้อยลง และหากเกิดแรงสั่นสะเทือนเพียงระดับ 5 เราก็จะไม่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน
นอกจากนี้ยังได้ติดตามพฤติกรรมของรอยเลื่อนอย่างต่อเนื่อง ยังไม่มีปฏิกิริยาว่าจะส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อประเทศไทย พร้อมย้ำว่าจะเกิดแผ่นดินไหวอีกหรือไม่จากนี้ ยังไม่มีเทคโนโลยีที่จะสามารถบอกได้ล่วงหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี