‘มท.1’ คุย ‘ทูตญี่ปุ่น’ ประสานขอแรงดึง ‘ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง’ ร่วมสอบหาต้นตอตึก ‘สตง.’ ถล่ม ยันเร่งค้นหา ‘ผู้ประสบเหตุ’ เปลี่ยนม้ากลางศึกไม่ได้ ต้องสร้างขวัญกำลังใจ ประชาชนทั้งไทย-เทศ ย้ำการใช้ชีวิตอยู่ในประเทศต้องปลอดภัย
วันที่ 1 เมษายน 2568 ที่กระทรวงมหาดไทย(มท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้การต้อนรับและหารือ กับ นายโอตากะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ในโอกาสหารือการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอาคารถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว โดยมี น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ร่วมหารือ
นายอนุทิน กล่าวว่า ท่านทูตญี่ปุ่นได้นำความห่วงใยของรัฐบาลและประชาชนชาวญี่ปุ่นนำความเสียใจมายังประชาชนชาวไทย และทางรัฐบาลญี่ปุ่นพร้อมให้การสนับสนุนหากไทยร้องขอ โดยเฉพาะเรื่องการบริหารจัดการภัยพิบัติ อย่างที่อาคารสตง. ผ่านมาแล้ว 96 ชั่วโมง คงจะเปลี่ยนม้ากลางศึกไม่ได้ การเปลี่ยนวิธีช่วยชีวิตก็คงไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสม แต่ได้ขอให้ญี่ปุ่นช่วยส่งนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาคาร จะได้มาช่วยคณะกรรมการที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้แต่งตั้งไว้ เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงถึงสาเหตุในการถล่มครั้งนี้ และยังเป็นการให้เขามาช่วยให้ความเห็น และยืนยันการก่อสร้างในประเทศไทยมีการก่อสร้างและออกแบบที่ถูกต้อง ความปลอดภัยก็น่าบังเกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นใจกับประชาชน โดยเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ยินดีที่จะได้ประสานทีมผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่น เพื่อเป็นที่ปรึกษาให้ความเห็น หรือ second opinion มาช่วยยืนยันให้มั่นใจเพิ่มมากขึ้น ทั้งด้านเทคนิค อาทิ หากเกิดแผ่นดินไหวลักษณะนี้ การก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างมีการกำหนดปัจจัยด้านความปลอดภัย (Safety Factor) การทนต่อความสะเทือนแผ่นดินไหว ที่มีความเหมาะสมหรือต้องเพิ่มเติมส่วนใดอีกหรือไม่” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะได้แลกเปลี่ยนในเรื่องระบบการเตือนภัยเพราะประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีระบบการเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพสูงสุดที่เราสามารถขอรับองค์ความรู้เพื่อพัฒนาระบบการเตือนภัยของไทยต่อไป เพื่อสร้างความมั่นใจและคลายความวิจงตกกังวลของสังคม เสริมความมั่นใจให้กับประชาชนคนไทยที่อาศัยในคอนโดและออฟฟิศต่าง ๆ บนอาคารสูงได้สบายใจขึ้น และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย และชาวต่างประเทศว่า การใช้ชีวิตในประเทศไทยจะต้องมีความปลอดภัย
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ขณะนี้คือการสร้างขวัญและกำลังใจ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั้งไทยและต่างประเทศ ว่า การใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยจะต้องปลอดภัย รวมถึงการทำให้ประเทศไทยกลับมาให้เป็นปกติโดยเร็วที่สุด จึงได้ให้ความมั่นใจกับท่านทูตไป
เมื่อถามถึง ความคืบหน้าในการช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายในซากอาคาร สตง. นายอนุทิน กล่าวว่า การช่วยเหลือคืบหน้าไปมาก เมื่อคืนวันที่ 31 มี.ค.68 ตนได้เข้าไปในพื้นที่ จะเห็นได้ว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ไม่ได้หยุด ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากนานาประเทศ ทั้งอิสราเอล สหรัฐอเมริกา โดยการจัดการหน้างานถือว่ามีความเป็นมืออาชีพ มีประสิทธิภาพสูง
“การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในวันนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำในที่ประชุมว่า ต้องเร่งสอบสวนเรื่องอาคารที่ทำการ สตง.แห่งใหม่ ถล่ม ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน โดยต้องทราบรายละเอียดเบื้องต้นก่อน เช่น ตึกออกแบบถูกต้องหรือไม่ ก่อสร้างถูกต้องหรือไม่ และใช้วัสดุมาตรฐานหรือไม่ ผมก็ได้กำชับอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เร่งรัดให้ได้ข้อสรุปตามข้อสั่งการนายกฯให้มากที่สุด”รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี