คะแนนนิยม‘อิ๊งค์’พุ่งอันดับ1
‘นิด้าโพล’จัดให้
เหมาะสมแล้วนั่งเก้าอี้นายกฯ
‘อนุสรณ์’ขอบคุณเสียงหนุน
‘เท้ง’หายใจรดต้นคออันดับ2
ภท.จ่อขับ‘เอกราช ช่างเหลา’
หลังโผล่ซบ‘พรรคกล้าธรรม’
นิด้าโพล เผยคะแนนนิยมไตรมาสแรก คนหนุนแพทองธาร นั่งนายกฯ-เท้งอันดับ 2 “เสี่ยหนู”ยังห่างไกลอยู่อันดับ 6 เพื่อไทยสบช่องตีปี๊บผลงานตามน้ำทันควัน “ภูมิใจไทย” นัดถก ขับ เอกราช ช่างเหลา พ้นพรรค หลังโผล่ซบ “พรรคกล้าธรรม”
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจเรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 1/2568” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 24-27 มีนาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ฟกระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 2,000 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับคะแนนนิยมทางการเมือง การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0 จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้
เรตติ้ง”อุ๊งอิ๊งค์”ติดอันดับ1
พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 30.90 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊ง) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะชื่นชอบการทำงานและนโยบายของพรรคเพื่อไทย พร้อมทั้งอยากให้โอกาสบริหารต่อไปเพื่อพิสูจน์ผลงาน อันดับ 2 ร้อยละ 25.80 ระบุว่าเป็น นายณัฐพงษ์ (เท้ง) เรืองปัญญาวุฒิ (พรรคประชาชน) เพราะประชาชนต้องการเห็นคนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศที่มีแนวคิดใหม่ ซื่อตรง โปร่งใส และมีนโยบายที่เข้าถึงประชาชนได้จริง อันดับ 3 ร้อยละ 23.70 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 4 ร้อยละ 8.45 ระบุว่าเป็น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ) เพราะเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ ซื่อสัตย์ ยุติธรรม และมีนโยบายที่ชัดเจนอันดับ 5 ร้อยละ 3.90 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะมีประสบการณ์ การบริหาร นโยบายซื่อตรงและอุดมการณ์หนักแน่น
“อนุทิน”ติดอันดับ6
อันดับ 6 ร้อยละ 2.85 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะ มีความรู้ ความสามารถ และมีนโยบายที่ตอบสนองประชาชนได้ อันดับ 7 ร้อยละ 1.70 ระบุว่าเป็น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน (พรรคประชาธิปัตย์) เพราะมีความสามารถด้านการบริหาร เป็นคนทำงานจริงจัง และมีประสบการณ์ทางการเมือง อันดับ 8 ร้อยละ 1.20 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) เพราะมีประสบการณ์การทำงานที่ยาวนาน และมีภาพลักษณ์ที่สื่อถึงความมั่นคง
และร้อยละ 1.50 ระบุอื่นๆ ได้แก่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง (พรรคประชาชาติ) นายวราวุธ ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ (พรรคกล้าธรรม) นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนา) นายกันวีร์ สืบแสง (พรรคเป็นธรรม) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร (พรรคประชาชน) และ นายชวน หลีกภัย (พรรคประชาธิปัตย์)
เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่จะสนับสนุนวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 37.10 ระบุว่าเป็นพรรคประชาชน อันดับ 2 ร้อยละ 28.05 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 13.75 ระบุว่า ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 4 ร้อยละ 8.75 ระบุว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 5 ร้อยละ 3.65 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 6 ร้อยละ 3.35 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย อับดับ 7 ร้อยละ 2.00 ระบุว่าเป็น พรรคไทยสร้างไทย อับดับ 8 ร้อยละ 1.85 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ และร้อยละ 1.50 ระบุอื่นๆ ได้แก่ พรรคประชาชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรคกล้าธรรม พรรคไทรวมพลัง และพรรคเป็นธรรม
ลูกทีมเพื่อไทยขอบคุณโพล
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศูนย์สำรวจความคิดเห็นสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้าโพล) เปิดเผยผลการสำรวจเรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 1/2568” บุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ (30 มี.ค.) พบว่าอันดับ 1 คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่คะแนน 30.90% ว่า ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความไว้วางใจ และให้ความเชื่อมั่นต่อ น.ส.แพทองธาร โดยให้เหตุผลว่า ชื่นชอบการทำงานและนโยบายของพรรคเพื่อไทย พร้อมทั้งอยากให้โอกาส น.ส.แพทองธาร บริหารราชการแผ่นดินต่อไป เพื่อพิสูจน์ผลงานรัฐบาล น.ส.แพทองธาร เน้นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเชิงโครงสร้างอย่างเป็นระบบ ด้วยนโยบาย “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส สร้างรายได้ใหม่ แก้หนี้ ปราบยาเสพติด” ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ พรรคเพื่อไทยและคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร มุ่งมั่นที่จะผลักดันนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพ ลดรายจ่ายในครัวเรือน และสร้างรายได้ใหม่ให้กับประชาชนผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่ได้ดำเนินการไปแล้วใน 2 เฟส และกำลังเตรียมเข้าสู่เฟสที่ 3 เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง พร้อมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งทั่วประเทศ
ตีปี๊บโครงการดิจิทลวอลเล็ต
โครงการดิจิทัลวอลเล็ตนี้ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่สำคัญในการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ สร้างการหมุนเวียนเศรษฐกิจ และเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน คะแนนนิยมนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่น ยอมรับในศักยภาพและวิสัยทัศน์ของ น.ส.แพทองธาร ที่ประชาชนมองว่าเป็นผู้นำที่มีความสามารถและตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง ความคาดหวังของประชาชนที่มอบให้กับผู้นำรัฐบาล เป็นทั้งความไว้วางใจและเป็นแรงผลักดันให้นายกรัฐมนตรีได้เดินหน้าพัฒนาประเทศต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
“เสียงสนับสนุนที่สะท้อนผ่านคะแนนนิยมอันดับ 1 ในครั้งนี้ จะเป็นกำลังใจเป็นพลังสำคัญในการเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายอย่างเต็มที่ ขอขอบคุณทุกกำลังใจและความไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อนายกฯ แพทองธาร” นายอนุสรณ์ กล่าว
พท.ขับ”เอกราช ช่างเหลา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความคืบหน้าในการประชุมพรรคเพื่อขับนายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทยหลังไปปรากฏตัวร่วมประชุมจัดตั้งสาขาพรรคกล้าธรรมที่จังหวัดขอนแก่นว่า มีสมาชิกพรรคภูมิใจไทยทำเรื่องเพื่อขับออกเสนอมาแล้ว ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมพรรค ส่วนจะขับออก ด้วยพฤติกรรมอะไรนั้น ต้องขอดูรายละเอียดอีกครั้ง และยังไม่ทราบว่าจะมีการประชุมพรรควันไหนเนื่องจากขณะนี้กำลังยุ่งอยู่กับการแก้ปัญหา เหตุการณ์แผ่นดินไหว
เมื่อถามถึงการเลือกตั้งซ่อม สส. นครศรีธรรมราช หลังผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทยถูกใบแดง นายอนุทินกล่าวว่า เราก็ต้องส่งผู้สมัครในการเลือกตั้งซ่อมที่จะมีขึ้น ส่วนจะส่งใครลงรักษาเก้าอี้ ได้มอบหมายให้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้เป็นผู้พิจารณา
ชงปปช.ตรวจสอบสมบัติ’ก่อแก้ว’
ด้าน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อป.ป.ช. ทำการตรวจสอบเปรียบเทียบบัญชีทรัพย์สินของนายก่อแก้ว พิกุลทอง ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. แต่ละครั้งในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ยื่น ต่อ ป.ป.ช.เข้าข่ายมีเหตุอันควรสงสัยว่าร่ำรวยผิดปกติ ตามความในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 115 หรือไม่ นายเรืองไกร กล่าวว่า ในหนังสือดังกล่าว ขอให้ ป.ป.ช.พิจารณาตรวจสอบเป็นข้อๆ ดังนี้
ข้อ 1.จากการนำบัญชีทรัพย์สินของนายก่อแก้ว พิกุลทอง ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. จำนวน 4 ครั้ง มาเปรียบเทียบกันเฉพาะในส่วนของนายก่อแล้ว พิกุลทอง พบว่ากรณีวันที่ 2 สิงหาคม 2554 นายก่อแล้ว พิกุลทอง ยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน เป็นเงิน 74,052,959.41 บาท กรณีวันที่ 9 ธันวาคม 2556 นายก่อแล้ว พิกุลทอง ยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน เป็นเงิน 86,114,497.40 บาท กรณีวันที่ 8 ธันวาคม 2557 นายก่อแล้ว พิกุลทอง ยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน เป็นเงิน 100,399,398.45 บาท และกรณีวันที่ 7 สิงหาคม 2567 นายก่อแล้ว พิกุลทอง ยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน เป็นเงิน 153,035,103.61 บาท ข้อ 2.จากตารางเปรียบเทียบที่แนบมาด้วย จะเห็นได้ว่า นายก่อแก้ว พิกุลทอง มีทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นแต่ละครั้งพอสมควร กรณีจึงมีเหตุควรสงสัยว่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นมานั้นเข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติ ตามความในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 115 หรือไม่ ข้อ3.ทั้งนี้ เพื่อให้ ป.ป.ช. มีข้อมูลนำไปประกอบการตรวจสอบ จึงได้ค้นข่าวจาก Google เพื่อให้ ป.ป.ช.รวมรวมข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาด้วย ข้อ4. ดังนั้น จึงขอให้ ปปช.ตรวจสอบตามความในมาตรา 116 โดยนำตารางเปรียบเทียบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายก่อแก้ว พิกุลทอง ไปพิจารณาเพื่อเทียบเคียงกับทรัพย์ สินที่มีอยู่ในขณะดำเนินการไต่ สวน ประกอบกับรายได้และรายจ่าย และการเสียภาษีเงินได้ของนายก่อแก้ว พิกุลทอง ที่ยื่นต่อ กกต. และที่ยื่นต่อกรมสรรพากรทุกปี มาประกอบการตรวจสอบด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี