ยืนกรานใครพูดไม่สำคัญเท่านายกฯ
‘บิ๊กอ้วน’โต้ถูกปรับ
งงข่าวกลับคุม‘ก.พาณิชย์’
‘สุทิน’ชอบใจคัมแบ๊กกห.
ปชน.ชี้การเมืองเปลี่ยนแน่
ถ้า25สส.ถูกฟันจริยธรรม
สะพัด!ปรับครม.เขย่ารัฐบาล “ภูมิธรรม”โต้ข่าวพ้น“กลาโหม” หวนกลับคุม“ก.พาณิชย์”ลั่นยังไม่ได้รับสัญญาณปรับ ครม.จาก“นายกฯอิ๊งค์”ต้องฟังนายกฯ ชี้ข่าวปรับครม.เกิดจากคนที่มีวัตถุประสงค์ ยันนายกฯบอกหลายครั้งว่าไม่มี งงข่าวกลับคุม‘พาณิชย์’ลั่น‘ผมก็รักกลาโหม’ด้าน’สุทิน’หัวเราะชอบใจหลังมีชื่อคัมแบ็ก‘รมว.กลาโหม’บอกยังไม่มีสัญญาณ แต่พร้อมสานต่อนโยบายเดิม ‘เทพไท’ฟันธง! 5ข้อ‘เพื่อไทย’ไม่กล้าทำ ลุยปรับครม.แม้ช่วงนี้กระแสปรับมากขึ้น หลังมีกระแสข่าวว่า อาจมีการขยับปรับครม.ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้เลย จะเป็นปรับทั่วไปก่อนโดยเฉพาะในส่วนของพรรคเพื่อไทย (พท.)จะสลับโยกกระทรวง ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆหากต้องการจะปรับในคราวเดียวกันสามารถแจ้งชื่อมาได้นั้น
เมื่อวันที่ 24เมษายน2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีชื่อ นายภูมิธรรมกลับไปเป็นรมว.พาณิชย์ว่า ตนโดนไปได้ทุกที่ ตราบใดที่เป็นการคาดคะเน ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีเรื่องนี้ และ ยังไม่มีการพูดคุยกันเลย อย่างที่บอกการตัดสินใจทั้งหมดขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจริงๆ
‘อ้วน’ย้ำปรับครม.ต้องฟังนายกฯ
“และผมยังไม่เคยได้ยินเสียงบ่นจากนายกฯว่าไม่เอาตรงนั้น ได้ยินแต่ว่าอยากให้ร่วมมือกันให้ได้ ท่านได้บอกแล้วว่าท่านเป็นคนตรงไปตรงมาในการทำงาน ไม่ชอบให้มีการทำตรงนั้นตรงนี้ มีวาระขัดกันไปขัดกันมา ท่านไม่อยากเห็น ท่านอยากทำงาน เพราะฉะนั้นยังไม่เคยได้ยินเสียงจากท่านเลยว่าจะปรับ”นายภูมิธรรม ย้ำ พร้อมระบุว่า สถานการณ์จะปรับหรือไม่ปรับ มีปัจจัยหลายอย่าง และคนที่จรดปากกาเซ็นคือนายกฯ สิ่งเหล่านี้ถ้าอยากจะรู้ทิศทางให้ท่านดูคำตอบจากนายกฯดูจากภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ท่านก็ตอบชัดเจนว่ายังไม่คิด เพราะนายกฯเป็นคนที่พูดตรงไปตรงมา
ย้ำ‘อิ๊งค์’รับฟังเสียงสะท้อนส.ส.
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่สส.พรรคเพื่อไทย เป็นห่วงเรื่องสินค้าราคาเกษตรจึงมีการเขย่าเก้าอี้รมว.พาณิชย์ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ปัญหาสส.ในพรรคเพื่อไทยที่รู้สึกและสะท้อนนายกฯก็รับฟัง เพราะถือเป็นปัญหาการทำงานซึ่งเกิดได้ทุกเรื่องทุกอย่าง เราจะบริหารความพึงพอใจให้มากที่สุดไม่ได้ เพราะความพึงพอใจของคนไม่มีที่สิ้นสุด สิ่งที่เราทำคือการบริหารความถูกต้อง และความเหมาะสมให้ได้มากที่สุด ดังนั้น ในทางการเมืองต้องบริหารความไม่พอใจให้น้อยที่สุด ไม่ได้บริหารความพึงพอใจ เพราะความพึงพอใจ และความต้องการของคนเท่าไหร่ก็ไม่พอ
ปัดสูตรใหม่ ชี้อยู่ที่นายกฯตัดสินใจ
เมื่อถามว่ามองว่าจะมีการปรับครม.หลังผ่านร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้เป็นวิธีคิดแบบสูตรเดิมที่ต้องรอให้เรื่องนั้นเรื่องนี้ผ่าน ซึ่งวันนี้เสียงรัฐบาลพออยู่แล้ว
เมื่อถามย้ำว่าแล้วสูตรใหม่คืออะไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า สูตรใหม่ยังไม่ได้คิด แต่ตนคิดว่าอยู่ที่การมองของผู้นำว่าขณะนี้บรรยากาศการทำงานร่วมกันสามารถทำให้บรรลุเป้าหมายหรือไม่ หากไม่บรรลุเป้าหมายจากจุดไหน นายกฯก็คงพิจารณาว่าเกิดจากเงื่อนไขอะไร หากมุ่งหวังแล้วส่วนไหนที่ยังไม่สามารถทำได้ ไม่ใช่อยู่ๆก็จะปรับ นายกฯก็คงต้องบอกว่าตรงนั้นตรงนี่ต้องขันน็อตซึ่งตรงนี้ก็อยู่ที่นายกฯพิจารณา และยังพูดในหลักการเดิมคือให้ร่วมกันทำงาน และตั้งใจทำนโยบายให้บรรลุผลโดยเร็วเพราะประชาชามีความคาดหวัง
นายกฯย้ำให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
เวลา 12.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงกระแสข่าวการปรับครม.ที่แม้นายกฯจะยังไม่ส่งสัญญาณแต่มีรายชื่อหลุดออกมาทั้งชื่อนายภูมิธรรมที่จะกลับไปนั่งรมว.พาณิชย์ หรือนายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย อดีตรมว.กลาโหมกลับมานั่งรมว.กลาโหมอีกครั้งมองเรื่องนี้มีที่มาที่ไปอย่างไรว่าไม่เคยมีสัญญาณ ไม่เคยมีการบอกตนว่าจะต้องทำยังไง
“ท่านนายกรัฐมนตรีพูดในที่ประชุมครม.ตลอดว่าให้ทุกคนทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ประสานงานกันอย่างเต็มที่ และการทำงานที่ได้สาระเนื้อหา เพราะเราอยู่ในภาวะวิกฤติ ไม่อยากเห็นการไม่สามัคคีกัน ไม่ใช่มีการขัดแข้งขัดขากันหรือมีปัญหาอะไร นายกฯตรงไปตรงมา ขอให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเอง เท่าที่ได้ฟังก็เป็นอย่างนี้”
ย้ำใครพูดก็ไม่สำคัญเท่านายกฯ
นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่าส่วนนอกนั้นตนได้ฟังจากข้างนอกจากสื่อเป็นหลัก ตนก็ไม่ทราบว่าแหล่งข่าวที่สื่อหรือใครที่ได้รับมาเป็นข่าวมาจากไหน แต่ถ้าดูตอนนี้ยังไม่มีอะไร และคนที่มีอำนาจตัดสินใจว่าจะมีหรือไม่มีการปรับก็คือนายกฯเพราะว่าถ้าจะมีสิ่งนี้เกิดขึ้นท่านจะเป็นคนจรดปากกา และนายกฯก็ยืนยันหลายครั้งแล้วยังไม่คิดอะไร ฉะนั้นใครพูดก็ไม่สำคัญเท่านายกฯเมื่อท่านนายกฯบอกไม่คิดจะปรับคนอื่นก็ปรับไม่ได้
‘ผมก็รักกลาโหม’ยังงงๆกลับพณ.
นายภูมิธรรม ยังระบุอีกว่า ตนว่ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ให้ทุกคนทำหน้าที่ไปก่อนและการมีข่าวหรือไม่มีข่าว ตนไม่รู้แต่อาจเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุเกิดขึ้นจากคนที่มีวัตถุประสงค์ต้องการอะไรก็ได้
“ผมยังไม่เคยได้ยินมาจากพาณิชย์แล้วไปกลาโหม แล้วกลับไปพาณิชย์ ได้ฟังก็ยังงงๆ แต่ว่าผมพร้อม จะให้ผมไปทำอะไรที่ไหน และผมมาที่กลาโหมผมก็รักกลาโหม ก็ทำงานดีได้รับการสนับสนุนที่ดี”นายภูมิธรรมย้ำ
‘สุทิน’หัวเราะชอบใจ/พร้อมคัมแบคกห.
ด้าน นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีต รมว.กลาโหมกล่าวถึง กระแสข่าวที่มีชื่อกลับมานั่งตำแหน่ง รมว.กลาโหม โดยนายสุทินหัวเราะ พร้อมบอกว่าน่าจะเป็นเพียงการคาดการณ์ แต่ตนยังไม่รับการส่งสัญญาณใดๆ ผู้สื่อข่าวถามว่าพร้อมหรือไม่ หากได้กลับมานั่งตำแหน่งเดิมและสานต่อนโยบายเดิม โดยเฉพาะการจัดซื้อเรือดำน้ำ นายสุทินกล่าวว่า ส่วนตัวพร้อมทำตามนโยบายอยู่แล้ว ตอนนี้ขอรอความชัดเจนจากพรรคและนายกฯก่อน ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ต้องรอเซอร์ไพรส์หรือไม่ นายสุทิน หัวเราะอีกครั้ง ก่อนบอกว่ายังไม่มีอะไร
‘เทพไท’ชำแหละกระแสปรับครม.
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปโดยมีเนื้อหาในหัวข้อ“ปรับ ครม.5ข้อที่ไม่กล้าทำ”ระบุว่าแม้ช่วงนี้กระแสการปรับครม.ดังหนาหูมากขึ้นซึ่งมีการคาดการณ์ว่าอาจจะมีการปรับครม.ในช่วงปลายเดือนเมษายน หรือต้นเดือนพฤษภาคมนี้ แม้ว่าน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะออกมาปฏิเสธ และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลก็ออกมายืนยันว่ายังไม่ได้รับสัญญาณการปรับครม.แต่อย่างใด ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการปรับครม.จะไม่มีการบอกล่วงหน้า เพราะถ้าหากมีการแจ้งล่วงหน้า ก็จะเกิดปัญหาการทำงานในกระทรวง เกิดเกียร์ว่าง ถ้าหากรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงอยู่ในข่ายจะถูกปรับออกและในขณะเดียวกันคนที่อยากเป็นรัฐมนตรีก็วิ่งเต้นล็อบบี้ หวังจะเป็นรัฐมนตรีคนใหม่ให้ได้
ฟันธง! 5 ข้อที่‘เพื่อไทย’ไม่กล้าทำ
นายเทพไทระบุว่าถ้าหากว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีขึ้น เชื่อว่าจะไม่กล้าทำใน 5ข้อ คือ1.ไม่กล้าปรับพรรคภูมิใจไทยออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แม้ว่าปรับพรรคภูมิใจไทยออกแล้ว รัฐบาลก็ยังมีเสียงเกินครึ่ง เป็นรัฐบาลปริ่มน้ำได้ แต่เท่ากับเป็นการประกาศอยู่ตรงข้ามกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นแบ็คอัพสำคัญของพรรคภูมิใจไทย 2.ไม่กล้าดึงพรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมรัฐบาล แม้ว่าจะมีการปล่อยข่าวออกมาก่อนหน้านี้ คงเป็นเพียงการปล่อยข่าวเพื่อกดดันพรรคร่วมรัฐบาล ไว้ขู่พรรคร่วมรัฐบาลว่า ยังมีพรรคอะไหล่ที่สามารถดึงเข้ามาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้ 3.ไม่กล้ายึดกระทรวงมหาดไทยคืนจากพรรคภูมิใจไทย แม้ว่าคนในพรรคเพื่อไทยต้องการยึดกระทรวงมหาดไทยคืนมาเหมือนใจจะขาด แต่ก็ไม่สามารถนำกระทรวงใดไปแลกเปลี่ยนได้ ยิ่งกระทรวงคมนาคมกำลังเป็นบ่อเงินบ่อทองของพรรคเพื่อไทย4.ไม่กล้ายึดกระทรวงพลังงาน จากพรรครวมไทยสร้างชาติตามความต้องการของกลุ่มทุนพลังงาน ที่ใกล้ชิดกับนายทักษิณ เพื่อต้องการนำกระทรวงพลังงานมาอยู่ในโควตาของพรรคเพื่อไทย จะได้บริหารจัดการได้อย่างเต็มที่ 5.ไม่กล้าล่วงลูกปรับ ครม.ในโควตาพรรคร่วมรัฐบาล คงปรับได้เฉพาะในส่วนของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ตามสไตล์ของนายใหญ่ ปรับเพื่อต่างตอบแทน แบบสมบัติผลัดกันชม หรือเก้าอี้ดนตรี ถ้าพรรคร่วมจะปรับด้วย ก็เป็นความประสงค์ของพรรคร่วมรัฐบาลเอง
“ถ้าหากมีการปรับคณะรัฐมนตรีในเร็วๆนี้ เชื่อว่า 5 ข้อนี้ พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล ไม่กล้าแตะต้องอย่างแน่นอน”นายเทพไท ย้ำทิ้งท้าย
นายกฯกลับถึงไทยปิดปากเงียบ
เวลา 15.30 น.ที่ท่าอากาศยานทหาร2 กองบิน6 (บน.6) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับจากยือนกัมพูชา ทันทีที่มาถึง น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มารอพบเพื่อเข้ารายงาน งานในกำกับดูแล รวมถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้ามารายงานสถานการณ์ความมั่นคงโดยรวม โดยใช้เวลารวมกัน1ชั่วโมง จากนั้น นายกฯ เดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน แม้พยายามสอบถามกระแสข่าวปรับ ครม.นายกฯ ไม่ตอบคำถาม เพียงแต่โบกมือ เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องมาตรการรับมือกำแพงภาษีสหรัฐฯ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ให้สัมภาษณ์จากที่กัมพูชามาแล้ว ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยว่า มาคุยเรื่องงาน ไม่มีอะไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี