วันที่ 8 เมษายน 2568  นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง ระบุว่า พรรคร่วมรัฐบาล ลูกไล่ทักษิณ?

มีกระแสข่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กำชับไปที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ให้โหวตรับหลักการในวาระแรก ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … ที่จะเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวาระแรก วันที่ 9 เม.ย.นี้ ทั้งนี้ หากพบว่าพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหนแตกแถว จะพิจารณาให้ออกจากรัฐบาลทันที 

แม้ว่าข่าวนี้นายสรวงศ์ เทียนทองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง แต่ไม่ว่ากระแสข่าวนี้ จะมีข้อเท็จจริงอย่างไรก็ตาม แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงแสดงให้เห็นว่า

1.นายทักษิณคือผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ สามารถบงการพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลได้ทุกพรรค และเห็นได้ว่านางสาวแพรทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีบารมีเพียงพอ ไม่สามารถควบคุมพรรครวมรัฐบาลได้ นายทักษิณจึงต้องออกโรงมาคาดโทษ พรรคร่วมรัฐบาลด้วยตัวเอง

2.เมื่อนายทักษิณออกมาข่มขู่พรรคร่วมรัฐบาลเช่นนี้ ต้องถามหาศักดิ์ศรีพรรคร่วมรัฐบาลว่า เป็นพรรคร่วมรัฐบาลในฐานะนั่งร้านทางการเมือง หรืออะไหล่ทางการเมืองให้กับพรรคเพื่อไทย เมื่อเขาไม่พอใจจะสับโขกอย่างไรก็ได้ โดยไม่ได้รู้สึกว่า ถูกย่ำยีเกียรติยศศักดิ์ศรีของพรรคการเมืองเลย

3.ทักษิณประเมินแล้วว่า ทุกพรรคอยากเป็นรัฐบาล ไม่มีพรรคการเมืองใดอยากเป็นฝ่ายค้าน เพราะการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลมีโอกาสถอนทุน และสะสมทุนไว้สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป เมื่อถูกข่มขู่ว่า ถ้าหากพรรคการเมืองใดไม่โหวตสนับสนุนพรบ.สถานบันเทิงครบวงจรของรัฐบาล ก็จะขับออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้เกิดอาการกลัวว่า จะไม่ได้ร่วมรัฐบาลอีก จึงจำเป็นต้องหาเหตุผลแก้ต้ว อธิบายต่อสังคม จนยอมทิ้งมวลชนผู้สนับสนุนที่กำลังเคลื่อนไหวคัดค้านการเปิดบ่อนคาสิโนของรัฐบาลอยู่ก็ตาม 

การผลักดันกฎหมายเปิดบ่อนคาสิโนจะเป็นจุดวัดใจ ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคร่วมรัฐบาล กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศ