ต้องถอนเท่านั้น

กมธ.ศึกษาบ่อนสภาสูงจี้รัฐบาล

เตือนอย่าทิ้งเชื้อร้ายไว้

นัดถกยกแรก23เมษาฯ

ชูบ้านใหญ่บุรีรัมย์นั่งปธ.

เชิญหน.ทุกพรรคชี้แจง

วุฒิสภาตั้งลำถล่มร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร กมธ.กาสิโนสภาสูง ง้างปากถามพรรคการเมืองจะเอาหรือไม่ นัดถกยกแรก 23 เมษายนนี้ ระบุข้อมูลด้านสังคมชัดเจนแล้ว คนไม่เอาบ่อนทั่วประเทศชี้สุดท้ายต้องเสนอรัฐบาลให้ถอนร่างพ.ร.บ.ฉาวออกไปไม่อยากให้ทิ้งเชื้อร้ายไว้ในสภา

เมื่อวันที่ 14 เมษายน2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ที่ประชุมวุฒิสภา มีมติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ตามญัตติที่เสนอโดย นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว.ประกอบด้วย กมธ.จำนวน 35 แบ่งเป็นคนนอก 12 คนนั้น ซึ่งพบว่าต่อมานพ.เปรมศักดิ์ เพียรยุระ สว.ได้ขอลาออกจากตำแหน่งกมธ.ดังกล่าว ทำให้เหลือกมธ. 34คน

กมธ.ถกพรบ.กาสิโนนัดแรก23เม.ย.

ล่าสุด มีรายงานข่าวแจ้งว่า กมธ.ฯจะเรียกประชุมนัดแรกในวันที่ 23 เม.ย.นี้ โดยนัดแรกจะเป็นการเลือกกมธ.ในตำแหน่งต่างๆ ที่สำคัญ อาทิ ประธาน กมธ.รองประธานกมธ. เลขานุการ โฆษก กมธ. รวมถึงการวางกรอบการทำงานที่มีกำหนดระยะเวลา 180วันและจะพิจารณาตำแหน่งที่ว่างลง 1ตำแหน่ง เนื่องจาก นพ.เปรมศักดิ์ ได้ลาออกไป

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในฝั่งของ สว.สีน้ำเงิน ที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ ได้วางตัวบุคคลให้ดำรงตำแหน่งประธานกมธ.เบื้องต้นคือ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ซึ่งเป็น1ใน12กมธ.ฯสัดส่วนคนนอก และมีสถานะที่รู้กันว่า เป็นสายตรงของบ้านใหญ่บุรีรัมย์ ทำให้เกิดความกังวลว่า การศึกษารายละเอียดดังกล่าวนั้นจะทำให้เกิดความไม่เป็นกลาง ไม่ใช่การศึกษาที่เป็นเชิงวิชาการ แต่อาจถูกใช้เพื่อให้เป็นเกมต่อรองทางการเมือง ระหว่างพรรคการเมืองใหญ่ 2พรรค ที่มีประเด็นข้อขัดแย้งกันในสภาผู้แทนราษฎร คือ พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ... (เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) อย่างไรก็ดีการวางตัวบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ สว.ยังต้องพิจารณาในแง่ความเหมาะสมอีกครั้ง

เชิญหัวหน้าพรรคแจงเปิดบ่อน

รายงานข่าวแจ้งว่าหลังได้ตัวประธานกรรมาธิการแล้วจะวางกรอบในการทำงาน เบื้องต้นจะเชิญทุกหัวหน้าพรรคการเมือง ให้มายืนยันว่าจะสนับสนุนหรือไม่สนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ....ทีรัฐบาลยกธงขาว เลื่อนไปพิจารณาในสมัยประชุมหน้าหรือไม่

แหล่งข่าวในกรรมาธิการรายหนึ่ง ระบุว่าเรื่องนี้พิจารณาไม่ยาก โดยเฉพาะในแง่ทางสังคม เนื่องจากมีผู้คนออกมาคัดค้านทั่วประเทศ ส่วนการศึกษาทางด้านเศรษฐกิจ นั้นคงต้องพิจารณากันพอสมควร เพราะในแต่ละตำราและทฤษฎีต่างๆ ของแต่ละประเทศ ไม่เหมือนกัน ซึ่งเรามีสารตั้งต้นอยู่แล้ว คือ รายงานการประเมินและพัฒนานโยบายสาธารณะ กรณี ร่างพรบ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร โดยศาสตราจารย์ ดร.วรเดช จันทรศร ราชบัณฑิตประเภทวิชาสังคมศาสตร์ สาขาวิชารัฐศาสตร์และรัฐศาสตร์การปกครอง ที่เสนอที่ประชุมราชบัญฑิตละภาคีสมาชิก สำนักธรรมศาสตร์การเมือง ราชบัณฑิตยสภา เมื่อวันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ.2568

กรรมาธิการรายดังกล่าวระบุว่า การศึกษาเรื่องดังกล่าวอาจใช้เวลาบ้าง แต่เชื่อว่าสุดท้ายแล้วข้อสรุปของกรรมาธิการชุดนี้ คงต้องเสนอให้รัฐบาล ถอนร่าง.พรบ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ออกไปจากสภาไม่ควรทิ้งเชื้อเปิดคาสิโนไว้อีกต่อไป

ทั้งนี้เห็นว่าในนโยบายของรัฐบาลแพรทองธาร ชินวัตร ที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาในหัวข้อที่ 7 จะมีเรื่องการประกอบธุรกิจสถาบันเทิงก็จริงอยู่ แต่ในตอนนั้นสมาชิกรัฐสภา ไม่ได้มีการอภิปรายทักท้วงอะไรมากนัก เนื่องจากเห็นว่าเป็นนโยบายทั่วๆไป เรื่องพื้นที่กาสิโน10เปอร์เซ็นในสถานบันเทิงครบวงจรเพิ่งจะมาโผล่ในภายหลัง จึงเกิดปัญหาให้ต้องตามมาคัดค้านจนถึงวันนี้

‘เทพไท’เหน็บพูดไม่ให้ราคา’ภท.’

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวเรื่อง “ทักษิณ หยาม ภูมิใจไทยคือภูมิใจไทย”โดยระบุว่า นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงร่างพรบ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ว่าไม่มีปัญหาที่มีการชะลอออกไป และกล่าวว่า กาสิโนเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ใช่มีกาสิโนเป็นหลัก คนที่ต่อต้านก็จะนำไปพูดว่าเป็นกาสิโนอย่างเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่บิดเบือน ผมได้ยินการพูดถึงประเด็นนี้ ทั้งจากปากของนายทักษิณ และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาแล้ว จึงขอตั้งคำถามกลับไปว่า ใครกันแน่ที่บิดเบือนเรื่องการเปิดกาสิโน แม้ว่าสถานบันเทิงครบวงจรหรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ทั้งหมด มีกาสิโน 10% แต่ 10% นี้คือหัวใจ มีมูลค่ามากกว่า 90% ของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นักลงทุนเห็นความสำคัญของกาสิโน จึงยอมลงทุน ถ้าไม่มีกาสิโนอยู่ในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ด้วย คงไม่มีนักลงทุนคนไหนมาลงทุนเมกะโปรเจกต์แบบนี้

เพราะเรื่องกาสิโน คือส่วนสำคัญของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จึงทำให้พรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค มีท่าทีไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีบ่อนกาสิโนรวมอยู่ด้วย เมื่อถูกถามถึงท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลอย่างภูมิใจไทย ที่ประกาศไม่สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ นายทักษิณได้แสดงท่าทีแบบดูถูก ไม่แคร์ไม่สนเลย และยังสบประมาทว่า พรรคภูมิใจไทยก็คือพรรคภูมิใจไทย พูดแบบไม่ให้ราคา หรือไม่ให้ความสำคัญใดๆ เพราะคิดว่าแม้พรรคภูมิใจไทยหรือพรรคประชาชาติ ไม่สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ ก็ไม่มีผลสะเทือนกับรัฐบาล และมีความมั่นใจว่า รัฐบาลมีเสียงมากเพียงพอ ที่จะทำให้กฎหมายผ่านไปได้ ซึ่งเป็นการท้าทายกระแสสังคม และดูถูกดูแคลนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นอย่างมาก จะต้องรอดูว่ากาสิโน จะเดินหน้าไปต่ออย่างไร ถ้านายทักษิณยังมั่นใจและเดินหน้าต่อไป เชื่อว่าจะเกิดวิกฤตสังคมรอบใหม่อย่างแน่นอน