เตรียมคุย‘อันวาร์’รับมือกำแพงภาษี‘ทรัมป์’
‘ทักษิณ’โวแหลก!
เจรจาสหรัฐต้องไม่ต่อรอง
ปูทางหารือแบบพันธมิตร
‘พิชัย’เพิ่มบัญชีสินค้านำเข้า
ปิโตรเคมี-เชอร์รี่-แอปเปิ้ล
“ทักษิณ” เผย “อันวาร์” เตรียมเชิญที่ปรึกษาประธานอาเซียน ผนึกกำลังเจรจา “ทรัมป์” ระหว่างเยือนไทย 17 เมษายนนี้ ลั่นจะใช้วิธีพูดคุยแบบพันธมิตรมากกว่ากดดัน เชื่อน่าจะไหว ไม่ทำให้ไทยลำบาก ด้าน“พิชัย”พร้อมบินไปอเมริกา เพิ่มบัญชีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพียบ
เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่มีการสรุปประเด็นของคณะกรรมการติดตามมาตรการภาษีสหรัฐอเมริกา ทั้งในส่วน กระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน อาทิ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย และผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ผู้ส่งออกและนำเข้าด้านการเกษตรและอุตสาหกรรม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ในวันอังคารที่ 15 เมษายนนี้ คณะกรรมการฯจะสรุปผลทั้งหมด เพื่อวิเคราะห์ผลได้ ผลเสียและความเป็นไปได้ เพื่อเตรียมเป็นข้อมูลในการเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะผู้เจรจาจะเดินทางล่วงหน้าไป ที่นครซีแอตเทิล สหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน นี้
โดยคณะล่วงหน้าจะเดินทางไปพบกับนักธุรกิจในกลุ่มต่างๆ ทั้ง ภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนด้านอื่นๆ จากนั้นในวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน นี้ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเดินทางไปร่วมกับคณะของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อเป็น“ทีมไทยแลนด์ ”และทั้งคณะจะเดินทางถึงกรุงวอชิงตัน ดีซี เพื่อเตรียมเข้าพบกับผู้แทนของรัฐบาลสหรัฐ ฯ ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันจันทร์ที่ 21 เมษายน นี้
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลไทยมีความพร้อมในการพูดคุยโดยข้อมูลทั้งหมดได้ถูกรวบรวมมาตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงปัจจุบัน ผ่านการประชุมหารือ ทั้งในส่วนของรัฐบาลและทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรวมทั้งภาคเอกชน อาทิ ผู้แทนของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย ผู้แทนบริษัทธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งภาคการเกษตร อุตสาหกรรมและสินค้าทั้งหมดที่มีการส่งออกไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้ยุทธศาสตร์การเจรจาที่เน้น “สร้างความสมดุลทางการค้าและเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน” ทั้งนี้เชื่อว่าจะ เป็นการปูทางสู่การเจรจาเชิงลึกระหว่างไทย-สหรัฐ ฯ ในระดับต่างๆ ในโอกาสต่อไป
วางยุทธศาสตร์5ข้อ
คณะเจรจายังมั่นใจว่าประเทศไทยจะมีทางออกที่ดีที่สุดในการค้าระหว่างประเทศครั้งนี้อย่างแน่นอน สำหรับแนวทางการดำเนินการของไทยต่อกรณีนโยบายการค้าและมาตรการด้านภาษีของสหรัฐฯ ภายใต้ 5 หลักการดังนี้ 1.การเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมที่ไทยและสหรัฐฯ เกื้อหนุนกัน โดยรัฐบาลไทยเห็นว่าความร่วมมือในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพร่วมกัน เช่น เกษตร-อาหาร และเทคโนโลยี ถือเป็นโอกาสสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสองประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งไทยมีศักยภาพในการผลิตพรีเมียมเกรดและสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดโลกได้มากขึ้น หากมีการเสริมวัตถุดิบจากสหรัฐฯ เช่น ข้าวโพด ที่มีต้นทุนต่ำและคุณภาพสูง
2.การเปิดตลาดและลดภาษี ลดอุปสรรคทางการค้าตาม National Trade Estimate 2025 ของสหรัฐฯ ซึ่งรัฐบาลพร้อมพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีนำเข้า และบริหารโควตาสินค้าเกษตรที่สหรัฐฯ มีความสามารถในการแข่งขัน เช่น ข้าวโพด เพื่อเปิดตลาดในลักษณะที่ไม่กระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ โดยจัดสรรการนำเข้าเฉพาะช่วงที่สินค้าในประเทศขาดแคลน สร้างระบบการค้าที่เป็นธรรมและยืดหยุ่นต่อทุกฝ่าย
3.การเพิ่มการนำเข้าจากสหรัฐฯ ในสินค้าที่ไทยจำเป็นต้องใช้ โดยไทยเตรียมพิจารณานำเข้าพลังงาน เช่น ก๊าซธรรมชาติ และวัตถุดิบที่ภาคอุตสาหกรรมต้องใช้แต่ผลิตไม่ได้เพียงพอ เช่น วัตถุดิบด้านปิโตรเคมี หรือเครื่องบินพาณิชย์ เพื่อเติมเต็ม supply chain ของประเทศ รวมถึงสินค้าที่ประเทศไทยเป็น Net Importer อาทิ ชีส ถั่ววอลนัท ผลไม้สดที่ไทยผลิตเองไม่ได้ เช่น เชอรี่ แอปเปิ้ลซึ่งจะเป็นการสร้างสมดุลด้านการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ให้ลดการได้เปรียบดุลการค้า
ขยายสินค้านำเข้า
4.การตรวจสอบเพิ่มความเข้มงวดสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ ป้องกันการสวมสิทธิ์จากประเทศที่สาม โดยรัฐบาลตระหนักถึงความกังวลของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าราคาต่ำจากประเทศที่สามผ่านไทย เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี จึงจะมีมาตรการคัดกรองสินค้าต้นทาง ตรวจสอบแหล่งกำเนิดอย่างเข้มงวด และยกระดับมาตรฐานสินค้าไทยให้โปร่งใสและเป็นไปตามหลักสากล สร้างความเชื่อมั่นในฐานะคู่ค้าที่มีธรรมาภิบาล
5.การส่งเสริมการลงทุนของไทยในสหรัฐฯ ซึ่งนอกจากนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ แล้ว ไทยยังมีแผนผลักดันให้ภาคเอกชนไทยลงทุนในอุตสาหกรรมแปรรูปในสหรัฐฯ โดยใช้วัตถุดิบท้องถิ่น ผลิตสินค้าส่งออกจากฐานการผลิตในอเมริกาไปยังตลาดโลก ซึ่งไม่เพียงช่วยกระจายความเสี่ยง แต่ยังช่วยลดแรงต้านด้านการค้าและสร้าง value chain ใหม่ที่เข้มแข็ง
ทั้งนี้ ในการประชุมหารือและได้ข้อสรุปในทุกประเด็นดังกล่าวแล้วนั้น ได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบทุกระยะซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้คณะเจรจาดำเนินการให้เต็มที่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายทั้งการค้าระหว่างประเทศและภาคธุรกิจเอกชนที่เป็นส่วนสำคัญในการนำผลิตภัณฑ์เมดอินไทยแลนด์ ไปสู่ตลาดสหรัฐและตลาดโลกต่อไป นายจิรายุกล่าว
แม้ว-อิ๊งค์เยือนเชียงใหม่ระรื่น
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ชุมชนโหล่งฮิมคาว ตำบลสันกลาง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีนายกฯ ร่วมงาน “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองสันกำแพง” โดยมี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมด้วย
เมื่อมาถึงมีการรำฟ้อนต้อนรับ จากนั้นนายกฯถวายพวงมาลัยและสรงน้ำองค์หลวงพ่อสมปรารถนา พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวสันกำแพง จากนั้นนายกฯสระเกล้าเก้าดำหัวผู้สูงอายุ หรือพิธีรดน้ำดำหัวแบบล้านนา โดยนายกฯได้สระเกล้าดำหัว คุณย่าทองสุทธิ โครชาติเยร์ (ชินวัตร) คุณย่านายกฯ ต่อจากนั้นนายทักษิณ นายปิฎก ร่วมสระเกล้าเก้าดำหัวผู้สูงอายุ ก่อนที่นายกฯปักตุงล้านนาประจำปีเกิด
ขณะที่ นายประดิษฐ์ เป็งเรือน ปราชญ์ชมรมกวีล้านนา เป็นตัวแทนกล่าวเป็นคำเมือง ขอให้นายกฯและนายทักษิณ พ้นเคราะห์ โยกย้ายไปไหนมาไหนขอให้มีแต่โชคดีและเป็นที่พึ่งของชาวบ้าน นำประเทศชาติบ้านเมืองไปสู่ความเจริญก้าวหน้าในเร็ววัน
ดีใจได้มาสันกำแพง
นายกฯ กล่าวเปิดงานโดยกล่าวเป็นคำเมืองว่า อู้บ่จ้าง ก่อนกล่าวอีกว่า สวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกคน วันนี้ดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาสันกำแพง เป็นที่ๆคุณพ่อโตมา ตนเคยได้มาตั้งแต่เด็กๆจะได้ยินเรื่องเล่าเสมอ เมื่อก่อนพ่ออยู่ตึกแถวขายกาแฟทำให้ทุกวันนี้ยังทานกาแฟอยู่และทำหวานเย็นขาย ไม่ทราบว่าทุกท่านจะทันหรือไม่ เป็นหวานเย็นห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ ตอนนั้นราคา 2 บาท ตอนอยู่เมืองนอกก็จะทำทานบ่อยๆสูตรเดิมจากที่ไทย จึงมีความผูกพันกับสันกำแพงตั้งแต่เด็ก ได้ยินเรื่องเล่ามาตลอด และดีใจวันนี้ได้มาที่นี่
ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานกัน มาเจอกัน ตนตั้งใจจะมาอวยพรทุกท่าน ขอให้ทุกท่านมีความสุขกายสบายใจ สุขภาพแข็งแรง สงกรานต์เป็นช่วงที่ทุกคนได้กลับมาอยู่กับคนที่รักและครอบครัว ขอให้ใช้เวลานี้ให้เต็มที่ที่สุด ขอให้เดินทางไปไหนปลอดภัย ปีใหม่เมืองไทยขอให้ทุกท่านจิตใจแจ่มใสเบิกบาน ชาร์จแบตตัวเองให้เต็มที่ พร้อมกลับมาทำงานให้เป็นให้เต็มพลังอีกครั้ง ขอให้ประสบความสำเร็จร่ำรวยเงินทอง มีสุขภาพที่แข็งแรง มีความสุขทุกวัน ขอสวัสดีปีใหม่ไทย
กองเชียร์ยุเขี่ยภูมิใจไทย
จากนั้นนายกฯและนายทักษิณ ได้เดินดูร้านค้าต่างๆภายในงาน หรือ 10 โหม้งโหล่งผญา ที่เป็นการรวมตัวกันของผู้ประกอบการภาคเอกชน 10 ตำบล โดยได้อุดหนุนสินค้าชุมชนทุกร้าน พร้อมซื้อโมบายงานหัตถกรรมมาฝากลูกๆ ทั้งนี้ช่วงหนึ่งก่อนนายกฯจะเดินขึ้นรถ ชายคนหนึ่งได้ตะโกนขึ้นด้วยว่า ไม่เอาภูมิใจไทย ขณะที่ก่อนเดินทางกลับนายกฯกล่าวกับสื่อมวลชนว่า “วันนี้รู้สึกดีที่ได้กลับมาและคุณพ่อแฮปปี้มาก” ผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือนว่าช่วงเทศกาลเศรษฐกิจจะดีทุกพื้นที่ครึกครื้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เศรษฐกิจดี การนำซอฟต์พาวเวอร์เข้ามาช่วยได้เยอะ ซอฟต์พาวเวอร์เราแข็งแรงอยู่แล้ว
“ทักษิณ”โชว์บารมี
ต่อมา นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ กรณีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน จะมาเยือนประเทศไทยในวันที่ 17 เม.ย. จะมีการหยิบยกเรื่อง มาตรการกำแพงภาษี ของสหรัฐอเมริกา ที่ได้ส่งผลกระทบกับอาเซียน มาพูดคุย หรือไม่ ว่า หลายคนมาคุยกันในเรื่องของอาเซียน ในการที่จะให้เป็นบทบาทสำคัญในการพูดคุยกับสหรัฐอเมริกา เมื่อถามว่า ของเรามีวาระอะไรที่จะเสนอเป็นพิเศษหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ก็ต้องคุยกัน รวมถึงจะพูดถึงเรื่องสันติภาพในเมียนมา
เชื่อแก้ไขปัญหาได้
เมื่อถามต่อว่า การรวมพลังในกลุ่มชาติอาเซียน เพื่อจะไปคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในเรื่องมาตรการกำแพงภาษี ดูแล้วมีแนวโน้มที่ดีหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เราจะไม่ไปในลักษณะที่เป็นแบบต่อรอง เพื่อแลกนู่นแลกนี่ แต่เราจะคุยกันในลักษณะว่ากลุ่มประเทศอาเซียนส่วนใหญ่ เป็นประเทศที่ต้องการการพัฒนา ต้องการเม็ดเงินจากประเทศที่พัฒนาแล้วอีกจำนวนมากที่จะทำให้เราแข็งแรง ฉะนั้นก็อยากให้เขาเข้าใจในบทบาทของอาเซียน โดยเฉพาะอาเซียนกับภูมิภาคนี้ ที่มีความสำคัญกับสหรัฐฯพอสมควร ตนคิดว่าเราจะคุยกันแบบเป็นพันธมิตรมากกว่าการต่อรองกดดัน
เมื่อถามอีกว่า การไปพูดคุยครั้งนี้แสดงว่าเดาใจนาย โดนัลด์ ทรัมป์ และคนรอบตัว ได้แล้ว ใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ส่วนใหญ่รู้จักกันดี ซึ่งคนรอบตัวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เคยเจอกันมาก่อน เมื่อถามต่อว่า พูดให้ประชาชนคลายกังวล ได้หรือไม่ว่าการเจรจาของทีมไทยแลนด์ครั้งนี้ผลออกมาน่าจะเป็นบวก นายทักษิณกล่าวว่า น่าจะไหว คงไม่ทำให้ประเทศไทยลำบาก
คุยพม่าปราบแก๊งคอล
ถามต่อว่า ตอนนี้จังหวัดเชียงใหม่มีปัญหาเรื่องสารหนูจากเมียนมา จะมีโอกาสพูดคุยกับเมียนมาในการแก้ปัญหาอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ที่เชียงใหม่จะต้องแก้ไขเยอะเลย ทั้งเรื่อง PM2.5 เรื่องความสะอาด เรื่องการสู้รบในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เพื่อนบ้านไม่จัดการตัวเองเท่าที่ควร ก็ต้องคุยกัน ซึ่งทางเมียนมากับเราจะต้องคุยกันมากขึ้น เพื่อให้เราไม่ได้รับผลกระทบจากยาเสพติด คอลเซ็นเตอร์ PM2.5 และสารหนู
เมื่อถามว่า พื้นที่หลายอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ที่ติดกับชายแดนได้รับผลกระทบจากน้ำ จะต้องมาดูแลหรือเข้มงวดอะไรหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ตอนนี้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นชาวเชียงใหม่ ก็ให้เขาช่วยดูในเรื่องนี้ เมื่อซักต่อว่า ชาวเชียงใหม่และเชียงรายจะคลายกังวลในเรื่องนี้ได้หรือไม่ เพราะเขาก็กังวลเรื่องสุขภาพ นายทักษิณ กล่าวว่า เมื่ออยู่ในความรับรู้ของรัฐบาลแล้ว รัฐบาลก็จะไปช่วยแก้ไขปัญหา
ทีม”พิชัย”ถกเครียดก่อนบิน
เย็นวันเดียวกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าช่วงบ่าย วันนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เชิญคณะทำงานการเจรจาเรื่องภาษีของสหรัฐอเมริกา หารือร่วมกับทีมที่ปรึกษานโยบายเศรษฐกิจ นำโดยนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี และดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษานโยบายเศรษฐกิจ ณ บ้านพิษณุโลก ก่อนออกเดินทางไปเยือนสหรัฐอเมริกาในวันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน นี้
การหารือในครั้งนี้ เป็นการประเมินสถานการณ์ล่าสุด และวางกรอบยุทธศาสตร์การเจรจาอย่างรอบด้านทั้งมิติด้านการค้า การลงทุนและภาคการเงิน โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้ายุทธศาสตร์ของไทย เช่น เกษตร พลังงาน และอุตสาหกรรมเทคโนโลยี นอกจากนี้ ทีมที่ปรึกษายังได้ร่วมกันพิจารณารายชื่อคู่เจรจาสำคัญจากภาครัฐ เอกชน และสมาคมธุรกิจต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ที่จะเข้าพบในครั้งนี้ เพื่อเสริมความพร้อมให้การเจรจามีน้ำหนัก มีเป้าหมายชัดเจน และสามารถตอบโจทย์ความคาดหวังของฝ่ายสหรัฐฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกด้วย โดยในวันพรุ่งนี้ (วันอังคารที่ 15 เมษายน ) คณะทำงานจะประชุมหารือในภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง นายจิรายุกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี