“ปานเทพ”มาแล้ว! นำพยานปากเอก “อดีตขรก.สตง.” ที่เคยรับใช้เป็นมือเป็นไม้ให้ผู้ใหญ่ระดับสูงในสตง.เข้าพบดีเอสไอ พร้อมหอบหลักฐานสำคัญทั้งเอกสารรายงานการประชุม-คลิปเสียงสนทนาระหว่างบุคคล จำนวนมากตั้งแต่ปี 65 ระบุชัดใครสั่งการใคร พูดกับใครว่าอย่างไรบ้าง ยันฟังแล้วรู้ได้ว่ามีความไม่ชอบมาพากล บอกได้ว่าฮั้วหรือไม่ ย้ำพิรุธตั้งแต่เริ่มโครงการ การออกแบบ ปูดมี 1 ใน 6 คตง.เอี่ยวด้วย
เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต นำนายณรัฐนันทน์ วิภากรวิทย์ อายุ 51 ปี อดีตข้าราชการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในฐานะพยานสำคัญเข้ามอบพยานเอกสารและพยานวัตถุแก่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เกี่ยวกับกรณีโครงการก่อสร้างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ถล่ม
ปานเทพโผล่บี้ขยายผลคดีตึกสตง.ถล่ม
นายปานเทพเผยว่า กรณีตึกสตง.ถล่ม ตนมองว่าจะพิจารณาแบบแยกส่วนไม่ได้ เห็นได้ว่ามีการออกหมายจับเพียงประเด็นเดียวคือ นอมินีของบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ นัมเบอร์ 10 (ประเทศ ไทย) จำกัด แต่ประเด็นอื่นที่เป็นสาระสำคัญแห่งคดี ที่ไปที่มาของตึกถล่ม จะพิจารณาจากเรื่องนอมินีอย่างเดียวไม่พอ
ตนมองว่าเรื่องนี้ต้องแบ่งออกเป็น 3 ช่วงคือ ช่วงที่เปลี่ยนแปลงโครงการจากที่ปทุมธานีมาเช่าที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการออกแบบ จากดั้งเดิมได้สูญเสียไปทั้งหมด และหลังจากออกแบบแล้วก็เกิดปรากฏการณ์ที่ออกแบบแล้ว ก่อให้เกิดปัญหาตั้งแต่การออกแบบ
“วันนี้ระดับราชบัณฑิตจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรมโยธาก็ชัดเจนว่า มีปัญหาการออกแบบแต่ต้น หรือที่กล่าวว่าการออกแบบมันไม่สมมาตรต้องมีผู้รับผิดชอบ ซึ่งผู้เซ็นรับผิดชอบอยู่ในระดับผู้ที่มีใบอนุญาตวุฒิวิศวกรโยธา มีความอาวุโสด้านวิชาชีพ มีประสบการณ์มากที่สุด อายุ 85 ปี ไม่ได้ออกแบบมานานแล้ว แล้วใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบตั้งแต่แรก”นายปานเทพกล่าว
แฉแผนโยนผิดทั้งหมดให้คนออกแบบ
และว่า ตอนนี้ตนคิดว่ามันเกิดกระบวนการใหม่คือ พยายามโยนความผิดไปให้ผู้ออกแบบคนเดียว ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากผู้ออกแบบคนเดียว หรือบริษัทกลุ่มเดียวเท่านั้น แต่อาจถูกโยงไปเรื่องอื่นด้วย เพราะหลังออกแบบแล้ว ในกระบวนการคัดเลือกผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน และการก่อสร้างโปร่งใสหรือไม่ นอกจากนี้ ยังพบระหว่างก่อสร้างมีการแก้ไขแบบหลายครั้ง บางครั้งสัมพันธ์กับเรื่องโครงสร้างด้วยและการอนุมัติ โดยมีบางคนระบุแล้วว่าเป็นวิศวกรที่ถูกปลอมลายเซ็นในบริษัทควบคุมงาน แล้วยังมีผลต่อเนื่องว่าได้รับการอนุมัติจากผู้ออกแบบหรือไม่ ที่สำคัญเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบ ก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการในส่วนผู้แทน สตง.
นายปานเทพกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังเกิดคำถามมากในการตั้งงบประมาณ ซึ่งหลายคนตรวจสอบหลายรายการ พบว่าเกินราคาตามสภาพราคาตลาด ไม่ต้องเถียงว่าตอนนั้นสตง.ไม่ได้พิจารณาส่วนลด เพราะเอาแค่ไม่มีส่วนลดก็เกินกว่าราคาตลาดหลายชิ้นงาน ดังนั้น ทั้งหมดนี้เป็นระบบใหญ่ที่ต้องพิจารณา ไม่ใช่โยนแพะให้ใครคนหนึ่ง หรือบริษัทหนึ่ง อาจเป็นเพราะมีส่วนร่วมกันหลายระบบหลายคน
หอบพยานเด็ด-อดีตขรก.สตง.ส่งDSI
นายปานเทพเผยต่อว่า วันนี้ตนได้รับบันทึกรายงานการประชุมบางส่วน บันทึกเหตุการณ์สำคัญในการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างนี้ให้ดีเอสไอด้วย นอกจากนี้ ยังมีพยาน 1 ราย ที่เป็นอดีตข้าราชการ สตง. เป็นบุคคลใกล้ชิดกับผู้บริหารในส่วน สตง. และคำว่าผู้บริหาร ตนไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่เกี่ยวข้องระดับสูง และถูกใช้ให้ทำงานหลายอย่าง วันนี้เขามีความคิดอยากทำประโยชน์ให้บ้านเมือง ในฐานะคนเป็นไม้มือให้ผู้ใหญ่ จึงมาหาตนที่บ้านพระอาทิตย์ และมอบพยานหลักฐานทั้งหมด ทั้งวิดีโอคลิป คลิปเสียงและบันทึกเสียงตั้งแต่ปี 2565 เรื่อยมาจนครบถึงความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับบุคคลจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อทำให้เขา ซึ่งเป็นคนใกล้ชิด เป็นไม้เป็นมิอให้ผู้ใหญ่ได้ทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง ควรมาให้การกับดีเอสไอในฐานะพยาน ซึ่งดีเอสไอสนใจพยานปากนี้ เพราะรู้เห็นกระบวนการคนใกล้ชิดผู้บริหารว่าเดินเกมอย่างไร
ขรก.สตง.แห่ส่งข้อมูลให้อื้อ
นายปานเทพกล่าวด้วยว่า ตอนนี้คนที่มาหาตน ไม่ได้มีอดีตข้าราชการคนนี้คนเดียว แต่ยังมีอีกหลายคนที่เป็นทั้งข้าราชการในอดีตและปัจจุบัน ซึ่งห่วงใยภาพลักษณ์ของ สตง. จึงทยอยส่งข้อมูลมาจำนวนมาก ทำให้เราเห็นพฤติการณ์จากบันทึกรายงานการประชุม ตั้งแต่ครั้งการเปลี่ยนแปลงโครงการนี้ ที่ออกแบบและจ่ายเงินเสร็จแล้ว ในบ้างยุครายงานการประชุม อ้างเลยว่าไม่ต้องห่วงเรื่องค่าออกแบบใหม่ เพราะจะมีกรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นผู้ออกแบบให้ แล้วกรรมการก็หลงเชื่อ แต่สุดท้ายต้องไปจ้างผู้ออกแบบใหม่อยู่ดี ซึ่งผิดจากบันทึกรายงานการประชุมแต่เดิม
พิรุธอื้อตั้งแต่เริ่มออกแบบโครงการ
นายปานเทพกล่าวว่า ตนนำหลักฐานเหล่านี้มาให้ดีเอสไอเห็นถึงพฤติการณ์การเปลี่ยนแปลงของโครงการนี้นำไปสู่การออกแบบของผู้ออกแบบที่เต็มไปด้วยปัญหาทั้งหมด โดยบันทึกรายงานการประชุมตั้งแต่ปี 2565 ถึงยุคหลัง
“เหตุการณ์ทุจริตตั้งแต่การว่าจ้างออกแบบหรือไม่ ผมเรียนว่าตั้งแต่ยอมเสียค่าใช้จ่ายออกแบบให้สูญหายไปจากโครงการเดิมสู่การออกแบบใหม่ สถานที่ใหม่ ย้ายจากที่ดินที่พึงจะได้ กลายมาเป็นที่ดินที่ต้องเช่าการรถไฟฯ เรื่อยมาไปจนถึงวิธีออกแบบ คัดเลือก จนเกิดคำถามมากมาย”นายปานเทพกล่าวและว่า วันนี้เป็นบันทึกการประชุมเพียงบางส่วน ประมาณ 5-6 ครั้งที่เป็นเหตุการณ์สำคัญของเรื่องคดีนี้
ปูดโยงผู้บริหารคตง.ด้วย1
ส่วนคลิปเสียงเป็นเรื่องระหว่างบุคคลนั้น นายปานเทพกล่าวว่า เป็นประเด็นแห่งคดี คิดว่าจะใช้เฉพาะในคดีความเท่านั้น เพราะเป็นอันตรายต่อพยานด้วย ซึ่งเป็นคลิปเสียงคนหลายคน โดยเฉพาะพยานอดีตข้าราชการรายนี้บันทึกโดยโทรศัพท์ตั้งแต่ปี 2565 บันทึกเทปไว้หมด การสั่งการจากใคร การพูดคุยกับใคร รวมถึงการสนทนาช่วงหลังด้วยว่าบริษัทควบคุมงานคิดอะไร ทำอะไร พูดว่าอะไร ช่วงการออกแบบมีการพูดถึงผู้รับเหมาอย่างไร วันนี้มีคลิปเสียงสนทนามีจำนวนมาก เพราะอัดไว้ตลอดเวลา ต้องถอดเทปมาคัดเลือกมอบให้ดีเอสไอ ทั้งนี้ ในส่วนผู้บริหารไม่ได้มีเพียงส่วนสตง. แต่มีในส่วนคตง.ด้วย โดยเฉพาะหน้าห้อง คตง. ที่เป็นตำรวจ
ปลุกขรก.สตง.ให้ข้อมูลรักษาองค์กร
ด้านนายณรัฐนันทน์กล่าวว่า ที่ตนมาวันนี้ เพราะเคยใกล้ชิดผู้ใหญ่ในสตง. ที่เป็นผู้บริหาร และตนเคยทำงานรับใช้หลายเรื่อง ล่วงรู้พฤติการณ์ที่ส่อไปในทางไม่สุจริตของการสร้างตึก สตง.ที่เกิดเหตุถล่ม รายละเอียดพยานหลักฐานข้อเท็จจริง ตนมอบให้นายปานเทพไปแล้ว ที่มาเพราะอยากมาให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ต่อประเทศกับดีเอสไอ แต่ขอไม่ลงลึกรายละเอียด เพราะจะอยู่ในสำนวน ทั้งนี้ ตนขอให้พี่น้องข้าราชการ สตง.ที่ทราบเรื่อง สตง.ยังมีคนดี คนที่ไม่ได้มีส่วนร่วมช่วยออกมาเผยแพร่ข้อมูลข้อเท็จจริงที่รู้กันมาก เช่น ทำไมราคากลางถึงแพง เกิดอะไรขึ้น เพื่อรักษาภาพลักษณ์องค์กร ให้เห็นว่าสตง.ยังมีคนดี
ยันข้อมูลที่มีบอกได้เลยว่าฮั้วหรือไม่
นายณรัฐนันทน์กล่าวอีกว่า ส่วนพฤติการณ์ใดที่ส่อไปในทางทุจริต ตนให้นายปานเทพไปแล้ว สรุปคือ ตนถูกใช้งานให้ไปทำหลายอย่างที่ส่อไปทางทุจริต เช่น ตนมองว่าอาจเป็นเรื่องของความไม่ชอบธรรมความไม่สุจริตโปร่งใส ไม่มีเรื่องเงิน แต่ตนทราบข้อเท็จจริงตั้งแต่กระบวน การคัดเลือกผู้ออกแบบ การคัดเลือกผู้รับจ้างก่อสร้าง การคัดเลือกผู้ควบคุมงาน มีเบื้องลึกเบื้องหลังหรือไม่ ส่วนจะมีการฮั้วกันตั้งแต่สร้างตึก สตง.แห่งใหม่หรือไม่ ข้อมูลตนมีแบบนี้ ส่วนข้อเท็จจริงพยานหลักฐานขอให้ดีเอสไอไปพิจารณาอีกครั้ง แต่ตนยืนยันว่ารู้และเชื่อว่ามันเกิดกระบวนการแบบนี้จริง
“ส่วนมีกรณีใดที่ส่อทุจริตที่ผมไปดำเนินเรื่องเอง หรือถูกให้ไปดำเนินเรื่องหรือไม่ ยอมรับว่ามีหลายเรื่องที่ไปดำเนินการเอง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ส่อทุจริต โดยมีหลายเรื่องที่ผมอยู่ในเหตุการณ์เลยได้รู้ ได้ยินได้ฟังกับตัวเอง ส่วนหลักฐานคลิปวิดีโอ หากได้ฟังมันบ่งบอกถึงความไม่สุจริตเกิดขึ้น ฟังโดยสามัญชนทั่วไปจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเป็นการพูดคุยระหว่างบุคคลกับบุคคล”นายณรัฐนันทน์กล่าว
เห็นความไม่ชอบมาพากลมา18ปี
และว่า ตนทำงานที่ สตง.มา 18 ปี เห็นความไม่ชอบมาพากลปี 2563 เรื่อยมาถึงปัจจุบัน แต่ด้วยความเป็นข้าราชการ มีผู้บังคับบัญชา อีกทั้ง ห่วงความปลอดภัย ความก้าวหน้าทางอาชีพ แต่วันนี้ตนเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว มันเป็นเรื่องใหญ่มีคนเสียชีวิต คนเหล่านั้นควรได้รับความยุติธรรม ผู้บริหารหรือใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรมีส่วนรับผิดชอบ ตนเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่เราควรเปิดเผยข้อเท็จจริงให้สาธารณะชนสังคมรับทราบ
นายณรัฐนันทน์กล่าวถึงสาเหตุที่ตนออกจากสตง.มาตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 ไม่เกี่ยวกับเรื่องตึก สตง. แห่งใหม่ถล่ม และไม่เกี่ยวกับการทุจริต แต่เป็นเรื่องส่วนตัวที่ตนมองว่าถูกกลั่นแกล้ง เพราะอาจไปรู้ความลับมากเกินไป และตนก็อยู่ระหว่างอุทธรณ์สำนวนคดี ไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวกับส่วนรวม ทั้งนี้ ตอนเป็นข้าราชการไม่เคยบอกผู้บังคับบัญชาเรื่องทุจริต เพราะตนเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย แต่ส่วนตัวเชื่อว่าท่านทราบอยู่แล้วว่าทำอะไรกันไว้ เพราะอยู่ในอำนาจท่าน ตนคงไม่กล้าไปนำเสนอ แต่วันนี้ ตนเห็นว่ามีผู้เสียชีวิตและอยากให้เรื่องถูกตีแผ่ ไม่อยากให้ถูกซุกไว้ใต้พรมอีกแล้ว
คาดมีบิ๊กเอี่ยวไม่ต่ำกว่า10คน
นายณรัฐนันทน์ระบุอีกว่า ส่วนจำนวนผู้บริหารชั้นผู้ใหญ่ที่รู้เห็นพฤติการณ์ไม่ชอบมาพากลน่าจะประมาณกี่คนนั้น ในมุมมองของตนไม่ต่ำกว่า 10 คน และตนขออนุญาตกล่าวว่าสัญญาจ้างผู้ออกแบบ สัญญาจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง สัญญาจ้างผู้ควบคุมงาน ที่สตง.เป็นผู้ว่าจ้าง ลงนามโดย นายประจักษ์ บุญยัง อดีตผู้ว่าฯ สตง. ส่วนหลักฐานวันนี้จะเกี่ยวข้องกับผู้บริหารในอดีตหรือปัจจุบัน ตนขอแจงว่าในชุดผู้บริหารปัจจุบัน ผู้บริหารยังมีอำนาจอยู่ พร้อมยอมรับว่ากังวลเรื่องของความปลอดภัยที่ออกมาพูดวันนี้ แต่คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ควรพูดและนำเสนอ ถ้าเราไม่ออกมาทำเพื่อสังคมบ้าง สิ่งต่างๆเหล่านี้หากตึกไม่ถล่มก็ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในองค์กร สตง.
“ส่วนเรื่องที่มีคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน(คตง.) ที่ถามว่ามีผู้บริหาร คตง.ในส่วนข้อมูลของผม ปัจจุบันเรามี คตง. 6 คน ซึ่งข้อมูลของผมต้องให้ความเป็นธรรมกับคตง.อีก 5 ราย เพราะ 5 รายนี้ ผมไม่เคยได้ข้อมูลว่าท่านเกี่ยวข้องหรือไม่ อย่างไร แต่มี 1 ท่าน ที่ผมรับใช้ใกล้ชิด”นายณรัฐนันทน์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี