ประชุมแก้แผ่นดินไหวเครียด
‘อุ๊งอิ๊งค์’เดือด!
ฉุน‘ปภ.-กสทช.’เตือนภัยช้า
ส่งข้อความไม่เกิดประโยชน์
สั่งตรวจสอบตึกสูงทั่วกรุง
หวังเรียกความเชื่อมั่นคืนมา
ประชุมแก้ไขปัญหาแผ่นดินไหวเดือด “อุ๊งอิ๊งค์” ว้ากใส่ “ปภ.-กสทช.”ส่ง SMS แจ้งเตือนแผ่นดินไหวช้า บอกข้อความไม่เกิดประโยชน์ ย้ำทุกอย่างสงบแล้ว ประชาชนกลับเข้าบ้านได้ ทั้งเรียกความเชื่อมั่นนั่งรถไฟฟ้าโชว์ ยันปลอดภัย
วันที่ 29 มีนาคม 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวและมาตรการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย รวมทั้งผู้ราชการจังหวัด 76 จังหวัด
เดือดแจ้งเตือนภัยล่าช้า
นายกฯ กล่าวว่า ตอนที่เกิดเหตุการณ์ 13.20 น. สิ่งแรกที่ประชาชนควรได้รับรู้หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว โดยสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องการส่งเอสเอ็มเอสแจ้งเตือนประชาชน ทางนายภาสกร บุญญลักษณ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งว่าทางกรมมีกองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา จะรายงานเรื่องแผ่นดินไหวมาที่ ปภ. และทาง ปภ.แจ้ง กสทช. เพื่อส่งเอสเอ็มเอสแจ้งประชาชน 4 ครั้ง ครั้งแรกเวลา 14.42 น. เนื่องจากสถานการณ์เกิดขึ้นแล้ว ปภ. จึงส่งในลักษณะการแจ้งให้ประชาชนเข้าไปเก็บของในอาคารได้
กสทช.ยันแจ้งเตือนแล้ว
ขณะที่นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการฯ รักษาราชการแทนเลขาธิการ กสทช. ชี้แจงว่า กสทช.ได้ส่งเซลบอร์ดแคส หรือการส่งข้อความแชทจำนวนมาก ในเวลา 14.44 น. ซึ่งส่งได้ทีละ 2 แสนเลขหมาย ปัจจุบันส่งแล้วกว่า 10 ล้านเลขหมาย ปัญหาที่ช้า คือต้องรันหมายเลข ระยะทางที่ส่งรอบแรกครอบคลุม 4 จังหวัด ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล กทม. ส่วนการส่งรอบที่ 2 ครบ 76 จังหวัดทั่วประเทศ โดยข้อความเป็นไปตามที่ ปภ.ส่งมา ซึ่งระบุว่า ให้แจ้งประชาชนสามารถเข้าไปในอาคารกรณีที่จำเป็น และประสานกับกรมอุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับเรื่องอาฟเตอร์ซ็อก
และในครั้งที่ 2 และ 3 เวลา 16.07 น. และ 16.09 น. แจ้งในเรื่องข้อปฏิบัติตน เมื่อเกิดแผ่นดินไหว และครั้งสุดท้ายเวลา 16.44 น. แจ้งให้ประชาชนกลับเข้าอาคารได้
นายกฯ ระบุว่าปัญหา คือ ส่งเอสเอ็มเอสเตือนประชาชนช้า และไม่ทั่วถึง ข้อความไม่ได้มีประโยชน์มาก เบื้องต้นทราบว่าระบบเซลล์บอร์ดแคส จะเปิดเต็มรูปแบบในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ที่จะสามารถส่งข้อความหนึ่งครั้งและกระจายไปได้ครอบคลุมทั้งหมด การขอความร่วมมมือกับเครือข่ายระบบสื่อสาร จะขอความร่วมมือได้อย่างไร จะทำให้การส่งข้อความจาก 200,000 ต่อหนึ่งครั้งเป็น 1,000,000 คนได้อย่างไร และชาวต่างชาติที่ซื้อซิมไทยจะได้รับข่อความเตือนภัยหรือไม่ ขอให้ กสทช.และ ปภ.ประสานงานกัน เพราะตนจะต้องตอบคำถามประชาชน เนื่องจากตนสั่งไปตั้งแต่ 14.00 น. แต่ระบบไม่มีการส่ง
ขอบคุณสื่อที่ช่วยเหลือกัน
นายกฯ ยังได้กล่าวขอบคุณรายการโทรทัศน์ทั้งหมด ที่ออกรายการเฉพาะกิจ ที่สามารถทำได้ภายในไม่ถึง 5 นาที หลังจากที่ได้สั่งการ พร้อมกันนี้นายกฯ กำชับทุกคนให้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องแผ่นดินไหวกับประชาชนให้มากขึ้น ว่าต้องทำตัวอย่างไร
ส่วนเรื่องระบบขนส่งสาธารณะหยุดบริการ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้รายงานว่า ทันทีที่เกิดเหตุ นายสุริยะ ได้แจ้งให้ตั้งศูนย์สั่งการของกระทรวงทันที หลังจากนั้นสั่งการให้ระบบขนส่งมวลชนหยุดบริการชั่วคราว เพื่อตรวจสอบสถานการณ์โดยทั่วไป ทั้งทางอากาศ ราง และน้ำ โดยมุ่งเน้น โครงสร้างยกระดับอุโมงค์ใต้ดิน ให้วิศวกรเข้าตรวจสอบ
และในส่วนทางอากาศสั่งปิดทันทีตั้งแต่บ่ายโมงกว่า เช็คโครงสร้างอาคารและรันเวย์ ก่อนกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งภายใน 1 ชั่วโมง ส่วนโครงสร้างถนนทุกหน่วยได้ตรวจสอบทันที โดยเฉพาะเส้นทางที่สุ่มเสี่ยง คือ สะพานข้ามแม่น้ำ ทางยกระดับของการทางพิเศษฯ พบว่ามีปัญหาจุดเดียวคือบริเวณ ทางขึ้น-ลงเชื่อมระหว่างทางด่วนกับถนนวิภาวดีรังสิต -ดินแดง ที่มีเครนจากบนอาคารเอกชนพังลงมาทับ
เกิดอาฟเตอร์ช็อคหลายครั้ง
นายกฯ ได้กล่าวเสริมว่า หากมีเหตุการฉุกเฉินอีก รวมทั้งอุบัติเหตุ ขอให้วางแผนเตรียมไว้ เพื่อแจ้งประชาชน ว่าเส้นทางไหนปิด หรือมีปัญหา ควรส่งเอสเอ็มเอสบอกข้อมูลแจ้งประชาชนได้
จากนั้นปลัดกระทรวงคมนาคม ยังรายงานว่า ในส่วนทางราง ทางยกระดัยและใต้ดิน ที่ปิดเมื่อวาน ก็เปิดให้บริการหมดแล้วเช้านี้ ยกเว้นสายสีชมพูกับสายสีเหลืองปิดอีก 1 วัน เพื่อตรวจสอบโครงสร้าง ขณะที่ถนนเปิดทั้งหมดแล้ว ยกเว้นทางขึ้นทางด่วนวิภาวดีที่เครนพังลงมา หากพร้อมจะเปิดในบ่ายวันนนี้
ในช่วงท้ายนายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี จากที่ได้ติดตามสถานการณ์ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงปัจจุบันพบว่าหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นกว่า 100 ครั้ง และทุกครั้งที่เกิดจะมีความรุนแรงน้อยลง แนวโน้มการเกิดอาฟเตอร์ช็อก จะเลื่อนไปทางทิศเหนือ ทางเทือกเขาหิมาลัยและประเทศจีน แปลกว่าจะเกิดห่างจากไทยมากขึ้นกว่าเดิม ยินยันว่าผลกระทบกับประเทศไทยน้อยลง และหากเกิดแรงสั่นสะเทือนเพียงระดับ 5 เราก็จะไม่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน
นอกจากนี้ยังได้ติดตามพฤติกรรมของรอยเลื่อนอย่างต่อเนื่อง ยังไม่มีปฏิกิริยาว่าจะส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อประเทศไทย พร้อมย้ำว่าจะเกิดแผ่นดินไหวอีกหรือไม่จากนี้ ยังไม่มีเทคโนโลยีที่จะสามารถบอกได้ล่วงหน้า
แถลงทุกอย่างปกติแล้ว
ต่อมาเวลา 10.50 น.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวและมาตรการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ว่า จากเหตุแผ่นดินไหวเราได้มีการสั่งการทันทีตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา วันนี้ได้มาติดตามผลและแก้ไขตรงไหนได้บ้าง ซึ่งเราทราบกันว่าเริ่มแรกของเหตุแผ่นดินไหวมาจากเมียนมา จนได้รับผลกระทบมาถึงประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ที่มีตึกถล่มเพียง 1 ตึกที่กำลังก่อสร้าง และตึกอื่นๆในกรุงเทพไม่มีผลกระทบ ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต ทั้งนี้ทราบว่าโครงสร้างตึกในกรุงเทพฯ มีมาตรฐานที่รองรับเรื่องแผ่นดินไหวอยู่แล้วในกฎของข้อบังคับ ตอนนี้เร่งให้ทางกรมโยธาธิการและผังเมือง ดูในเรื่องของตึกที่ถล่มว่าเกิดอะไรขึ้นและมาตรการต่อไปจะเป็นอย่างไร ให้กลับมารายงานผลอีก 1 สัปดาห์ว่าเหตุเกิดจากอะไร ทำไมถึงเป็นแบบนี้จะสามารถแก้ไขอะไรต่อไปได้ในอนาคต
พร้อมเยียวยาผู้เสียหาย
นายกฯ กล่าวต่อว่า หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบและสามารถรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นประมาณ 50 ครั้ง แต่เราไม่ได้รู้สึกหรือรู้ตัวถึงการสั่น เพราะลดน้อยลงเรื่อยๆ รอบสุดท้ายที่เช็คสัญญาณประมาณเที่ยงคืนของเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ต่ำลงไปถึง 1.2 ริกเตอร์ ซึ่งตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรแล้ว แน่นอนรัฐบาลเยียวยาผู้ที่รับผลกระทบเหตุการณ์แผ่นดินไหวทุกอย่าง เหตุการณ์แผ่นดินไหวไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยและเป็นประจำในประเทศของเรา อย่างไรก็ตามรัฐบาลใช้ทุกสรรพกำลังเพื่อดูแลประชาชนให้ปลอดภัย และได้รับการเยียวยาให้ได้เร็วที่สุด วันนี้ได้มีการพูดคุยกับทุกภาคส่วนในเรื่องของทางกรุงเทพมหานครดูแลส่วนหน้า และที่เกิดเหตุตอนนี้ ซึ่งเรามีกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ซึ่งดูแลโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรัฐมนตรีมหาดไทยและผู้บัญชาการของศูนย์นี้
ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือ
นายกฯ กล่าวอีกว่า ต้องขอขอบคุณเมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำงานกันอย่างหนักและได้มีการเข้าไปในสถานที่ จุดที่ตึกถล่ม รอให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแถลงว่าต้องการส่วนไหนที่ต้องได้รับการดูแลอย่างไรบ้างจากหน้างาน ปภ. ดูแลเรื่องเครื่องมือเครื่องจักร และอาสาสมัครหลายท่านที่อยากจะช่วย ตอนนี้จะพยายามให้ผู้ว่ากทม.เคลียร์เรื่องงานทั้งหมดว่าจะเกิดขึ้นอย่างไรบ้าง และต้องการความช่วยเหลือจากด้านไหนบ้าง โดยผู้ว่าฯกทม.จะแจ้งว่าต้องการความช่วยเหลือด้านไหน ตรงไหนบ้างเพราะมีประชาชนอีกหลายท่านเป็นห่วง และยังมีในเรื่องของวัสดุก่อสร้างที่อันตรายและเครื่องมือหนักที่อยู่ตรงนั้นเยอะ ฉะนั้นขอให้ทางผู้ว่าฯกทม. เคลียร์ตรงนี้ให้ดีว่าตรงไหนที่สามารถเข้าไปได้หรือเข้าไปไม่ได้เพราะอันนี้ถือเป็นเขตอันตรายที่ไม่อยากให้อาสาสมัครเข้าไป โดยยังไม่ได้มีการรักษาความปลอดภัย
ตรวจสอบตึกสูงทั่วกรุง
”ขอย้ำอีกครั้งเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศไทยตอนนี้สงบลงแล้ว เดี๋ยวจะมีการตรวจเรื่องของตึกต่างๆที่ตอนนี้ผู้ดูแลตึกของแต่ละตึกมีอยู่แล้วสามารถแจ้งพนักงานที่อยู่ในตึกได้เลย เพราะในวันที่ 31 มี.ค.นี้จะมีการกลับเข้าไปทำงาน ขอย้ำอีกครั้งว่าสถานการณ์ตอนนี้สงบแล้ว และปลอดภัยแล้วผู้ที่อยู่ข้างนอกสามารถกลับเข้าที่พักอาศัยของตัวเองได้ ส่วนผู้ที่อยู่ในตึกสูง รอผู้ตรวจตึกสูงของตัวเองแจ้งว่าตึกปลอดภัยสามารถเข้าไปได้แล้วส่วนที่พักอาศัยที่ไม่ใช่ตึกสูงกับเข้าได้ทุกท่าน และวันนี้ยังเป็นอีกคืนที่สวนสาธารณะทั้ง 5 แห่งในกรุงเทพฯยังเปิด 24 ชั่วโมง เรามีในเรื่องของตำรวจที่ดูแลตลอดที่สวนสาธารณะ ฉะนั้นประชาชนสามารถเข้าไปพักผ่อนในสวนสาธารณะได้ โดยมีการดูแลจากรัฐบาลอย่างเต็มที่และในเรื่องของการเยียวยาจะมีมาตรการออกมาว่าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างรัฐบาลจะออกในเรื่องของมาตรการต่อไป“นายกฯ กล่าว.
เยี่ยมผู้ได้รับผลกระทบย
จากนั้นเวลา 11.00 น. น.ส.แพทองธาร พร้อมด้วยนายภูมิธรรม และคณะเดินทางมาที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพื่อตรวจเยี่ยมผู้บาดเจ็บ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ สำหรับผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาตัวที่วชิรพยาบาลจำนวน 3 ราย แบ่งเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จากการกระโดดลงมาจากคอนโดที่พักอาศัยจำนวน 2 ราย และถูกแผ่นปูนหล่นใส่อีกหนึ่งราย
โดย เวลา 11.30 น. น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ ว่า ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวทั้งหมด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับคนไข้ทั้งหมดไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ โดยขณะนี้ผู้ป่วยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรักษาตัวอยู่ที่วชิรพยาบาลมี 2 ราย รายหนึ่งอยู่ห้องไอซียูอีกรายอยู่วอร์ดปกติ ซึ่งมีปัญหาคล้ายกันคือปอดรั่ว รายที่อยู่ห้องไอซียูนั้นน่าจะติดเชื้อมาก่อนเกิดเหตุการณ์ ทั้ง 2 ราย หมอบอกว่าน่าจะโอเค และมีอีกคนได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์แต่มีผลกระทบเล็กน้อยโดยได้ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว
แก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว
เมื่อถามว่าผู้ป่วยทั้งหมดเป็นแรงงานต่างชาติใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ใช่ ขณะนี้ทราบชื่อ 1 ราย และยังไม่ทราบชื่ออีก 1 ราย และทางแพทย์ได้เล่าเหตุการณ์ของวันที่ 28 มี.ค. ว่ามีการย้ายคนไข้มาที่ชั้นล่างอย่างรวดเร็ว แต่ในส่วนของห้อง ICU ไม่ได้มีการเคลื่อนย้าย ซึ่งเมื่อวานปลอดภัยทั้งหมด และย้ายกลับขึ้นไปอย่างปลอดภัย 500 กว่าคน แล้วถือว่าโรงพยาบาลต่างๆ ประสานงานกันได้อย่างดี จะให้กระทรวงสาธารณสุขช่วยสื่อสารต่อกับโรงพยาบาลทั้งในส่วนของรัฐและเอกชน และย้ำเตือนไปถึงมาตรการซ้อมหนีไฟที่มีความสำคัญ
ตรวจรถไฟใต้ดิน
จากนั้นเวลา 11.45 น. วันที่ 29 มี.ค.สถานีสนามไชย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางมาขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสนามไชย เพื่อดูความเรียบร้อยด้านการคมนาคมและขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้าใต้ดิน ภายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว เมื่อมาถึงรับฟังรายงานจาก นายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รักษาการแทนผู้ว่าฯ ซึ่งรายงานว่าเมื่อเกิดเหตุได้อพยพผู้โดยสารขึ้นไปข้างบนเพื่อความปลอดภัยโดยไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ นายกฯยังสอบถามในวันเกิดเหตุมีส่วนใดของรถไฟฟ้าใต้ดินขัดข้องบ้าง ซึ่งได้รับรายงานว่า โครงสร้างไม่มีปัญหา มีแค่เศษฝาท่อที่อาจหลุดออกมา ซึ่งได้มีการแก้ไขแล้ว แต่ในส่วนของรถไฟสายสีชมพูและสีเหลืองยังปิดให้บริการชั่วคราวอีก 1 วันเพื่อตรวจสอบระบบความปลอดภัย เนื่องจากระบบค่อนข้างละเอียดและบอบบาง ซึ่งก่อนเปิดให้บริการจะทดลองวิ่งก่อน
ย้ำทุกอย่างยังปลอดภัย
จากนั้นนายกฯขึ้นรถไฟใต้ดินร่วมขบวนกับประชาชน มาลงที่สถานีสีลม โดยได้ทักทายประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ให้ความสนใจ เมื่อมาถึงชาวต่างชาติได้เข้ามาพูดคุย โดย น.ส.แพทองธาร ได้สอบถามถึงความรู้สึกเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา
จากนั้นนายกฯได้เดินดูโครงสร้างตึกสูงย่านสีลม พร้อมระบุว่าขอให้ดูโครงสร้างตั้งแต่เรื่องการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ เพราะตนได้ดูคลิปตอนตึกถล่มหลายคลิปหลายมุม และตนผ่านเรื่องการสร้างตึกมาในภาคของธุรกิจก็ไม่เคยเห็นมีปัญหาเรื่องนี้ต้องสืบให้รู้ว่าผิดพลาดตรงไหน เพราะงบประมาณที่เคาะให้ไปตอนนั้นมันเยอะ และมีการต่ออายุเพื่อยืดเวลาในการก่อสร้าง แต่เรื่องการก่อสร้างตึกจะมีในข้อกฎหมายอยู่แล้วว่าทุกตึกในกทม. ต้องรองรับแผ่นดินไหวได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจากเหตุที่เกิดขึ้นตึกส่วนใหญ่ไม่กระทบ มีแค่เรื่องลิฟท์ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งตนฟังมาอีกครั้งหนึ่งว่าการสั่นของตึกสามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจนายกฯได้เดินทางกลับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี