‘กอ.รมน.’กังวลปมเทียบเคียง‘3 จังหวัดชายแดนใต้-ซินเจียง’คลาดเคลื่อน ยันรัฐบาลไม่ปิดกั้นรูปแบบปกครอง แต่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญและกฎหมาย
24 เมษายน 2568 ที่กองอำนายหารรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) พล.ต.ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษกกอ.รมน. ระบุถึงกระแสสังคมเกี่ยวกับแนวคิดแนวคิด “เขตปกครองพิเศษ” ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงการเทียบเคียงพื้นที่ดังกล่าวกับ “เขตปกครองตนเอง”ของมณฑลซินเจียง ของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยอ้างถึงความคล้ายคลึงบางประการ อาทิ มีการใช้ภาษาท้องถิ่นที่แตกต่างจากภาษาราชการ ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม มีอัตลักษณ์ ประเพณี วัฒนธรรม ที่เป็นของตนเองอย่างชัดเจน (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘ทวี’เทียบ‘ชายแดนใต้-ซินเจียง’ จุดพลุถึงเวลายกเป็น‘เขตปกครองพิเศษ’)
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ในฐานะหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ดูแลและเสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงมีความกังวลเนื่องจากมีข้อมูลปรากฏขึ้นอย่างหลากหลาย ซึ่งอาจไม่ครบถ้วนหรือไม่สมบูรณ์ อันจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือคลาดเคลื่อนได้
ขอเน้นย้ำว่า รัฐบาลพร้อมหารือพูดคุยกับทุกภาคส่วน ไม่ได้ปิดกั้นการพูดคุยเรื่องรูปแบบการปกครอง แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญไทย และไม่กระทบต่อบูรณภาพแห่งดินแดน ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง โดยการเรียนรู้และพิจารณาบริบททางประวัติศาสตร์ โครงสร้างการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ และกฎหมายภายในของแต่ละประเทศ ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
“เขตปกครองพิเศษ” คือ พื้นที่ที่จัดรูปแบบการบริหารให้เหมาะสมกับบริบทเฉพาะ เช่น กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ที่มีโครงสร้างการบริหารท้องถิ่นที่ต่างจากจังหวัดทั่วไป โดยยังคงอยู่ภายใต้กฎหมายและรัฐธรรมนูญของไทย เช่นเดียวกับในระดับนานาชาติ ฮ่องกงและมาเก๊าของจีน ซึ่งมีระบบกฎหมาย ศาล และนโยบายเศรษฐกิจของตนเองภายใต้หลัก “หนึ่งประเทศ สองระบบ” แต่ไม่มีอำนาจในด้านความมั่นคงหรือการต่างประเทศ
“เขตปกครองตนเอง” คือ พื้นที่ที่รัฐอนุญาตให้บริหารตนเองในบางด้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์ทางชาติพันธุ์ ศาสนา หรือภาษา เช่น มณฑลซินเจียงของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งอนุญาตให้ใช้ภาษาอุยกูร์ และมีสภาท้องถิ่น แต่ยังคงอยู่ภายใต้การกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดจากรัฐบาลกลาง
สำหรับ บริบทของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา มีอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ภาษา และศาสนาเฉพาะตัว เช่นเดียวกับจังหวัดอื่นที่มีประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ประเพณี วัฒนธรรมและอัตลักษณ์ อย่างเชียงใหม่หรือแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีการใช้ภาษาท้องถิ่น การแต่งกาย และวัฒนธรรมประจำถิ่นที่แตกต่าง แต่สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยตระหนักถึงความสำคัญของการเคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเสรีภาพในการนับถือศาสนาอิสลาม การดำเนินชีวิตตามหลักศาสนา ตลอดจนการแสดงออกทางวัฒนธรรมอันหลากหลาย ซึ่งล้วนได้รับการคุ้มครองอย่างเท่าเทียมภายใต้กรอบตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 31 บัญญัติไว้ว่า “บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการนับถือศาสนา และย่อมมีเสรีภาพในการปฏิบัติหรือประกอบพิธีกรรมตามหลักศาสนาของตน...” ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจของรัฐในการส่งเสริมและคุ้มครองเสรีภาพในการดำเนินชีวิตตามหลักความเชื่อและวัฒนธรรมที่หลากหลายของประชาชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
เพื่อให้การอยู่ร่วมกันในความหลากหลายนั้นเกิดขึ้นอย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้กรอบของกฎหมายเดียวกัน ในขณะเดียวกันรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 1 ได้บัญญัติหลักการสำคัญยิ่งไว้อย่างชัดเจนว่า “ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้” บทบัญญัตินี้ไม่เพียงยืนยันถึงความเป็นเอกภาพของประเทศ แต่ยังสะท้อนให้เห็นว่าพื้นที่ทุกจังหวัด รวมทั้งพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรไทยอย่างเสมอภาค ไม่สามารถแยกตัวหรือจัดตั้งรูปแบบการปกครองที่ขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญของไทยดังกล่าวได้อย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ รัฐบาล และหน่วยงานความมั่นคงเปิดกว้างพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนด้วยความเคารพ บนพื้นฐานการบริหารราชการแผ่นดินภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชาติไทย เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการรักษาเอกภาพของรัฐ กับการส่งเสริมอัตลักษณ์และความหลากหลายของท้องถิ่น ซึ่งการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จำเป็นต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของประชาชน ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา และภาคประชาสังคมในทุกระดับ เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขอย่างแท้จริง
กอ.รมน. จะยึดมั่นการพัฒนาพื้นที่ชายแดนภาคใต้ด้วยความ “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” บนพื้นฐานของความร่วมมือ ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของความสันติสุข การเคารพซึ่งกันและกัน และโอกาสที่เท่าเทียม โดยจะเดินหน้ายุทธศาสตร์ความมั่นคงควบคู่กับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และพร้อมเป็นกลไกในการประสานเชื่อมโยงระหว่างรัฐกับประชาชน เพื่อรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์สูงสุดของประเทศเพื่อคนไทยทุกคน
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี