เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568 จากกรณีที่มีรายงานข่าวว่า ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ถนนพระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน และโรงพยาบาลตำรวจ ตรวจพบการสั่นไหวของอาคาร จึงได้มีการสั่งอพยพคนออกจากตึก นั้น ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า "ประกาศแจ้ง เหตุการณ์อาฟเตอร์ช็อกขนาดเล็กวันนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่ออาคารในโรงพยาบาลตำรวจ เหตุการณ์ปกติ
พล.ต.ต.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ เผย พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8 ) สั่งการให้ พล.ต.ต.สามารถ ม่วงศิริ รองนายแพทย์ใหญ่ แจ้งทุกท่านว่า ตามที่ปรากฏสถานการณ์แผ่นดินไหว (อาฟเตอร์ช็อก) ซึ่งมีความสั่นสะเทือนขนาดเล็ก ไม่ส่งผลกระทบต่ออาคารในโรงพยาบาลตำรวจแต่อย่างใด
จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ บุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ คนไข้ และญาติตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก และขอให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติในอาคารได้
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามโดย inbox เข้ามาได้ที่เพจ Facebook ของโรงพยาบาลตำรวจ และสามารถโทรเข้ามา สอบถามที่ 02 2076000 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง"
ด้าน พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการจัดทีมวิศวกรและทีมช่างโยธามีการตรวจสอบทุกอาคารในสำนักงานตำรวจ รวมถึงโรงพยาบาลตำรวจ มีการลงนามโดยวิศวกรที่ตรวจสอบ และได้รับการยืนยันว่าอาคารภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวแต่อย่างใด ผลกระทบที่แตกร้าวเกิดจากการใช้งานมานาน แต่รากฐานมั่นคง อยากจะยืนยันกับพวกเราทุกคน เนื่องจากวิศวกรและช่างโยธามีการยืนยันแล้ว เพิ่มเติมว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ให้วิศวกรลงพื้นที่แฟลตที่พักอาศัยที่มีอายุการใช้งานมานาน ตั้งแต่แฟลตลือชา เฉลิมลาภ ทั้งหมดเลย 6 อาคารที่มีอายุการใช้งานมานานโดยเฉพาะที่วัชรพล โดยในวันพุธนี้ (2 เม.ย.) ทุกอย่างจะเรียบร้อย เพราะฉะนั้นขอให้พวกเราทุกคนเชื่อมั่นในการทำงานของผู้บังคับบัญชา และขอยืนยันว่าตรวจสอบเมื่อเช้าแล้ว ไม่มีและไม่ได้รับแจ้งเหตุแผ่นดินไหวแต่อย่างใด
"ตอนนี้สิ่งที่ตนเป็นห่วงอีกเรื่อง อยากให้ผู้บังคับบัญชาแต่ละอาคารถือว่าครั้งนี้เป็นบทเรียน เราไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกเมื่อไหร่ ตนได้สั่งผู้การสันติบาล 3 ให้กำหนดพื้นที่อพยพเคลื่อนย้าย ในกรณีที่เกิดเหตุให้ชัดเจน เรามีอยู่ 20 ชั้น จะไปอยู่พื้นที่ไหน โซนไหน ลงมาจากอาคารแล้วให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบและเช็คยอด มีลูกน้องหลงเหลืออยู่หรือไม่ เพื่อให้สันติบาลจัดชุดเข้าไปค้นหา อย่างเช่นเมื่อเช้าหลายคนลงมาแล้วไปยืนอยู่ใต้อาคาร ไปยืนในพื้นที่ใกล้เคียงที่มีกระจก ถือเป็นพื้นที่อันตราย ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมา สิ่งที่พังก่อนคือกระจก เศษหิน เศษปูน เพราะฉะนั้นถ้าเคลื่อนย้ายออกจากตัวอาคารแล้วพยายามเข้าหาที่โล่งเป็นหลัก อาคาร สตม.กระจกทั้งหลังให้หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ ด้านหน้าอาคารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถไปยืนได้เลย"ร อง ผบ.ตร.กล่าว
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น.ที่โรงพยาบาลตำรวจ ได้อพยพคนลงจากอาคาร เนื่องจากได้รับแจ้งว่า อาคารมีการสั่นไหว โดยพบว่า บุคลากรทางการแพทย์ ได้ทำการอพยพผู้ป่วยออกจากตึกสูงอย่างเร่งด่วน เป็นการชั่วคราว
ต่อมา พล.ต.ต.สามารถ ม่วงศิริ รองนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ได้ประกาศเสียงตามสาย ไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ขออภัยในความไม่สะดวก และขออภัยพี่น้องประชาชนทุกท่าน
พล.ต.ต.สามารถ กล่าวว่า ตนเองตรวจสอบแล้วไม่มีคำสั่งอพยพ และยังไม่มีการย้ายคนไข้ทั้งสิ้น โดยเมื่อเสาร์ - อาทิตย์ที่ผ่านมา โยธาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และวิศวกรรมสถาน มีการตรวจสอบโครงสร้างทั้งโรงพยาบาล มีรอยร้าวบ้าง จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว แต่ไม่สะเทือนโครงสร้าง ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ายังเปิดใช้บริการได้
ส่วนวันนี้ที่มีการตื่นตระหนก พล.ต.ต.สามารถ กล่าวว่า เชื่อว่าเป็นเพราะโซเชียลเรื่องตึกเอียงที่ศูนย์ราชการ ซึ่งยังไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ เหมือนกับตอนนี้ทุกคนแพนิค จึงขอว่าอย่าตื่นตกใจ เช็กข่าวให้ชัวร์ก่อน
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 10.50 น.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขตปทุมวัน ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับ รพ.ตำรวจ มีข้าราชตำรวจ รับรู้ถึงแรงสั่นไหว เวียนหัว ก่อนจะมีคำสั่งอพยพลงจากอาคาร
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี