หมอชิตคึกคักตั้งแต่เช้า ประชาชนทยอยเดินทางกลับบ้านฉลองเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่ บขส.คาดผู้โดยสารเดินทางกลับภูมิลำเนาในวันทำงานวันสุดท้ายก่อนหยุดยาว 1.3 แสนคน พร้อมจัดรถโดยสาร-รถเสริม ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง สภาพการจราจรมุ่งสู่“เหนือ-อีสาน”เริ่มแน่น กทม. เปิดศูนย์บัญชาการสงกรานต์ 11–17 เม.ย. “ผู้ว่าฯชัชชาติ”สั่งคุมเข้มความปลอดภัย พร้อมรับมือทุกสถานการณ์
เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568 กันอย่างคึกคัก ซึ่งในปีนี้ มีวันหยุดตั้งแต่ 12 - 16 เมษายน 2568 จำนวน 5 วัน
ทั้งนี้ ทางบริษัทขนส่งจำกัด ได้ได้เตรียมความพร้อมสถานีขนส่งฯ ในทุกมิติเพื่อให้บริการประชาชน อาทิ การปรับปรุงช่องจำหน่ายตั๋วโดยสารใหม่ จัดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ลิฟต์โดยสาร ห้องน้ำ และเก้าอี้พักคอยบริการ มีจุดเชื่อมต่อการเดินทางรถโดยสารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และรถไฟฟ้า MRT รถไฟชานเมืองสายสีแดง และรถไฟที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ณ สถานีขนส่งกรุงเทพ (หมอชิต 2) เขตจตุจักร
บขส.คาดยอดกลับวันนี้1.3แสนคน
นายชัชวาล พรอมรธรรม กรรมการฯรักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า วันนี้ (11 เม.ย.) บขส.คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 หนาแน่น เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของการทำงานก่อนหยุดยาว โดยคาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เที่ยวไป จำนวน 130,000 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) เที่ยวไป จำนวน 5,000 เที่ยว และได้จัดรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถเสริม 30) ประมาณ 1,000 คัน เพื่อรองรับการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว
สำหรับข้อมูลการเดินรถเมื่อวันที่ 10 เม.ย. มีผู้โดยสารเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เที่ยวไป จำนวน 77,759 คน เที่ยวกลับ จำนวน 45,538 คน รวมทั้งสิ้น 123,297 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) เที่ยวไป จำนวน 3,537 เที่ยว เที่ยวกลับ จำนวน 3,091 เที่ยว รวมทั้งสิ้น 6,628 เที่ยว ซึ่ง บขส. สามารถบริหารจัดการเดินรถได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง รถโดยสารเที่ยวสุดท้ายออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 เวลาประมาณ 23.00 น. และเที่ยวสุดท้ายออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ในเวลา 21.50 น.
เข้มมาตรการความปลอดภัย
นายชัชวาล กล่าวต่อว่า ผู้โดยสารที่จองตั๋ว บขส. ล่วงหน้า เที่ยวปกติและเที่ยววิ่งเสริม เส้นทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ตั้งแต่เที่ยวเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ของการเดินทางในวันที่ 11 – 12 เม.ย. 2568 ให้ไปขึ้นรถโดยสารที่ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประตู 2 ทั้งนี้ขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลามาขึ้นรถก่อนเวลารถออก และให้ตรวจสอบข้อมูลบนตั๋วโดยสาร โดยเฉพาะจุดขึ้นรถและหมายเลขชานชาลาขึ้นรถ เป็นต้น
อย่างไรก็ดี บขส. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการรถร่วมฯ ดำเนินการตามมาตรการตรวจเข้มความพร้อมรถโดยสารต้องตรวจเช็คอุปกรณ์ส่วนควบด้านความปลอดภัย ก่อนนำออกมาให้บริการ ส่วนพนักงานขับรถต้องพักผ่อนให้เพียงพอ มีการตรวจสารเสพติดและตรวจวัดแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ ปฏิบัติตามกฎจราจร ควบคุมความเร็วในการขับขี่ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้ประชาชนในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะตามนโยบายกระทรวงคมนาคม
“เส้นทางสายเหนือ-อีสาน”รถเริ่มแน่
สำหรับสภาพการจราจร บนถนนสายเอเชีย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ช่วงผ่านอำเภอพระนครศรีอยุธยา มุ่งหน้าสู่ภาคเหนือ และเส้นทางถนนพหลโยธิน ผ่านอำเภอวังน้อย มุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน พบว่ามีปริมาณรถหนาแน่น ตั้งแต่ช่วงเช้า ประชาชนเริ่มเดินทางกลับภูมิลำเนา เตรียมหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ทำให้การจราจรบนท้องถนนเริ่มมีปริมาณรถมาก แต่ยังเคลื่อนตัวได้ดี มีการนำกรวยยางมาตั้งทางร่วมทางแยก สามารถใช้ความเร็วได้ 100 – 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะมีรถสะสมหนาแน่นมาเป็นช่วงๆ
ส่วนการจราจรบนถนนเอเชีย ช่วงผ่านจังหวัดชัยนาท ก็เริ่มมีปริมาณมาก แต่ยังคล่องตัว โดยตั้งแต่ช่วงกิโลเมตร 130 ทางต่างระดับ อำเภอเมืองชัยนาท ไปถึงกิโลเมตรที่ 138 สี่แยกหางน้ำสาคร อำเภอมโนรมย์ มีปริมาณรถไหลผ่านประมาณ 1,500-2,000 คันต่อชั่วโมง ใช้ความเร็วเฉลี่ย 90-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แขวงทางหลวงชัยนาท ได้ทำการปิดจุดกลับรถบนถนนเอเชีย ในจุดที่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ จำนวน 4 จุด แล้วให้ไปใช้ทางลอดกลับรถใต้สะพานที่อยู่ในจุดถัดไปแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพการจราจรช่วงผ่านจังหวัดนครราชสีมา ขณะนี้สภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพเริ่มมีปริมาณรถยนต์เพิ่มมากขึ้น แต่สภาพโดยรวมยังคล่องตัว รถยนต์สามารถทำความเร็วได้ตามปกติ ซึ่งคาดว่าช่วงบ่ายวันนี้สภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพจะหนาแน่นมากขึ้น เนื่องจากวันนี้เป็นวันทำงานวัดสุดท้ายก่อนจะหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์
ขอความร่วมมือรถบรรทุกงดวิ่ง
นายอนุกูล พฤกษานุศกดิ์ รองโฆษกประสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม โดย กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) คาดการณ์ว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ จำนวนมาก จนส่งผลให้มีปริมาณยานพาหนะบนท้องถนนเพิ่มขึ้น เพื่อให้การเดินทางของประชาชนมีความปลอดภัยและลดปัญหาการจราจรคับคั่งกรมการขนส่งทางบก จึงได้ประสานไปยังผู้ประกอบการขนส่งสินค้ารถบรรทุกไม่ประจำทาง รถบรรทุกส่วนบุคคล และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้า 28 แห่ง ขอให้หลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้า หรืองดการใช้รถที่ไม่มีการบรรทุกสินค้า (รถเปล่า) ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 2568 และหากจำเป็นต้องใช้รถบรรทุกขอให้ปฏิบัติตามข้อกำหนด ดังนี้ 1.ใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด พักผ่อนอย่างเพียงพอ ไม่ขับรถเกินชั่วโมงทำงาน 2.ตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงของตัวรถและอุปกรณ์ส่วนควบด้านความปลอดภัยของรถบรรทุก 3.ปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจเป็นศูนย์ 4.ติดตั้งระบบ GPS 5.ผู้ประกอบการที่ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ขอให้วางแผนการรับ-ส่งสินค้าให้ไม่กระทบต่อการเดินทางของประชาชน
“หากประชาชนพบปัญหาหรือมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับรถบรรทุกขนส่งสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมการขนส่งทางบก โทร. 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง” นายอนุกูล กล่าว
ตลาดขายมาลัยดอกไม้บุรีรัมย์คึกคัก
ที่ จ.บุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจแผงและร้านขายพวงมาลัยดอกมะลิ มาลัยดอกไม้สดต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เทศบาลนครบุรีรัมย์ ทั้งที่บริเวณตลาดสดเทศบาลนครบุรีรัมย์ แผงขายมาลัยดอกไม้ ข้างวัดกลางพระอารามหลวง และร้านขายพวงมาลัยดอกไม้สด ริมถนนจิระ ใกล้กับสวนรมย์บุรี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ในช่วงวันสุดท้ายของการทำงาน ก่อนจะหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568 ที่จะถึงนี้ โดยพบว่าเริ่มได้มีประชาชน ที่ส่วนใหญ่ล้วนจะเป็นบรรดาข้าราชการ และพนักงาน ลูกจ้างของทั้งหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ บริษัท ห้างร้าน ภาคเอกชนต่างๆ ได้ทยอยออกมาเลือกซื้อหาพวงมาลัยดอกมะลิ และพวงมาลัยดอกไม้สด รวมถึงชุดน้ำอบไทย เพื่อนำไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ตามหน่วยงาน รวมถึงญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือกันบ้างแล้ว เนื่องจากในวันนี้ (11เม.ย.) ถือเป็นวันสุดท้ายของการทำงาน จะที่ทุกคนจะหยุดงานยาว เพื่อกลับไปเฉลิมฉลองสงกรานต์ ยังภูมิลำเนากับครอบครัว
“ดอกมะลิ”ขึ้นราคากก.ละ1พันบาท
ทั้งนี้ พบว่าพวงมาลัยดอกมะลิสด และพวงมาลัยดอกไม้สดส่วนใหญ่ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่จำหน่ายพวงมาลัยดอกมะลิ และพวงมาลัยดอกไม้สด ยังไม่ได้มีการปรับราคาสินค้าขึ้น และยังคงขายในราคาเดิม แต่อาจะมีการปรับขึ้นบ้างในบางชนิด โดยเฉพาะพวงมาลัยดอกมะลิ ที่ตอนนี้ต้นทุนของดอกมะลิมีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมกิโลกรัมละ 300 บาท ปรับเพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 1,000 บาท
โดยพวงมาลัยกรขนาดเล็กที่มีดอกมะลิ ดอกกุหลาบ และดอกรัก รวมถึงพวงมาลัยดอกดาวเรือง ยังคงขายในราคาดอกละ 10-20 บาท ส่วนพวงมาลัยกรขนาดใหญ่ ยังคงมีขายอยู่ที่ราคาตั้งแต่พวงละ 30 ,50 ,100 ,150 ,250 และขนาดใหญ่สุดอยู่ที่ราคาพวงละ 350 บาท ขณะที่พวงมาลัยดอกมะลิสด ร้อยสายสำหรับคล้องคออยู่ที่เส้นละ 30 บาท และพวงมาลัยดอกมะลิพลาสติก ร้อยสายสำหรับคล้องคออยู่ที่เส้นละ 20-25 บาท
ผู้ค้ายอมรับต้นทุนมาแพง
ด้าน นางศันสนีย์ เจ้าของร้านป้าตุ๊-ดอกไม้สด ตลาดสดเทศบาลนครบุรีรัมย์ กล่าวว่า ใกล้ถึงวันสงกรานต์เริ่มได้มีประชาชนที่ทำงานราชการและบริษัทห้างร้าน รวมถึงประชาชนทั่วไป เริ่มออกมาเลือกซื้อพวงมาลัยดอกมะลิและพวงมาลัยดอกไม้สดต่างๆกันบ้างแล้ว เพื่อนำไปไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ในที่ทำงาน เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการทำงาน ซึ่งตอนนี้ยอมรับว่าต้นทุนของดอกไม้มาแพง โดยเฉพาะดอกมะลิสด จากเดิมที่รับซื้อมาในกิโลกรัมละ 300 บาท แต่ช่วงนี้ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 1,000 บาท ถึงแม้ต้นทุกจะมาสูงแต่ทางร้านยังคงขายในราคาเดิม อาจจะมีปรับราคาขึ้นบ้างเล็กน้อย โดยเฉพาะพวงมาลัยที่ใช้ดอกมะลิสดเป็นวัตถุดิบหลัก
“คนไทย-มาเลย์”แห่ซื้อเสื้อลายดอก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในย่านเศรษฐกิจในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ตามร้านจำหน่ายเสื้อลายดอก เสื้อสงกรานต์ใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์คร่าคร่ำไปด้วยผู้คนทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เดินทางเข้ามาร่วมเล่นน้ำสงกรานต์เพื่อมาเลือก ซื้อเสื้อลายดอกหลากกลายสีสัน รับเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง
นายปรีชา พ่อค้าจำหน่ายเสื้อลายดอก เปิดเผยว่า ช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์บรรยากาศขายเสื้อผ้าลายดอกเริ่มคึกคัก ที่ร้านมีทั้งเสื้อสงกรานต์ เสื้อลายดอก เสื้อช้าง กางเกงช้าง ราคาเริ่มต้นที่ 170 บาท ไม่เกิน 250 บาท กางเกงช้างตัวละ 100 บาท เสื้อช้างตัวละ 200 บาท โดยเฉพาะเสื้อ กางเกง ลายช้าง ยอดขายดีเพราะเนื้อผ้าแห้งเร็วและมีราคาถูก ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เดินทางเข้ามาร่วมเล่นน้ำสงกรานต์ที่ทางเทศบาลเมืองเบตงได้จัดโครงการอนุรักษ์สืบสานประเพณีสงกรานต์ 2568 Betong Song Kran Festival @betong Clock Tower โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 12-14 เม.ย. 2568 กิจกรรมภายในงาน ทําบุญตักบาตร สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ การแสดงทางวัฒนธรรม การแสดงดนตรีจากศิลปิน ปาร์ตี้โฟม อุโมงค์น้ำแฟนซี ยาว 50 เมตร และการประกวด Betong Senior Contest จึงทำให้ยอดขายได้อย่างน่าพอใจ และคาดว่าช่วงใกล้วันสงกรานต์ ยอดขายจะพุ่งสูงขึ้น สร้างรายได้ให้กับร้านค้าและกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นได้อย่างดี
กทม.จัดตั้งกองอำนวยการร่วม
วันเดียวกัน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 4/2568 โดยมีผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม.(เสาชิงช้า) ที่ประชุมรายงานมาตรการความปลอดภัย และการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568 โดยกรุงเทพมหานครให้ความสำคัญกับมาตรการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยว โดยได้ประสานกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการตำรวจจราจร กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สถานีตำรวจในพื้นที่ เจ้าหน้าที่เทศกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ได้มีการจัดตั้งกองอำนวยการร่วม เพื่อดูแล และรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ให้พร้อมใช้งาน ติดตั้ง Walk Through และจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำกองอำนวยการร่วมและสายตรวจพื้นที่ สับเปลี่ยนหมุนเวียน ตลอดการจัดงาน และจัดบริการหรือซุ้มบริการการท่องเที่ยวทั่วกรุงเทพฯ จำนวน 17 จุด เป็นจุดรับเรื่องร้องเรียนและการรับแจ้งปัญหา ความไม่ปลอดภัยของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือประชาชนเล่นสงกรานต์อย่างสุภาพเน้นการรักษาวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทย
เปิดศูนย์บัญชาการ11-17เม.ย.
ในส่วนของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) จัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 68 โดยจัดตั้งศูนย์บัญชาการณ์เหตุการณ์ ตั้งแต่วันที่ 11-17 เม.ย.2568 ณ ห้องสุทัศน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า เพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับบริเวณที่มีความล่อเสี่ยงหรือล่อแหลมสูง โดยเฉพาะจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ จุดเสี่ยงอาชญากรรม รวมถึงการตรวจสอบ ตรวจตราสถานบันเทิง สถานประกอบการ และสถานที่จัดงานหรือกิจกรรม พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดเฝ้าระวังอันตราย 43 จุด
ขณะที่ สำนักการจราจรและขนส่ง เตรียมความพร้อมในช่วงเทศกาลสงกรานต์และ 7 วันอันตรายประจำปี 2568 โดยดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ในพื้นที่จัดงานสงกรานต์ พื้นที่ถนนข้าวสาร ประกอบด้วย กล้องในถนนข้าวสาร 186 กล้อง กล้องโดยรอบถนนข้าวสาร 16 กล้อง กล้อง Face 11 กล้อง จุดคัดกรอง 4 จุด และพื้นที่สีลม ประกอบด้วย กล้องในถนนสีลม 115 กล้อง กล้องโดยรอบถนนสีลม 28 กล้อง กล้อง Face 13 กล้อง กล้อง Panoramic และ PTZ 2 กล้อง กล้อง PTZ 1 กล้อง จุดคัดกรอง 5 จุด
“ชัชชาติ”สั่งพร้อมรับทุกสถานการณ์
นอกจากนี้ มีการนำระบบ Artificial Intelligent (AI) มาใช้กับระบบกล้อง CCTV ในงานสงกรานต์พื้นที่ถนนข้าวสาร ถนนสีลม บริเวณโดยรอบพื้นที่จัดงาน และใจจุดเปลี่ยนถ่ายการเดินทาง และบนถนนสายหลัก โดยสามารถแจ้งเตือนใบหน้าตามบัญชีดำ ค้นหาใบหน้าตามคุณลักษณะ ค้นหาด้วยภาพใบหน้า ค้นหาตามเงื่อนไขที่กำหนด และติดตามเส้นทางบุคคล
ทางด้าน สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กำหนดจัดงานสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 12 – 14 เม.ย. 2568 ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร และมีไฮไลท์การจัดงานสงกรานต์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 16 แห่ง
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ต้องคาดการณ์สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ว่าแต่ละพื้นที่จะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง เพื่อวางแผนรับมือให้ทันต่อสถานการณ์ พร้อมทั้งฝากเทศกิจกำกับดูแลผู้ค้า ไม่ให้ตั้งแผงค้ากีดขวางคนเดินและกีดขวางการจราจร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี