"ผมขอประกาศในสภาฯ ว่า ผม นายไชยชนก ชิดชอบ ลูกชายคนโตของ นายเนวิน และนางกรุณา ชิดชอบ ผมเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย จะไม่มีวันเห็นด้วยกับกาสิโน และไม่ใช่แค่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่ทุก ๆ พ.ร.บ. หลังจากนี้ แม้กระทั่ง พ.ร.บ. ของพรรคภูมิใจไทย ที่เราคิดขึ้นมาแล้วนำเสนอ เพื่อประโยชน์ของประเทศไทย ผมก็จะไม่พิจารณา เพราะสำหรับผม และทุกอย่างที่ผมได้ศึกษามามันมีเรื่องเร่งด่วนที่ด่วนกว่ามหาศาล" นี่คือช่วงหนึ่งของการลุกขึ้นอภิปราย ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 ของ นายไชยชนก ชิดชอบ ส.ส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย
ได้สร้างแรงสั่นสะเทือน ต่อการเมืองไทยอย่างมิอาจปฏิเสธได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิติของความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะนี่ไม่ใช่แค่คำอภิปราย ที่สะท้อนความคิดของ ส.ส.คนหนึ่งเท่านั้น หากแต่ ส.ส.คนนี้คือ เลขาธิการพรรคร่วมรัฐบาลใหญ่อันดับ 2 รองจากพรรคแกนนำอย่างเพื่อไทย และที่สำคัญ เขาคือลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ของ เนวิน ชิดชอบ ผู้นำหลังม่านผู้ทรงอิทธิพลแห่งขั้วการเมืองสีน้ำเงิน
ท่วงทำนอง และ เนื้อหาของการอภิปรายของ “ไชยชนก ชิดชอบ”ดังกล่าว นำไปสู่การวิเคราะห์ของบรรดา สื่อ และผู้คนที่ติดตามการเมือง ว่านี่คือสัญญาณบ่งบอกอนาคตของรัฐบาลแพทองธาร ว่าจะยืนระยะไปได้นานแค่ไหน
แต่มากไปกว่านั้น คือ ชื่อของทายาททางการเมือง รุ่น 3 ของตระกูลชิดชอบ นามว่า “ ไชยชนก ” ได้ถูกสปอตไลท์ทางการเมือง สาดส่อง ให้ผู้คนหันมาสนใจเขามากขึ้น ในฐานะ นักการเมืองรุ่นใหม่ ที่น่าจับตามองที่สุดอีกคนหนึ่งในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้นี้ แนวหน้าออนไลน์ จะพาไปรู้จักเส้นทางของเขา ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาสู่ดาวเด่นทางการเมือง เขาผ่านอะไรมาบ้าง
ไชยชนก ชิดชอบ ชื่อเล่น "นก" เกิดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 เป็นบุตรชายคนโตของนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และนางกรุณา ชิดชอบ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ การเติบโตในครอบครัวที่มีบทบาททางการเมืองและกีฬา ทำให้เขาได้รับการปลูกฝังทั้งในด้านการบริหารและความรับผิดชอบต่อสังคมตั้งแต่เยาว์วัย
เมื่ออายุเพียง 8 ขวบ ครอบครัวส่งไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ โดยเริ่มต้นที่โรงเรียน Millfield Preparatory School และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนานถึง 17 ปี เขาสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาในสาขาเศรษฐศาสตร์การเงิน และต่อมาเปลี่ยนไปศึกษาด้านการจัดการการเงินระหว่างประเทศ ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน
หลังจากกลับประเทศไทย ไชยชนกเริ่มต้นเส้นทางอาชีพด้วยการบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และสนามแข่งรถ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เขายังเป็นผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีสปอร์ต ซึ่งนำทีมคว้าแชมป์ในระดับโปรลีกและระดับนานาชาติได้สำเร็จ
การเป็นบุตรชายของเนวิน ชิดชอบ ทำให้เส้นทางการเมืองของเขา มีแต้มต่อกว่าคนอื่นๆในรุ่นเดียวกันมากมาย ครอบครัวชิดชอบมีบทบาทสำคัญในพรรคภูมิใจไทย และมีอิทธิพลในจังหวัดบุรีรัมย์อย่างมาก อย่างไรก็ตาม ไชยชนกพยายามสร้างตัวตนและบทบาทของตนเองในวงการการเมือง โดยไม่ยึดติดกับเงาของครอบครัว
ปัจจุบัน ไชยชนกดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์ เขต 2 เขาแสดงจุดยืนที่ชัดเจนในหลายประเด็น เช่น การคัดค้านการเปิดคาสิโนในประเทศไทย
ด้วยประสบการณ์และวิสัยทัศน์ที่ทันสมัย ไชยชนกถูกมองว่าเป็นหนึ่งในนักการเมืองรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพในการนำพาพรรคภูมิใจไทยสู่ความสำเร็จในอนาคต ยิ่งเมื่อมีแบ็คอัพสำคัญคือ เนวิน ชิดชอบ ผู้เป็นพ่อ ที่แม้จะไร้ตำแหน่งทางการเมือง แต่เรื่องบารมีนับวันจะแผ่ขยายกินพื้นที่กว้างขวางขึ้นเรื่อยๆ บวกกับความเป็นนักวางกลยุทธทางการเมืองที่ยากจะหาใครเทียบได้ในยุคนี้ ทำให้หลายคนมองอนาคตของ "ไชยชนก ชิดชอบ" กับ ตำแหน่ง "นายกรัฐมนตรี" ไม่ใช่เรื่องที่อยู่ไกลเกินเอื้อม
เพราะเวลานี้เริ่มมีเสียงสะท้อนออกมาดังขึ้นเรื่อยๆ ว่า ก็ขนาด "แพทองธาร" ยังเป็นนายกฯ ประเทศนี้ได้ แล้วทำไม "ไชยชนก ชิดชอบ" ซึ่งดีกรี ความรู้ ความสามารถ เหนือกว่าหลายขุม ทำไมจะเป็นไม่ได้!!!
ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์
.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี