วันที่ 10 เมษายน 2568 จากกรณีดร.พอล แชมเบอร์ส (Dr. Paul Chambers) นักวิชาการสัญชาติอเมริกัน ประจำคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก ดำเนินคดีและขอศาลจังหวัดพิษณุโลกอนุมัติหมายจับในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

จากนั้นสหรัฐอเมริกาออกแถลงการณ์ โดยแทมมี่ บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แสดงความตกใจต่อกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า กำลังติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด และให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือพลเมืองอเมริกันในต่างประเทศอย่างจริงจัง และเรากำลังติดต่อกับทางการไทยเกี่ยวกับกรณีนี้ พร้อมเรียกร้องให้ทางการไทยเคารพเสรีภาพในการแสดงออก และรับประกันว่ากฎหมายจะไม่ถูกนำมาใช้เพื่อจำกัดสิทธิดังกล่าว

ล่าสุด นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ความมั่นคงต้องมาก่อน เข้าใจในท่าทีของกระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตอเมริกาในไทย ที่ห่วงใยกรณีนายพอล แชมเบอร์ ถูกจับกุมกล่าวหาในความผิด ม.112 เพราะเป็นหน้าที่ต้องปกป้องคนอเมริกันในต่างประเทศ

แต่อยากบอกให้สังคมรับรู้ว่า เสรีภาพในการพูดและการแสดงออกต้องมีขอบเขต จะล่วงละเมิดกล่าวร้ายคนอื่นไม่ได้. คนทั่วไปจะมีกฎหมายปกป้องการถูกกล่าวหาให้ร้าย. ผู้นำทุกประเทศและสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็มีกฎหมายคุ้มครองไม่ให้ถูกล่วงละเมิด. ทุกประเทศมีกฎหมายภายในที่ต้องได้รับการเคารพและปฏิบัติตาม. รวมทั้งคนอเมริกันและคนต่างชาติ

ทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเป็นเสาหลักของความมั่นคง เป็นที่เคารพสักการะ ใครจะล่วงละเมิดมิได้. คุณพอลจะไม่ถูกจับกุมหากไม่ได้ล่วงละเมิดและกล่าวหาให้ร้ายสถาบันในข้อความที่ไม่เป็นความจริง

ในสหรัฐก็มีกฎหมายคุ้มครองความมั่นคงภายใน และกฎหมายปกป้องประธานาธิบดี Julian Assange ผู้ก่อตั้ง WikiLeaks ถูกติดตามจับกุมในข้อหาเปิดเผยความลับ.

เสรีภาพในการแสดงออกอยู่ที่ไหน คนที่ข่มขู่ประธานาธิบดีอเมริกันถูกจับกุม. แสดงว่า ทุกประเทศต้องมีกฎหมายภายในเพื่อคุ้มครองความมั่นคงและผู้นำ

อยากเตือนสหรัฐว่า. การดูแลคนอเมริกันต้องไม่เกินเลยจนกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและความรู้สึกของคนไทยที่จงรักภักดี