‘แพทย์จุฬารุ่น23-เครือข่าย’ 455 คน แถลงการณ์ค้าน‘กม.กาสิโน’ ยก 5 ข้อสร้างปัญหาหนัก
8 เมษายน 2568 กลุ่มแพทย์จุฬารุ่นที่ 23 และเพื่อนร่วมรุ่น-นิสิตเก่าจุฬาฯ รุ่น 2510 และเครือข่าย จำนวน 455 คน ออกแถลงการณ์เรื่อง “ขอคัดค้านร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (พ.ศ.…)”
ตามที่ปรากฏข่าวการผลักดันร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งจะอนุญาตมีการจัดตั้งสถานคาสิโนอย่างถูกกฎหมายในประเทศไทย โดยมีข้ออ้างว่าจะช่วยกระตุ้นด้านเศรษฐกิจและการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้น
พวกเรากลุ่มแพทย์จุฬารุ่นที่ 23 และเครือข่าย มีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งในระดับบุคคล ครอบครัวและสังคมโดยรวม หากร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ได้รับความเห็นชอบจากสภาผ่านออกมาเป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้
จากหลักฐานทางวิชาการและประสบการณ์จากหลายประเทศที่ได้เปิดให้มีคาสิโนอย่างเสรี พบว่า
1. การพนันในบ่อนคาสิโนส่งผลกระทบทางลบโดยตรงต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกายของประชาชน บุคคลที่ติดการพนันมักมีอัตราการเกิดภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล และฆ่าตัวตายสูงกว่าค่าเฉลี่ย การเสพติดการพนันยังสัมพันธ์กับพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การใช้สารเสพติด ความรุนแรงในครอบครัว การล้มละลายแล้ว รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงที่จะยอมทำการโจรกรรม หรือฉ้อโกงเงินในรูปแบบต่างๆ เพื่อเอาเงินมาใช้หนี้พนัน ซึ่งได้ปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยๆ ในบุคคลที่ติดหนี้พนันในรูปแบบอื่น ๆ
2. คาสิโนเป็นแหล่งกระตุ้นพฤติกรรมเสี่ยงในกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะเยาวชน เช่น ความหมกมุ่นการพนันทำให้ลดความเอาใจใส่ต่อการเรียน การติดหนี้พนัน อาจทำให้เยาวชนตัดสินใจเลือกที่จะก่ออาชญากรรมบางอย่างเพื่อใช้หนี้พนัน ซึ่งเท่ากับเป็นการตัดอนาคตของเยาวชนเหล่านั้นไปโดยปริยาย แม้ในร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว จะมีข้อจำกัดด้านอายุของผู้เข้าไปในสถานประกอบการพนัน แต่ประสบการณ์ในหลายประเทศแสดงให้เห็นว่าเยาวชนยังสามารถเข้าถึงการพนันผ่านทางช่องทางระบบตัวแทน หรือหลบเลี่ยงเข้าไปเล่นในคาสิโนเองได้อย่างง่ายดาย ซึ่งส่งผลกระทบระยะยาวต่อพัฒนาการ ของเยาวชน และคุณภาพชีวิต
3. การเปิดคาสิโนไม่ใช่แนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน รายได้จากการพนันเป็นรายได้ที่แลกมาด้วยต้นทุนทางสังคมที่สูงมาก ทั้ง ความสูญเสียทางเศรษฐกิจของ ประชาชนที่จะสูญเสียไปกับการพนัน และในรายที่ติดการพนันอย่างมาก ก็จะก่อให้เกิดหนี้สินครัวเรือนมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันปริมาณหนี้สินครัวเรือนของครอบครัวไทยก็สูงมากอยู่แล้ว
จากรายงานสถานการณ์หนี้ครัวเรือนและหนี้ภาคธุรกิจของไทยในปีพ.ศ.2567 จัดทำโดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้ากระทรวงพาณิชย์ พบว่า ประชากรไทยมีหนี้ครัวเรือนเป็นมูลค่ากว่า 16.2 ล้านล้านบาทหรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 91 ของ ผลิตภัณฑ์รายได้รวม ในประเทศ (gross domestic product - GDP) ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของประเทศอื่นได้แก่ อินโดนีเซีย อินเดีย จีนและ มาเลเซีย จะมีสัดส่วนของหนี้ครัวเรือน ต่อ GDP อยู่ที่ร้อยละ 16 , 37 , 62 และ 68 ตามลำดับเท่านั้น
แสดงว่าปัจจุบันประชากรไทยมีหนี้ครัวเรือนสูงกว่าประเทศอื่นมากอยู่เป็นหลายเท่าตัวอยู่แล้ว หากเปิดให้มีบ่อนคาสิโนเสรีย่อมจะทำให้เกิดภาวะเป็นหนี้ครัวเรือนของทั้งประเทศสูงกว่านี้อีกมาก
4. หากประชาชนไทยสามารถเข้าไปเล่นพนันในบ่อนคาสิโนได้อย่างถูกกฎหมาย ย่อมทำให้ ประสิทธิภาพของการทำงานต่าง ๆ ลดลง ซึ่งจะทำให้ผลิตภาพแรงงาน (หมายถึงผลผลิตที่ทำได้ต่อแรงงานหนึ่งคน) ลดลงตาม และจะมีผลทำให้รายได้เฉลี่ยต่อหัวหรือรายได้รวมของประเทศลดลง ซึ่งจะทำให้เราไม่สามารถก้าวข้ามจากประเทศในระดับรายได้ปานกลาง ( middle income country) ไปสู่ประเทศในระดับรายได้สูง (high income country) ได้
5. ประเทศไทยยังไม่มีระบบควบคุมและบังคับใช้กฎหมายที่เข้มแข็งเพียงพอ ในปัจจุบัน ประเทศไทยยังไม่สามารถควบคุมปัญหาการพนันออนไลน์และบ่อนพนันเถื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเปิดคาสิโนถูกกฎหมายจะยิ่งเพิ่มความสลับซับซ้อนของปัญหา และขยายช่องว่าง และช่องโหว่ ให้เกิดการฟอกเงินและคอร์รัปชันมากยิ่งขึ้น
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น พวกเรากลุ่มแพทย์จุฬารุ่นที่ 23 เพื่อนนิสิตเก่าจุฬาฯร่วมรุ่น (รุ่น2510 จาก 8 คณะ วิทยาศาสตร์ นิเทศศาสตร์ ครุศาสตร์ รัฐศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ อักษรศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และ พาณิชยศาสตร์และการบัญชี) และเครือข่าย จึงขอคัดค้านการออกพระราชบัญญัติดังกล่าวและเรียกร้องให้รัฐบาลและรัฐสภา พิจารณาผลกระทบด้านสุขภาพ สังคม และจริยธรรมอย่างรอบด้าน และยุติความพยายามในการผลักดันกฎหมายฉบับนี้โดยทันที
ผู้บริหารประเทศ เป็นผู้ที่รับผิดชอบนำพานาวาแห่งรัฐสยามนี้ให้เดินไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างแท้จริงในอนาคต ผู้บริหารประเทศจึงควรส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจที่สร้างสุขภาวะที่ดีให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ควรนำอนาคตของประเทศไปแลกกับรายได้ระยะสั้นที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง และผลเสียนานับประการพวกเราขอแสดงจุดยืนอย่างมั่นคงเพื่อสังคมที่เป็นธรรมและยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี