สว.ขู่ไม่ผ่านแน่
ชงพรบ.กาสิโนร่างเดิมเข้าสภา
‘เท้ง’ชี้เสร็จไม่ทันรบ.นี้
เชื่อพท.-ภท.จับมือไปต่อ
ชาวพัทลุงยื่นต้านกาสิโน
จี้ถอน/ขู่ขับไล่‘รบ.อิ๊งค์’
กมธ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์ฯวุฒิสภา ถกนัดแรก 23 เมษายน “สว.สรชาติ” ขู่ถ้าดึงดันชงร่างเดิมไม่ผ่านแน่นอนเว้นแต่แก้เข้ามาใหม่ แนะรอผลศึกษาสว.ก่อน ยัน 180 วัน ขยายกรอบได้อีกยาว ด้าน “เท้ง”ผู้นำฝ่ายค้านฯยัน กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ ไม่จำเป็นต้องเสร็จในรัฐบาลนี้ ชี้หากทำความเข้าใจสังคม ผ่านประชามติ ทุกคนยอมรับก็เดินหน้าได้เชื่อ’เพื่อไทย-ภูมิใจไทย’จับมือตลอดรอดฝั่งแน่ เว้นนายกฯอิ๊งค์ ตัดสินใจ ยุบสภา ขณะที่ ชาวพัทลุงเดินขบวนยื่นหนังสือ คัดค้าน‘ก.ม.กาสิโน’ จี้นายกฯ’อิ๊งค์’ถอน-ยกเลิกร่างฯออกไปลั่นเมืองพุทธอบายมุขเป็นสิ่งต้องห้าม ขู่หากไม่หยุดจะเคลื่อนไหวร่วมคนทั้งปท.ขับไล่’รัฐบาล-อิ๊งค์’
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สมาชิกวุฒิสภา(สว.)ในฐานะผู้เสนอญัตติขอให้ตั้งกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญเพื่อศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรวุฒิสภา กล่าวว่าคณะกมธ.วิสามัญฯจะประชุมนัดแรกวันที่ 23เมษายนนี้เพื่อเลือกประธานและตำแหน่งต่างๆโดยจะต้องศึกษาให้รอบด้านทั้งเศรษฐกิจ สังคมและความคุ้มค่ารวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหลังกฎหมายผ่านในระยะยาวจะต้องนำผลการศึกษาของสส.มาดูด้วย แต่ไม่คิดว่าผลศึกษาของสส.จะรอบด้านมองว่าเป็นการศึกษาเพื่อมาสนับสนุนกฎหมายตัวเอง สว.จึงต้องศึกษาซ้ำเพื่อเอาคำตอบให้สังคม ไม่ถือว่าเป็นการทำงานซ้ำซ้อนซึ่งกรอบเวลา 180วัน สามารถขอขยายเพิ่มเติมได้
‘สว.สรชาติ’ขู่สส.ถ้าดึงดันไม่ผ่านแน่
“หากสส.จะนำร่างที่เสนอพิจารณากลับมาในที่ประชุม คงจะต้องรอผลการศึกษาของสว.ให้ได้ข้อสรุปออกมาก่อน แล้วค่อยนำเข้ามาพิจารณาในสภา หากสส.เร่งพิจารณาโดยไม่รอสว.ผมเชื่อว่าสว.คงไม่เห็นชอบและเห็นว่าในพรรคร่วมรัฐบาล ควรต้องคุยกันให้ได้ข้อสรุปก่อน เพราะหากยังเห็นไม่ตรงกันก็เชื่อว่าไม่ผ่าน โดยตนยังมองไม่ออกว่าจะออกมาอย่างไร ตอนนี้คงคุยต่อรองกันอยู่”สว.สุรชาติ ย้ำ
เมื่อถามว่าจะเป็นรอยร้าวในรัฐบาลหรือไม่ นายสรชาติ กล่าวว่าส่วนเรื่องที่วิเคราะห์กันได้ แต่สว. คงไม่ก้าวก่ายให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายรัฐบาลคุยกันเอง เพราะสว.มีหน้าที่ในการกลั่นกรองและศึกษาผลกระทบ หากผลออกมาแล้วก็อยู่ที่รัฐบาลตัดสินใจ ตนคิดว่าประชาชนรอฟังอยู่
“ถ้าเร่งเอาเข้าสภาสว.คงไม่เอาแน่ ต้องรอผลการศึกษาก่อน นอกจากเขาเอาร่างใหม่เข้ามาซึ่งเป็นร่างที่คุยกัน และมีการปรับแก้ ถ้าไม่แก้ สว.ไม่ให้ผ่านแน่ๆ” นายสรชาติ กล่าว
‘เท้ง’ชี้กาสิโนต้องแจงสังคมให้ยอมรับ
นายณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน(ปชน.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่วุฒิสภาตั้งคณะทำงานศึกษาเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ใช้เวลา 180วันในส่วนสส.คิดว่าควรต้องรอผลการศึกษาของวุฒิสภาก่อนหรือไม่ว่า คิดว่าเรื่องระยะเวลาคงไม่มีตัวเลขเฉพาะเจาะจง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทำให้สังคมตกผลึกในเรื่องนี้กับการลงรายละเอียดและศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการรวมถึงความชัดเจนในมาตรการการฟอกเงินและการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่นและถ้าเรื่องต่างๆเหล่านี้มีความชัดเจนและสังคมให้การยอมรับมากยิ่งขึ้นโดยไม่ต่อต้านในเรื่องนี้เนื่องจากมีการทำความเข้าใจอย่างเพียงพอแล้ว ตนคิดว่าจังหวะนั้นเป็นจังหวะที่รัฐบาลจะมีความชอบธรรมในการเดินหน้าเรื่องนี้ต่อ แต่สิ่งที่ขาดความชอบธรรมในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในส่วนของพรรคเพื่อไทยที่อาจจะมีความเร่งรีบในการดำเนินการเรื่องนี้มากเกินไป
เมื่อถามย้ำว่าจำเป็นต้องรอการศึกษาจากวุฒิสภาหรือไม่ในเมื่อทางสภาผู้แทนราษฎรก็ศึกษามาแล้ว นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญสภาผู้แทนราษฎรยังลงรายละเอียดไม่มากเพียงพอและใช้ระยะเวลาในการศึกษาน้อยเกินไป ดังนั้น การศึกษาของวุฒิสภาก็เป็นส่วนหนึ่งที่มาช่วยประกอบมากกว่าซึ่งตนคิดว่าสิ่งสำคัญในเรื่องนี้นอกจากวุฒิสภาแล้วคือการทำความเข้าใจในสังคม
หนุนทำประชามติก่อนเข้าสภา
เมื่อถามว่าคิดว่าผลการศึกษาแค่ไหนที่เห็นว่าจะเป็นเกณฑ์สามารถนำเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มาพิจารณาต่อได้ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าคำถามหลายคำถามก็เป็นสิ่งที่ประชาชนกำลังตั้งคำถามอยู่ ถ้ารัฐบาลสามารถตอบความชัดเจนในเรื่องเหล่านั้นได้ทั้งหมดก็น่าจะสามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้ต่อ รวมถึงข้อเสนอของภาคประชาชนที่เสนอเข้ามาคือเรื่องการทำประชามติ ตนคิดว่าไม่ใช่กฎหมายทุกเรื่อง จะต้องทำประชามติก่อนเสนอเข้าสภาฯแต่อย่างน้อยการทำประชามติก็จะเป็นเวทีในการเปิดพื้นที่รณรงค์ ทำความเข้าใจ ก่อนที่จะนำไปสู่คำถามในการทำประชามติซึ่งจังหวะที่เหมาะที่สุดเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณเช่นอาจจะทำประชามติ พร้อมการเลือกตั้งครั้งหน้า ก็เป็นไปได้ เพราะเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯไม่ได้มีความจำ เป็นเร่งด่วน
ลั่นไม่จำเป็นต้องเสร็จในรัฐบาลนี้
“ผมคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่กฎหมายฉบับนี้ จะต้องผ่านในรัฐบาลชุดนี้ หรือรัฐบาลชุดหน้า ถ้าเราไม่ได้มองในเรื่องผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจรัฐเป็นหลัก ถ้าเรามองเรื่องของการแก้ไขปัญหาในสังคมเป็นหลัก การเปิดพื้นที่อย่างกว้างขวาง ทำความเข้าใจเต็มที่ ก่อนที่จะมีการออกเสียงประชามติซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งและมีความเป็นไปได้ที่ผมคิดว่าจะเป็นทางออกของสังคมที่จะทำให้ทุกคนยอมรับ”นายณัฐพงษ์ กล่าว
เชื่อพท.-ภท.ไปต่อแน่-เว้น‘อิ๊งค์’ยุบสภา
เมื่อถามว่ามองท่าทีอย่างไรระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและพรรคภูมิใจไทย เกี่ยวกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็ออกมาพูดแล้วว่าอาจจะเป็นความคิดเห็นของนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย แต่เรื่องนี้ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องไตร่ตรองดูให้ดีก่อนที่จะเร่งผลัดดันอะไรเพราะเห็นได้ชัดว่าพรรคร่วมรัฐบาลก็อาจจะไม่เห็นด้วยกับความรีบเร่งในการผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวเรื่องนี้จึงกลับมาที่จุดยืนเดิม คือการสื่อสารทำความเข้าใจกับสังคมให้เป็นที่ยอมรับมากที่สุดก่อน
เมื่อถามย้ำว่าหากเป็นเช่นนี้มองว่าพรรคภูมิใจไทยกับเพื่อไทย ยังไปด้วยกันตลอดรอดฝังหรือไม่เพราะสภาฯยังเหลือเวลาอีก2ปี ผู้นำฝ่ายค้านฯกล่าวว่าถ้าดูจากสมการทางการเมืองปัจจุบันจำนวนสส.ของแต่ละพรรคก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าถึงอย่างไร พรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทยก็ยังจำเป็นต้องไปต่อด้วยกันเว้นแต่ว่าอาจจะมีการตัดสินใจจากพรรคเพื่อไทยคือนายกฯในการยุบสภา ซึ่งตนอาจจะแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ไม่ได้เพราะเป็นอำนาจนายกฯเพียงผู้เดียว
ชาวพัทลุงเดินชุมนุมค้านกาสิโน
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณหน้าลานพระพุทธนิรโรคันตราย อ.เมือง จ.พัทลุง กลุ่มอดีต กปปส.ร่วมกับกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยพัทลุงรวมตัวชุมนุมแสดงจุดยืนเดินชุมนุมคัดค้านบ่อนกาสิโนที่ยังไม่ถอนและยกเลิกร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรดังกล่าวออกไปและพร้อมที่จะนำเข้าสภาฯ โดยพร้อมอ่านคำแถลงการณ์พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพัทลุงซึ่งมีนายประหยัด ประธานประชาชนชาวจังหวัดพัทลุง เป็นแกนนำโดยแถลงการณ์เรื่องขอคัดค้านร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ...(พ.ร.บ. การพนัน)ภายใต้การนำของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
ตบเท้ายื่นหนังสือถึง นายกฯ’อิ๊งค์’
จากนั้น เวลา10.30น.ที่ศาลากลางจังหวัดพัทลุง กลุ่มผู้ชุมนุมประชาชนชาวจังหวัดพัทลุงนำโดย นายประหยัด อินทองปาน ประธานประชาชนชาวจังหวัดพัทลุง พร้อมผู้ชุมนุมกว่า30 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือเพื่อขอคัดค้านร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร(พ.ร.บ.การพนัน)พร้อมข้อเรียกร้องถึงนายกรัฐมนตรี โดยมี นายธนาวุธ ช่วยเกิด รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง รับหนังสือแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง
โดยนายประหยัด ประธานประชาชนชาวจังหวัดพัทลุงกล่าวว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มมีการประชุมสอบถามความคิดเห็นของประชาชนในทุกภาคส่วนซึ่งส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลภายใต้การนำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่อ้างและอาศัยเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร โดยถือโอกาสใช้อำนาจของ ประชาชนนำร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (พ.ร.บ. การพนัน) เข้าสภาผู้แทนราษฎรเพื่อใช้อำนาจทางสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาและออกกฎหมายที่ขัดต่อความสงบ เรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน สร้างความเสียหายต่อชาติบ้านเมือง
จี้นายกฯถอน-ยกเลิกร่างฯออกไป
นายประหยัดกล่าวว่าพวกเราพี่น้อง ประชาชนจังหวัดพัทลุงขอแสดงจุดยืนเช่นเดียวกับพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนที่ร่วมแสดงพลังคัดค้านการออกกฎหมายบ่อนการพนันและขออ้างเหตุผลการคัดค้านโดยยึดหลักการและเหตุผลเช่นเดียวกันกับพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนทั้งประเทศที่แสดงจุดยืนการคัดค้านตลอดมาโดยมีหลักการใหญ่ใจความสำคัญอีกประการหนึ่งของพี่น้องประชาชนจังหวัดพัทลุงที่ร่วมกันออกแถลงการณ์ฉบับนี้คือประเทศไทยเป็นเมืองพุทธศาสนาโดยมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะและทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภกของทุกศาสนา
ซึ่งพี่น้องไทยพุทธ ไทยมุสลิมและศาสนาอื่นๆต่างก็นำคำสอนตามหลักศาสนามาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตโดยบ่อนการพนัน เป็นอบายมุขและเป็นสิ่งต้องห้ามไม่ให้มีในสังคมไทยดังนั้นร่างพระราชบัญญัติการประกอบ ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรเป็นกฎหมายที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของพี่น้องประชาชนชาวไทยพี่น้องประชาชนชาวพัทลุงจึงขอเรียกร้องให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถอนและยกเลิกร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรดังกล่าวออกไป
ขู่ไม่หยุดพร้อมเคลื่อนไหวไล่รบ.-อิ๊งค์
ขณะที่นายโอภาส ขุนชิต ตัวแทนผู้ร่วมชุมนุมและตัวแทนประชาชนชาวจังหวัดพัทลุงกล่าวว่า การแสดงจุดยืนคัดค้านบ่อนกาสิโน วันนี้เป็นแค่ตัวแทนของพี่น้องประชาชนชาวพัทลุงเพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อให้หยุดและยกเลิกพ.ร.บ.การพนัน หากไม่หยุดหรือยับยั้ง ชาวจังหวัดพัทลุงจะออกมาเคลื่อนไหวเป็นจำนวนมากร่วมกับคนทั้งประเทศเพื่อจะขับไล่รัฐบาลชุดนี้และขับไล่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี”พร้อมฝากด้วยว่า รัฐบาลชุดนี้ควรจะหน้าจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้องประชาชน โดยเฉพาะสินค้าภาคการเกษตรที่กำลังต่ำตกไม่ว่าจะราคาปาล์มน้ำมัน ราคายางพารา ราคาข้าวเปลือก และสินค้าเกษตรอื่นๆ ซึ่งเกษตรกำลังเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ แต่รัฐบาลชุดนี้กลับสนใจแต่เรื่องบ่อนกาสิโน.
‘เทพไท’กาง4ทางออกรัฐบาล’อิ๊งค์’
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก“เทพไท-คุยการเมือง” หัวข้อ “ทางออกรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์”ระบุว่า...จากกรณีที่นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้ประกาศกลางที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ไม่เอากฎหมายกาสิโน เป็นการฉีกหน้านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีอย่างแรง สร้างความเสียหายทางการเมืองให้กับรัฐบาล เป็นปัญหาที่รัฐบาลจะต้องหาทางออกทางการเมืองให้ได้ซึ่งมีอยู่ 4 แนวทาง คือ 1.การประกาศยุบสภา เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ที่เกิดความแตกแยกทางความคิดระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นแนวทางที่พรรคภูมิใจไทยต้องการ แต่มีผลกระทบต่อพรรคเพื่อไทย เพราะถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ในตอนนี้ คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยยังตกต่ำ ยังไม่มีความได้เปรียบทางการเมือง การยุบสภา จึงไม่เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด 2.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ที่ไม่สามารถควบคุมพรรคร่วมรัฐบาลให้มีความเห็นเป็นแนวทางเดียวกันกับพรรคแกนนำรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ที่นางสาวแพทองธาร จะลาออก เพราะเป็นการเปลี่ยนอำนาจ เป็นการยกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้กับบุคคลอื่น ซึ่งเป็นการยอมไม่ได้
ฟันธงเฉดภท.-ปรับครม.ยึดเก้าคืน.
3.ปรับพรรคพรรคภูมิใจไทยออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเพราะมีความเห็นต่างกับพรรคแกนนำรัฐบาล ซึ่งในประเด็นนี้มีความเป็นไปได้ในสัดส่วน50:50 เพราะการปรับพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาลเพียงพรรคเดียวสามารถทำได้ ไม่มีผลกระทบต่อรัฐบาล เพราะรัฐบาลยังเสียงข้างมาก เป็นรัฐบาลเสียงปริบน้ำ แต่ถ้าหากพรรคภูมิใจไทยจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลขั้วอนุรักษ์นิยมได้อย่างแนบแน่น การปรับพรรคภูมิใจไทยออก ก็เหมือนกับการปรับพรรคอนุรักษ์นิยมออกทั้งหมดซึ่งรัฐบาลก็จะล้มได้ 4.มีการปรับ ครม.เพื่อยึดกระทรวงหลักกลับมาอยู่ในโควตาของพรรคเพื่อไทยเพื่อกระชับอำนาจทางการเมืองใหม่ ถ้าหากพรรคร่วมรัฐบาลไม่พอใจ จะถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล พรรคเพื่อไทยสามารถจัดรัฐบาลเสียงข้างน้อย และอยู่ในอำนาจจนกว่าจะเปิดประชุมสภาสมัยสามัญครั้งต่อไปและไม่นำกฎหมายสำคัญเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จนถึงวาระสุดท้าย ค่อยยุบสภาคืออำนาจให้กับประชาชนเพื่อเลือกตั้งใหม่
ถ้าพิจารณาจากทางออกทางการเมือง 4 แนวทางนี้ พรรคเพื่อไทยน่าจะเลือกแนวทางที่ 4 มากที่สุด เพราะจะทำให้พรรคเพื่อไทยได้เปรียบทางการเมืองมากกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี