‘ทักษิณ’แนะใช้ ความสามัคคีคนในชาติ สู้‘สงครามการค้า’ ขออย่าระแวง-สงสัย‘นายกฯ’คนรุ่นใหม่ ตั้งใจอยากเห็นสังคมแข็งแรง เผยปมกำแพงภาษี คุยคนรอบตัว‘ทรัมป์’แล้ว วอนอย่ากีดกันการค้าประเทศกำลังพัฒนา ถ้ามีจังหวะ-เวลาจะไปคุยสหรัฐฯ เอง
เมื่อเวลา 09.50 น.วันที่ 13 เม.ย.68 ที่สวนสาธารณะรถไฟ อบจ.เชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจหลังจากนี้ ว่า วันนี้ลำพังเราสามัคคีกันก็ยากอยู่แล้ว เพราะปัจจัยภายนอกมากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะปัจจัยสงครามการค้าที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เราต้องปรับตัวเยอะพอสมควร เพราะฉะนั้นเราต้องเข้มแข็งด้วยตัวเราเอง การแก้ไขปัญหาด้วยตัวเราเอง เราต้องการความสามัคคีจากคนในชาติที่มองจะไปข้างหน้าอย่างสร้างสรรค์ด้วยกัน อย่าไปมองอะไรที่เป็นข้อระแวงข้อสงสัย รับรองว่าเราจะทำให้ดีที่สุด เพื่อให้ประเทศเราแข็งแรงขึ้นได้ เพราะนายกรัฐมนตรีตั้งใจมากที่จะทำ เขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่อยากเห็นสังคมแข็งแรง เพราะเขาต้องมีอายุอยู่อีกนาน เราต้องช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เรารับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย แต่ไม่ได้แปลว่าความเห็นจากทุกฝ่ายจะต้องได้รับการยอมรับ แต่จะได้รับการพิจารณาทุกคน
เมื่อถามว่า ได้มีการต่อสายพูดคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ถึงเรื่องมาตรการกำแพงภาษีโดยตรงแล้วหรือยัง นายทักษิณ กล่าวว่า ตอนนี้มีการพูดคุยกับคนรอบ ๆ ตัวนายโดนัลด์ ทรัมป์หลายคน ซึ่งตนคิดว่าก็อยู่ในภาวะที่พูดคุยกันได้ และเราก็ลดราในสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปบ้าง เช่น การกีดกันทางการค้าที่ไม่จำเป็น ซึ่งแต่ก่อนนี้เรามีระบบที่เรียกว่า WTO( องค์การการค้าโลก ) ที่เมื่อออกกฎอะไรออกมาก็ใช้เหมือนกันทุกประเทศ แต่วันนี้ในเมื่อสหรัฐอเมริกาเป็นเลือกว่าใช้กับประเทศนั้นหรือใช้กับประเทศนี้ได้ มันก็คงสามารถทำให้เราปรับตัวตามนี้ได้ เช่น กติกาบางอย่าง เราไปกีดกันรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งในสหรัฐอเมริการถมอเตอร์ไซค์เป็นสินค้าราคาแพง คนที่พอจะมีปัญญาซื้อมีไม่กี่คน และเราก็ไม่ได้แข่งขันกับอุตสาหกรรมในประเทศเลย แต่เราไปตั้งกำแพงภาษีไว้ ซึ่งมันก็ไม่จำเป็น
เมื่อถามว่า ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียนจะใช้ตรงนี้รวมพลังประเทศในอาเซียนเพื่อสร้างอำนาจต่อรอง กับสหรัฐอเมริกาอย่างไรบ้าง นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้กลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)และอาเซียน พยายามที่จะพูดคุยกัน เพื่อให้เกิดการค้าเสรีระหว่างการกัน เพราะวันนี้เมื่อมีการกีดกันทางการค้ามากเท่าไหร่ ก็จะทำให้กลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น เพราะประเทศเหล่านี้ต้องการการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ ต้องการการจ้างงาน โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียนเราคุยกันว่า เราเป็นประเทศที่ต้องการความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ฉะนั้นเราต้องรวมกันให้เป็นหนึ่ง ในการพูดคุยกับประเทศที่เจริญแล้วว่าเราจำเป็นจะต้องเติบโตเหมือนกันก็อย่ากีดกันทางการค้าเรา
เมื่อถามว่า ทีมไทยแลนด์ที่ส่งไปเจรจาสหรัฐ จะต้องมีภาคเอกชนร่วมด้วยหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เราเตรียมการภายในประเทศ เวลาไปคุยก็ไม่ต้องไปเยอะ ต้องคุยกันในประเทศให้ตกผลึกก่อน และไปเจรจากันแค่ไม่กี่คนก็พอแล้ว
เมื่อถามต่อว่า นายทักษิณมีโอกาสจะไปร่วมเจรจาเอง หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ให้เจ้าหน้าที่คุยกันไปก่อน แต่ถ้าตนมีจังหวะและเวลา ตนก็จะเดินทางไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี