คปท.-แนวร่วมเครือข่ายฯ ใสเสี้อขาว เดินเท้าบุกสภาฯ ปักหลักชุมนุมเกาะติด ไล่บี้'หยุด-ยกเลิก‘กาสิโน’เอาออกจากเมืองไทย ไม่ใช่แค่เลื่อน ’พิชิต‘ลั่น อย่าทำให้สภาฯเป็นสีดำฟอก 'ธุรกิจสีเทา'เป็น‘สีขาว‘ ด้าน‘หมอวรงค์’ เตือนจะเป็นแหล่งรวมมาเฟีย-ซ่องสุมโจร ขู่ ’รัฐบาล‘ หากยังฝืนท้าทายประชาชน ประชุมสภาฯสมัยหน้าไม่มีแน่นอน
เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และแนวร่วม ประกอบด้วย คณะหลอมรวมประชาชน , ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และ กองทัพธรรม นำโดย นายพิชิต ชัยมงคล แกนนำคปท. และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากร และ ผู้ก่อตั้งคณะหลอมรวมประชาชน นายนิติธร ล้ำเหลือ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เป็นต้น ได้นัดรวมตัวกันที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล เดินเท้ามายังอาคารรัฐสภา เพื่อรวมพลังหยุดร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร หรือ ร่างพ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และปกป้องประเทศชาติ ภายหลังจากที่รัฐบาล ประกาศเลื่อนร่างกฎหมายดังกล่าวออกไปก่อน เพื่อขอไปรับฟังความคิดเห็นและชี้แจงภาคส่วนต่างๆให้เข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน แล้วค่อยกลับมาพิจารณาในช่วงสมัยประชุมสภาฯหน้า
ทั้งนี้ ทางกลุ่มคปท.พร้อมเครือข่ายฯนัดร่วมตัวโดยสวมใส่เสื้อสีขาว มีข้อความสกรีนสัญลักษณ์"ไม่เอากาสิโน"และออกเดินเท้าจากบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ใกล้ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่เวลาประมาณ08.30น.และเดินเท้ามาถึงอาคารรัฐสภาในเวลาประมาณ 09.40น. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้ชุมนุมทยอยเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
โดยทันทีที่ทางกลุ่มฯเดินเท้ามาถึงบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา ฝั่งวัดแก้วฟ้าจุฬามณี ก็ได้เริ่มทยอยปักหลักชุมนุม ตั้งเต๊นท์พักคอยเพื่อติดตามสถานการณ์ โดยปิดทางเข้าออกบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา ขณะที่การดูแลรักษาความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.บางโพ คอยดูแลบริเวณโดยรอบ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภา ที่รักษาความปลอดภัยด้านในอาคารรัฐสภา
โดยนายพิชิต แกนนำคปท.กล่าวปราศรัยช่วงหนึ่งว่า จากพฤติกรรมการกระทำของรัฐบาลที่ผ่านมา ตั้งแต่การรีบเร่งเลื่อนวาระขึ้นมารอพิจารณาในสภาฯ จนถึงการที่รัฐบาลประกาศเลื่อนร่างกฎหมายฯออกไปวานนี้(8เม.ย.)สุดท้ายสิ่งที่ผู้ชุมนุมมารวมกันที่นี่ เจตนาของเราไม่ใช่ให้เลื่อนกาสิโน แต่ให้หยุดกาสิโนออกจากเมืองไทย ที่รัฐบาลเลื่อนร่างกฏหมายออกไป เพราะภาคส่วนต่างๆแสดงตัวออกมาว่าไม่เห็นด้วยที่เมืองไทยต้องมีกาสิโน หวังว่านายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ที่เคร่งครัดในศาสนาอิสลาม จะได้ยินเสียงของประชาชนที่ไม่เอากาสิโน ไม่ใช่เลื่อนกาสิโน ซึ่งวาระที่เลื่อนออกไปจะเป็นการลักหลับประชาชนในอนาคต ดังนั้น ประธานสภาฯอย่าทำให้สังคมตราหน้าว่าทำให้สภาฯกลายเป็นสีดำที่ฟอกธุรกิจสีเทาให้กลายเป็นสีขาว
ขณะที่นพ.วรงค์ ประธานพรรคไทยภักดี ปราศรัยว่า ภายหลังจากที่มีข่าวว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เลื่อนพิจารณาร่างพ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ พวกเราดีใจมากแต่เป้าหมายหลักในการต่อสู้ของเราคือการยกเลิกเท่านั้น ฉะนั้นหากรัฐบาลยังไม่หยุดกาสิโน สุดท้ายแล้วเราคงต้องหยุดรัฐบาล การต่อสู้รอบนี้จึงเป็นรอบสุดท้ายของประชาชน เพราะที่นายกฯบอกว่าจำเป็นต้องเลื่อนกาสิโน โดยให้เหตุผลว่าประเทศชาติมีปัญหาเร่งด่วน อาทิ เหตุแผ่นดินไหว เรื่องภาษีสหรัฐ เรามองว่าแผ่นดินไหวเกิดขึ้นมานานแล้วแต่รัฐบาลกลับเพิ่งรู้ตัว จึงถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างมาก ดังนั้นหากรัฐบาลยังคงท้าทายประชาชนอีก ขอย้ำว่าในการประชุมสภาฯสมัยหน้าไม่มีแน่นอน
“พวกเราไม่ขอเรียกสิ่งนี้ว่าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แต่ขอเรียกว่ากาสิโนแทน เพราะคือแหล่งรวมมาเฟียและแหล่งซ่องสุมของโจร จึงขอส่งเสียงไปยังรัฐบาลว่าต้องหยุดกาสิโน ไม่เช่นนั้นจะไม่มีสิทธิอยู่บนผืนแผ่นดินไทย” นพ.วรงค์ กล่าว
ทั้งนี้ ทางแกนนำคปท. แจ้งต่อผู้ชุมนุมว่า จะปักหลักชุมนุมติดตามสถานการณ์ในสภาฯ ไปจนกว่าจะมีการหยิบยกเรื่องร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ขึ้นมาหารือในสภาฯว่าจะมีเลื่อนออกไปจริงหรือไม่ โดยยืนยันว่าไม่ไว้ใจสิ่งที่สภาฯกำลังดำเนินการ และต้องการให้มีการหยุดร่างกฎหมายดังกล่าวที่มีเรื่องกาสิโนเป็นจุดสำคัญในการขับเคลื่อน
-002
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี