ไม่มีวันเนรคุณปชช.
‘เฉลิมชัย’ปลุกใจประชาธิปัตย์สู้
เปิดทางคนรุ่นใหม่เข้าเสริมทัพ
“เฉลิมชัย” ปลุกขวัญลูกพรรคปชป.เดินหน้าต่อไป ไม่มีวันเนรคุณประชาชน ยันที่ผ่านมา ไม่เคยทำผิดหลักการพรรค พร้อม เปิดทาง “รุ่นใหม่” สยบครหาพรรคไดโนเสาร์ ด้าน “ภูมิใจไทย” ก้าวเข้าสู่ 17 ปี เล่นใหญ่เปลี่ยนโลโก้เป็น “พรรคสีน้ำเงิน” ตัวจริง มาพร้อมสโลแกน “เดินหน้าการเมือง สันติสามัคคี เทิดทูนสถาบัน”
เมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีการจัดงาน พรรคประชาธิปัตย์ในโอกาสครบรอบ 79 ปีภายใต้แนวคิด “ก้าวต่อไปสู่ทศวรรษที่ 8”นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค
ได้ขึ้นเวทีพบปะสมาชิกพรรคที่มาร่วมงานตนตั้งใจจะพูดถึงแนวทางการทำงานของพรรคฯ ในวันประชุมใหญ่ของพรรคฯ วันที่ 26เม.ย.นี้ โดยตั้งใจจะพูดถึงการที่ตนมาพร้อมกับกรรมการบริหารทุกคนจะพาพรรคเดินไปแบบใด การที่หลายๆ คนกำลังมองว่า ตนจะทำพรรครอดหรือไม่ นี่คือโจทย์ที่ท้าทายที่สุดของผม เป็นทั้งแรงกำลังใจที่ผมจะต้องนำความสบประมาทมาเป็นพลังในการขับเคลื่อนพรรคประชาธิปัตย์ให้ได้ และยืนยันว่าไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนประชาธิปัตย์ไม่เคยผิดหลักการและอุดมการณ์ตั้งแต่วันแรกที่ตั้งพรรค ซื่อสัตย์สุจริต ยึดมั่นการปกครองในประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ คือหัวใจของการเมืองไทย หัวใจของประเทศไทย
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไร ไม่ว่าเขาจะรู้จักประชาธิปัตย์มากหรือน้อย เขาจะรักหรืออยากทำลายพรรคประชาธิปัตย์ก็แล้วแต่ แต่พรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของตน ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงหลักการและอุดมการณ์อย่างเด็ดขาด ตนขอขอบคุณพี่น้องชาวประชาธิปัตย์ทุกคนที่ยังเชื่อมั่นในพรรคฯ ดังนั้นกรรมการบริหารพรรค และ สส. ของพรรคจะไม่ทำให้ผิดหวัง สิ่งหนึ่งที่ตนติดตัวอยู่ในไขสันหลังไม่ใช่เลือด แต่มากกว่า ตนจะไม่มีวันเนรคุณพี่น้องประชาชน และประเทศชาติอย่างเด็ดขาด พรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าไปข้างหน้าได้ด้วยเอกภาพของพวกเราทุกคน ให้เทวดาคนใดคนหนึ่งมาคนเดียวก็ทำไม่ได้หรอก สิ่งที่ตนได้ทำมาในรอบปีก็คือการสร้างความเป็นเอกภาพภายในพรรค ประชาธิปัตย์กำลังเดินไปข้างหน้า อาจจะไม่ได้วิ่ง อาจจะไม่ได้ปีนภูเขา แต่เราค่อยๆ ขึ้นเนินไปเรื่อยๆ และเมื่อตนมั่นใจว่าประชาธิปัตย์เราตั้งมั่นได้แล้ว ตนจะพาประชาธิปัตย์ลุยเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง และเป็นพรรคเดียวที่มีตัวแทนจังหวัดพร้อมส่งผู้แทนทั้ง 77 จังหวัด
“เพราะรากฐานเดิมของพรรคประชาธิปัตย์คือสมาชิกพรรค สาขาพรรค ตัวแทนพรรค เราได้ดำเนินการมาประมาณ 6 เดือน ด้วยกันเดินอย่างมั่นคง ไม่ได้เดินแบบฉาบฉวย ไม่มีนักการเมืองคนไหนในประชาธิปัตย์เห็นด้วยกับการซื้อเสียง วันนี้ที่นครศรีธรรมราช เขต 8 ผมบอกพี่ชินวรณ์ บุณยเกียรติ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมฯ พรรคประชาธิปัตย์ว่า ให้ประกาศตั้งแต่วันแรกว่า พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ซื้อเสียง คนที่ต้องการประชาธิปไตยไม่เห็นมาเชียร์ผมเลยสักนิด ผมยืนในหลักการที่ถูกต้อง”หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าว
นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ถามว่าตนมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อมั่นเชื่อถือได้แค่ไหน ทราบหรือไม่ว่า ตนเป็น สส.ประจวบคีรีขันธ์ 4 สมัย เป็นคนที่ในทางการเมืองบอกว่าสอบตกยากที่สุดเปอร์เซ็นต์สอบตกเป็นศูนย์ ตนยึดมั่นในความเป็นประชาธิปัตย์ ยึดมั่นในความเป็นประชาธิปไตยสุจริต ชีวิตตนไม่เคยซื้อเสียงเลย ไม่เคยซื้อเสียงเลยแม้แต่เสียงเดียว และวันที่ตนแพ้ คนถามตนว่าทำไมไม่ซื้อ ตนบอกว่าขอให้ตนเป็นนักการเมืองในความตั้งใจของตนสักคนได้หรือไม่ การเลือกตั้งปี 2562 ตนแพ้ไป 106 เสียง ตนไม่ขอนับคะแนนใหม่ แต่ตนภูมิใจว่าชีวิตทางการเมืองของตนไม่เคยซื้อเสียง คนที่บอกว่าอย่าซื้อเสียง ไม่เคยให้กำลังใจตนด้วยซ้ำ แต่ตนก็ยังยึดมั่นอย่างนั้น เพราะชีวิตตนอยากบันทึกไว้ว่า ตนไม่เคยซื้อเสียง เพราะตนจะไม่ลง สส.เขตอีกแล้ว แล้วมันก็จะเป็นประวัติกับตัวเองว่า ชีวิตทางการเมืองของตนทั้งชีวิตไม่ซื้อเสียง ถ้าบอกว่าการเมืองต้องสุจริต ต้องไม่มีการซื้อเสียง ไม่มีอามิสสินจ้าง ก็มาช่วยกัน มาช่วยประชาธิปัตย์วันนี้ มาช่วยตน มาช่วยพวกเราทุกคน ตนจะทำการเมืองสุจริตคนเดียวได้อย่างไร ถ้าตนไม่มีพี่น้องประชาชน ไม่มีสมาชิกพรรคคอยเป็นกำลังใจให้ตน คอยอยู่ข้างหลังตน
“ผมต้องการนำพรรคประชาธิปัตย์ก้าวสู่ทศวรรษที่ 8 ด้วยศักดิ์ศรี ด้วยการเป็นพรรคการเมืองที่มีหลักการและอุดมการณ์ที่ชัดเจน ผมมั่นใจว่าประชาธิปัตย์เกลียดการทุจริต เพราะฉะนั้น วันที่ประชาธิปัตย์ไปเป็นรัฐบาล เงื่อนไขอย่างหนึ่งคือจะต้องไม่มีการทุจริต ถ้ามีการทุจริตและไม่มีการดำเนินการประชาธิปัตย์ก็ร่วมไม่ได้ การตัดสินใจทางการเมืองในความเป็นนักการเมืองมีได้ 2 อย่าง 1. เป็นฝ่ายค้าน 2. เป็นรัฐบาล มีพรรคการเมืองไหนบอกว่าเป็นกลางๆ ผมยังไม่เคยเห็น และผมก็ไม่เคยเห็นพรรคการเมืองไหนที่ตั้งพรรคมาแล้วบอกว่าผมจะขอเป็นฝ่ายค้านทั้งชีวิต ผมว่าชาวบ้านคงไม่เลือกหรอก เพราะจะเลือกไปทำไม ในเมื่อไปแก้ปัญหาให้ประชาชนไม่ได้ แต่การไปร่วมรัฐบาลจะต้องมีเหตุและผล จะต้องมีการพิจารณาว่าสถานการณ์นั้นเหมาะสมหรือไม่ เพราะฉะนั้นการตัดสินใจของประชาธิปัตย์ทุกครั้งเป็นการตัดสินใจโดยรวมเพื่อพรรคเป็นหลัก” นายเฉลิมชัย กล่าว
ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พรรคภูมิใจไทย จัดพิธีทำบุญครบรอบวันก่อตั้งพรรค ก้าวสู่ปีที่ 17 มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 มีวาระสำคัญคือ การแก้ไขข้อบังคับพรรคภูมิใจไทย และเปลี่ยนโลโก้พรรค เป็นสีน้ำเงิน ล้วนทั้งหมดซึ่งหมายถึงการดำเนินงานทางการเมืองที่ยึดมั่นในวิถีของความเป็นไทย สื่อถึงความรักชาติ จรรโลงศาสนาและเทิดทูนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ของคนไทยทั้งชาติ ภายในการปกครองในระะบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการเปลี่ยนตราสัญลักษณ์ของพรรคภูมิใจไทยว่าพรรคภูมิใจไทย เป็นสถาบันทางการเมือง ที่มีอายุครบ 16 ปี ในวันนี้ว่า พรรคภูมิใจไทย เป็นสถาบันทางการเมือง ที่มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง มีประสบการณ์การทำงานทางการเมือง และการบริหารมาแล้วทุกรูปแบบ ในทุกสถานการณ์การเมือง เป็นพรรคการเมืองฝ่ายบริหาร เป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้าน เป็นพรรคการเมืองที่ถูกแช่แข็งในห้วงเวลาการเมืองไม่ปกติไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด พรรคภูมิใจไทย สามารถบริหารจัดการพรรค ดูแลสมาชิกพรรคและดำเนินงานทางการเมือง มาได้โดยไม่มีสะดุด ไม่มีหยุดพัก เราตั้งใจทำงานเพื่อตอบแทนพี่น้องประชาชน เพราะเราคิดกันแบบนี้ ทำงานกันแบบนี้ เพราะคนภูมิใจไทย เป็นแบบนี้จึงเป็นเหตุให้พรรคภูมิใจไทย เติบโตขึ้นทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง พี่น้องประชาชน ไว้ใจเชื่อใจเรามากขึ้น จำนวนส.ส.ที่เพิ่มขึ้น คือ คำตอบว่า การทำงานของพรรคภูมิใจไทย เป็นที่ชื่นชอบ ของประชาชนมากขึ้นหรือไม่ เชื่อว่าเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ว่าจะมีขึ้นเมื่อไร พรรคภูมิใจไทย จะเติบโตมากขึ้นกว่าปัจจุบัน จะได้รับโอกาส และความไว้วางใจจากประชาชนมากขึ้น อีกเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวด้วยว่า ดังนั้น วันนี้ พรรคภูมิใจไทย โดยที่ประชุมใหญ่ของพรรค จึงมีมติให้เปลี่ยนสีตราสัญลักษณ์ของพรรคภูมิใจไทย เป็น สีน้ำเงิน เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อเรียก หรือ ฉายาที่พี่น้องประชาชน สื่อมวลชนเรียกเรา พรรคสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจ ของสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ทุกคน จากนี้ไป เมื่อกล่าวถึงพรรคสีน้ำเงิน ให้เป็นที่รับรู้ว่า คือ พรรคภูมิใจไทย แต่เราจะไม่นำความเป็นพรรคสีน้ำเงิน ไปแบ่งแยกพี่น้องประชาชน หรือ ก่อให้เกิดความแตกแยก หรือ สร้างสงครามสีเสื้อ สร้างความบอบช้ำ สูญเสียให้แก่พี่น้องประชาชน ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ความเป็นพรรคสีน้ำเงิน ของพรรคภูมิใจไทย จะเป็นสถาบันทางการเมืองที่เป็นหลักให้กับการเมืองไทย ก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นคง เข้มแข็ง ด้วยความสงบ สันติ สามัคคี สร้างความเป็นปึกแผ่นให้แก่ประเทศไทย และธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ตลอดไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี