นายกฯสั่งผลักดันท่องเที่ยว
รองรับเทศกาล‘สงกรานต์’
เกาะสมุยสุดคึกคัก
ต่างชาติแห่มาเยือน
นายกฯ ย้ำทุกหน่วยงานปรับโหมดผลักดันท่องเที่ยวรับสงกรานต์ ขณะที่เกาะสมุย คึกคัก นักท่องเที่ยวแห่เดินทางแน่น ตามรอย ‘ลิซ่า’ จากซีรีส์ดัง ส่วนแรงงานต่างด้าวทยอยกลับภูมิลำเนา ร่วมฉลองสงกรานต์
เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง หรือเทียบเท่า ครั้งที่ 4/2568 ว่าอยากให้ทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วน กลับมาเร่งการท่องเที่ยวของเราต่อในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่เราจะสามารถผลักดันและนำเงินเข้าประเทศได้ ซึ่งจะทำให้สินค้า เอสเอ็มอี มีเงินเข้ามาหมุนเวียน เตรียมการค้าขาย โรงแรมก็เตรียมพร้อมสำหรับช่วงสงกรานต์หมดแล้ว ขอให้ทุกคนกลับเข้าสู่โหมดจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยของเรา เป็นเดือนเมษายนที่น่าท่องเที่ยวเหมือนเดิม เราก็ต้องมาร่วมมือกัน โดยตนและรัฐบาลก็ผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวของ น.ส.แพทองธาร ว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีกำหนดการเปิดงาน Maha Songkran World Water Festival 2025 วันที่ 12 เมษายน ที่ท้องสนามหลวง โดยมีรัฐมนตรีและคณะทูตานุทูต ร่วมกิจกรรม จากนั้นวันที่ 13 เมษายน นายกฯ จะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ โดยช่วงบ่าย จะเป็นประธานเปิดงาน World Songkran Thapae Chiangmai ที่ถนนท่าแพ และช่วงเย็น เป็นประธานเปิดงาน “MY WATER WORLD SONGKRAN FESTIVAL 2025” ที่ศูนย์การค้าเมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การเดินทางกลับ จ.เชียงใหม่ ครั้งนี้ นายกฯ จะเดินทางไปพร้อมกับนายทักษิณ ชินวัตร บิดา เพื่อร่วมประเพณีรดน้ำดำหัว ที่บ้านพักส่วนตัวใน อ.แม่ริม ในวันที่ 14 เมษายน และใช้วันหยุดยาวพักผ่อนกับครอบครัว พบญาติๆ ที่ จ.เชียงใหม่ รวมถึงทำบุญในช่วงเทศกาลสงกรานต์
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สนามบินนานาชาติสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาที่เกาะสมุย อย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางมาจากประเทศแถบยุโรป มีเป้าหมายมาท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเทศบาลนครเกาะสมุย เตรียมจัดกิจกรรมร่วมกับคณะกรรมการชุมชน หมู่ 3 ต.อ่างทอง โดยจัดกิจกรรมสาดน้ำวันสงกรานต์แบบอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย สวมชุดผ้าไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชื่นชอบกิจกรรมดังกล่าว นอกจากนี้ยังได้พักผ่อนตามชายหาดด้วย
ด้าน น.ส.ณิชฐารัศม์ วาณิชย์เจริญ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเกาะสมุย กล่าวว่า สงกรานต์ปีนี้ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวดีมาก เกาะสมุยมีการจัดประเพณีวันสงกรานต์ย้อนยุค มีการตักบาตร สรงน้ำพระ พร้อมรดน้ำขอพรจากผู้สูงอายุ และขบวนแห่ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ มาเที่ยวสงกรานต์ที่เกาะสมุย ซึ่งจากการตรวจสอบที่พักหลายๆ แห่ง พบว่ามีนักท่องเที่ยวจองห้องพักแล้วกว่า 80% ส่วนสายการบิน ก็มีโปรโมชั่นให้นักท่องเที่ยวในช่วงดังกล่าว และส่วนหนึ่งได้เดินทางมาตามรอยซีรีส์ The White Lotus season 3 ในโลเคชั่นที่ ‘ลิซ่า’ ร่วมแสดง ซึ่งต่างส่งผลดีกับการท่องเที่ยวเกาะสมุย
ส่วนที่ จ.นครพนม บริเวณสามแยกองค์พญาศรีสัตตนาคราช ซึ่งเป็นจุดบรรจบของถนนทางหลวงแผ่นดิน 22 (นิตโย) สายอุดร-นครพนม กับทางหลวงแผ่นดิน 212 (ชยางกูร) สายอุบล-สกลนคร และถนนสุนทรวิจิตร เลียบแม่น้ำโขง เขตเทศบาลเมืองนครพนม น.ส.นงนุช สีทาน้อย ผอ.ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยหัวหน้ากองช่างเทศบาลเมืองฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยของการติดตั้งอุโมงค์น้ำที่มีความยาวกว่า 350 เมตร คาดว่าจะเป็นอุโมงค์น้ำที่ยาวสุดในประเทศไทย รับการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ ภายใต้ชื่อ “สาดสนุก สุขที่ถนนข้าวปุ้น 2025” ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายนนี้
ที่ จ.หนองคาย เช้าวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ประตูด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 เปิดทำการ ปรากฏว่าได้มีแรงงานต่างด้าวชาวลาว ทั้งชาย-หญิง ต่างพากันวิ่งกรูเข้าไปยังพื้นที่ให้บริการรอรับการตรวจลงตรา พิธีการผ่านแดน โดยเจ้าหน้าที่ต้องจัดพื้นที่แยกออกมาไม่ให้ปะปนกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทาง เนื่องจากแรงงานต่างด้าวมีจำนวนมากจึงต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลและตรวจสอบหนังสือเดินทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
นางปราณี วงศ์บุตร รอง ผวจ.หนองคาย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการกระทรวงแรงงาน จ.หนองคาย ได้คอยอำนวยความสะดวกและส่งแรงงานต่างด้าวกลับภูมิลำเนา
ขณะที่ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.สระแก้ว เรียกระดมเจ้าหน้าที่ ร่วมจัดระเบียบและอำนวยความสะดวกให้แรงงานชาวกัมพูชา ที่จะเดินทางกลับไปร่วมฉลองเทศกาลสงกรานต์ที่บ้านเกิดฝั่งกัมพูชา ซึ่งมารอคิวตรวจหนังสือเดินทางจนล้นจากอาคารมาภายนอกกว่า 1,000 คน ขณะนี้พบว่ามีแรงงานกัมพูชา เดินทางขาออก ผ่านด่าน ตม.อรัญประเทศ ไปแล้วประมาณ 2 หมื่นคน คาดว่าช่วงระหว่างวันที่ 10-13 เมษายน 2568 จะมีแรงงานกัมพูชาเดินทางกลับประเทศ ประมาณ 1 แสนคน ซึ่งทาง ตม.สระแก้ว ได้ประสานทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ร่วมอำนวยความสะดวกและจัดระเบียบไว้รองรับการเดินทางแล้ว
อีกด้านหนึ่ง นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมชี้แจงการดำเนินงานป้องกันและลดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2568 โดยกำชับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาล และหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง เตรียมพร้อมดูแลผู้ป่วยและผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตามข้อสั่งการของนายกฯ และข้อสั่งการของกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วย 1.เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2568 (ช่วงควบคุมเข้มข้น 7 วัน) โดยเชื่อมโยงกับศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนระดับจังหวัด
2.เตรียมความพร้อมรับอุบัติเหตุหมู่และเหตุฉุกเฉินอื่นๆ ที่สำคัญในพื้นที่ จัดระบบเฝ้าระวังเหตุการณ์และรายงานข้อมูลตามเกณฑ์การรายงานเหตุการณ์สำคัญและฉุกเฉิน ระดับกระทรวง (DCIRs)
3.รายงานข้อมูลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนผ่านระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บ (PHER Plus) กระทรวงสาธารณสุข ตามแนวทางที่กำหนด สงกรานต์ พ.ศ.2568 สาธารณสุข ยกระดับ 7 มาตรการเข้มดูแลประชาชน 4.ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดในกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งรายงานข้อมูลในระบบรายงานทุกราย 5.จัดทีมปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินทุกระดับให้เพียงพอ โดยเน้นการเข้าถึงจุดเกิดเหตุที่รวดเร็ว ภายใต้มาตรการความปลอดภัยของรถพยาบาลและผู้ปฏิบัติงาน
6.เพิ่มอัตราค่าตอบแทนแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2568 ไม่เกิน 2 เท่า ตามขั้นตอนของระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงาน และ 7.ขอให้ผู้บริหารอยู่ในพื้นที่ เพื่อรองรับกรณีมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี