ยังไม่คิดเอาใครเข้า/เขี่ยใครออก
‘แม้ว’โวรบ.เสียงเยอะ
ถ้าปรับครม.ก็ต้องปรับทีเดียว
‘อิ๊งค์’หายไข้จ่อบุกนครพนม
‘เฉลิมชัย’ลั่นพาปชป.กลับมา
ยึดอุดมการณ์ไม่มีวันทิ้งพรรค
เทวดาทักษิณ เปิดสวนสาธารณะให้ชาวเชียงใหม่รดน้ำดำหัว ย้ำปรับ ครม.เป็นอำนาจของลูกสาว แย้มหากต้องปรับ ก็ปรับทีเดียว บอกยังไม่คิดดึงใครเข้า-ปรับใครออก โวเสียงมีเยอะแยะ “เฉลิมชัย” ยอมรับปชป.อยู่ช่วงวิกฤต ประกาศกร้าว พาปชป.ชนะเลือกตั้งครั้งหน้า ย้ำรักปชป.ไม่มีวันทำให้เสื่อมเสีย ลั่นไม่ท้อตั้งเป้าปชป.ต้องกลับมา’ด้าน‘เสรีพิศุทธ์’ยัน’เสรีรวมไทย’เดินหน้าทำงานเพื่อประเทศแนะนายกฯยุบสภาไปเลย
เมื่อเวลา10.10น.วันที่ 26เมษายน 2568 ที่ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยเครื่องบินพาณิชย์ ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นางเยาวภา ชินวัตร น้องสาว นายพายัพ ชินวัตร น้องชาย พร้อมด้วย น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ร่วมเดินทางไปด้วย
โดยเมื่อเดินทางไปถึงสนามบินเชียงใหม่มีประชาชนมวลชนคนเสื้อแดงมารอให้การต้อนรับ พร้อมชูป้าย “รดน้ำดำหัวนายกทักษิณ”,“สมาพันธ์คนเสื้อแดงจังหวัดเชียงราย”พร้อมถ่ายรูปด้วย จากนั้น นายทักษิณจะไปรับประทานก๋วยเตี๋ยวเนื้อนครปฐมโอชา สันกำแพง และวันเดียวกันนี้ เวลา 16.30 น.นายทักษิณ จะเปิดให้ประชาชนรดน้ำดำหัว ที่สวนสาธารณะรถไฟ ขณะที่ในวันที่ 27 เมษายน เวลา16.00น. นายทักษิณ จะขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ในนามพรรค พท.ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติเอ็มเพรส ก่อนจะเดินทางกลับ กทม. ในเวลา 19.05 น. วันเดียวกัน
เวลา12.10 น.ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อนครปฐมโอชา จ.เชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ต้องแล้วแต่นายกฯ เพียงแค่ทุกคนเอาเรื่องของการเมือง และการบริหาร โดยเฉพาะเรื่องงานบางอย่างไม่ค่อยออก ซึ่งหากมีการติดขัดอะไร ก็ต้องไปคุยกับนายกฯ และนายกฯกำลังพิจารณาว่า จะต้องทำเช่นไร เป็นเรื่องของนายกฯ
ลั่นปรับ ครม.ก็ปรับทีเดียว
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่การปรับครม. จะปรับในส่วนของพรรคเพื่อไทยที่ทำได้ก่อน นายทักษิณ กล่าวว่า“ไหนๆจะปรับ ก็ต้องปรับทีเดียว”
เมื่อถามอีกว่า มองอย่างไรที่จะมีการปรับครม.โดยผลักให้พรรคภูมิใจไทยไปเป็นฝ่ายค้าน นายทักษิณ กล่าวว่า“ไม่มี ไม่เคยคิดว่า จะให้ใครออกไปเป็นฝ่ายค้าน ไม่มีความคิดตรงนั้น”
เมื่อถามว่า กระแสที่ออกมามองว่าเป็นการเมืองขย่มกันเองหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ก็หลายพรรค บางครั้งเราก็ไม่รู้ เพราะแต่ละพรรคก็มีความคิดเห็นเป็นของตนเอง
ไม่คิดดึงใครเข้า-ออก/โวเสียเยอะ
เมื่อถาม ถามถึงกระแสข่าวที่จะดึงพรรคพลังประชารัฐมาร่วมรัฐบาลมีแนวโน้มหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐมีส่วนหนึ่งที่เขา มีการพูดคุยกับเพื่อนเขา เรายังไม่ได้คิดเรื่องที่จะดึงใครไม่ดึงใคร แต่วันนี้ส่วนใหญ่รัฐบาลคงมองว่าที่มีอยู่ก็ดีอยู่แล้ว อาจจะปรับตำแหน่งมากกว่า
เมื่อถามว่า หากงูเห่าของพรรคพลังประชารัฐจะมาเราก็ไม่ได้ปิดทางใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ไม่ได้คุยเรื่องงูเห่าเลย ซึ่งก็คงไม่มีความจำเป็นอะไร เสียงรัฐบาลก็เยอะแยะ
วันเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์สตอรี่ไอจีระบุว่า“ ขอบพระคุณทุกท่านที่เป็นห่วงค่ะ ทั้งเรื่องสุขภาพ ซึ่งตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้ว หมอบอกว่า น่าจะมีภาวะที่ขาดน้ำ และอากาศร้อนมาก รวมทั้งพักผ่อนน้อย หายใจได้ไม่เต็มที่ค่ะ และทุกท่านที่ห่วงเรื่องแว่น เพลียมากหลับไปทั้งแว่นเลยค่ะ แต่ไม่แตกใดๆนะคะเพราะคุณปอเอาออกให้เรียบร้อยค่า”พร้อมติดแฮชแท็ก @pidok_s ขอบคุณสามีมา ณ ที่นี้ค่ะ
นายกฯจ่อลุยครม.สัญจรนครพนม
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเกี่ยวกับกรณีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยระบุว่า ล่าสุดแพทย์ได้แนะนำให้นายกรัฐมนตรีทราบว่า น.ส.แพทองธารสามารถกลับไปพักผ่อนที่บ้านได้แล้ว นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งกับแพทย์ว่าขออนุญาตกลับไปพักผ่อนที่บ้าน หลังจากนั้น น.ส.แพทองธารได้ออกจากโรงพยาบาล และกลับไปพักผ่อนที่บ้านเรียบร้อยแล้วและจะเดินทางไปร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดนครพนมในเช้าวันจันทร์ที่จะถึงนี้
ปชป.จัดประชุมใหญ่คนร่วมคับคั่ง
เวลา 09.30 น.ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เขตหลักสี่ กทม.พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 เพื่อรับรองรายงานการประชุมและเลือกโฆษกพรรคและคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.ตามกฎหมายพรรคการเมือง โดยมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคฯเป็นประธาน พร้อมด้วย นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข เลขาธิการพรรค และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรค และบรรดาแกนนำคนสำคัญ อาทิ นายประมวล พงศ์ถาวราเดช นายสมบัติ ยะสินธุ์ นายชัยชนะ เดชเดโช นายไชยยศ จิรเมธากร ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรค ตลอดจนบรรดา สส.กรรมการบริหาร อดีต สส. อดีตรัฐมนตรี ประธานสาขาพรรค ตัวแทนพรรคและสมาชิกพรรคเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้อย่างคับคั่ง
โดยมีนายเฉลิมชัยในฐานะหัวหน้าพรรคปชป.กล่าวเปิดการประชุมว่าพรรคประชาธิปัตย์ก้าวเข้าสู่ปีที่80ซึ่ง79ปีที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านวิกฤตต่างๆ มากมาย มีทั้งรุ่งเรืองและมีทั้งตกต่ำ นี่เป็นธรรมชาติทางการเมือง แต่สถานการณ์วันนี้ด้วยสังคมและบริบทที่เปลี่ยนเปลี่ยน ทำให้พรรคประชาธิปัตย์อยู่ในจุดที่วิกฤตอีกครั้งหนึ่ง
ยอมรับประชาธิปัตย์อยู่ช่วงวิกฤต
ในช่วง 10-15ปีที่ผ่านมา สส.เราลดลงเหลือ25คน ถ้าพูดตามหลักวิทยาศาสตร์ ก็ยืนยันว่าวันนี้พรรคเราอยู่ในช่วงวิกฤต เราต้องยอมรับความจริง สิ่งที่เราดำเนินการอยู่ คือ กล้าเปลี่ยนแปลง กล้าตัดสินใจ ในการนำประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง โดยมีหลักการและอุดมการณ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลง ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติมาก สิ่งที่จะทำให้เราเดินและต่อสู้ไปข้างหน้าได้คือความมีเอกภาพซึ่งเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ของพรรค และไม่ว่าพรรคจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ ตนไม่มีวันทิ้งพรรค จะยืนอยู่กับพวกเราทุกคน โดยยึดมั่นใจอุดมการณ์ หลักการประชาธิปไตยที่สุจริต
รักปชป.ไม่มีวันทำให้เสื่อมเสีย
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า สิ่งที่คณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ตัดสินใจร่วมรัฐบาลนั้นอยู่บนพื้นฐานประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชนและพรรคประชาธิปัตย์เป็นหลัก ตนซึ่งเข้าไปเป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะไม่ยอมให้มีการทุจริตคอรัปชั่น ทำให้ประชาธิปัตย์เสื่อมหรือแปดเปื้อน การที่พรรคมาเป็นรัฐบาล 7 เดือนกว่า ก็เป็นไปตามข้อบังคับของพรรคทุกประการ ไม่ใช่นายเฉลิมชัย หรือใครคนใดคนหนึ่งบอกว่าจะเป็นรัฐบาล แล้วจะเป็นได้ ความเห็นต่างมีได้ แต่ไม่ใช่ทำความเสียหายให้กับองค์กร แต่ประชาธิปไตยคือความรู้หน้าที่ตัวเองและเคารพสิทธิผู้อื่น เมื่อเราตัดสินใจมาเป็นรัฐบาลแล้ว
พร้อมยืนยันว่าหลักการของเราไม่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการซื่อสัตย์สุจริต เพราะเป้าหมายเราอย่างเดียว คือ ทำงานให้เต็มที่ รักษาชื่อเสียงของพรรค และพาพรรคกลับมาในเส้นทางการเมืองให้ได้ นี่คือเป้าหมายที่เราต้องการ ทั้งนี้ การไม่การตัดสินใจ ไม่มีอะไรถูก หรือผิด 100% จะคำตอบอยู่ที่การเลือกตั้งครั้งหน้า และคนที่ตัดสินใจให้เข้าร่วมรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบด้วยกัน จึงเรียกร้องให้ทุกคนมาช่วยกัน ย้ำว่าความเป็นเอกภาพดีที่สุด
ลั่นรักปชป.ไม่มีวันทำให้เสื่อมเสีย
“ผมและนายกชายเข้าไปเป็นรัฐมนตรี ท่ามกลางคำปรามาสว่าจะไปโกงที่ประเทศชาติ เข้าไปเพื่อหาเงิน หาทอง หาทรัพย์สิน หาประโยชน์ เพื่ออะไรก็แล้วแต่ ผมขอยืนยันว่าผมมีสำนึกและยืนยันว่าจะไม่มีวันเกิดเหตุการณ์อย่างนี้เด็ดขาด ผมไม่บ้าจี้อย่างที่เขากล่าวหา ผมมีสติ ผมรักประชาธิปัตย์ไม่มีวันทำให้ประชาธิปัตย์เสื่อมเสีย ถ้ามีข่าวเรื่องพวกนี้ ผมก็อยู่ไม่ได้จะกลายเป็นคนเนรคุณทันที โดย 24ปีกับการที่ประชาธิปัตย์ให้ผมมีที่ยืนตรงนี้ เรียกว่าใช้หนีบุญคุณไม่หมด และไม่มีวันใช้หมด”นายเฉลิมชัย กล่าว
หัวหน้าพรรคปชป.กล่าวถึงการขับเคลื่อนพรรคว่า ตนยึดมั่นระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข ยึดมั่นหลักการและอุดมการณ์พรรคโดยเฉพาะความซื่อสัตย์สุจริต สิ่งที่อยากเห็นที่สุดคือ ประชาธิปไตยสุจริต จึงอยากให้ประชาชนมาร่วมสร้างด้วยกันโดยเพาะเขต8นครศรีธรรมราช มาร่วมกันสร้างประชาธิปไตยสุจริต ให้นครศรีธรรมราช เป็นจุดเริ่มต้นประชาธิปไตยสุจริตของไทย ตนคิด หวังและอยากให้เป็นอย่างนั้น แต่ทั้งหมดอยู่ที่ประชาชน ไม่ใช่อยู่ที่ตนพูดตรงนี้
“การเลือกซ่อมตั้งครั้งนี้เชื่อทุกคนทำเต็มที่และขอขอบคุณ อดีตหัวหน้าพรรคทุกคนที่ไปช่วยนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ และเห็นกับตาว่าเราทำประชาธิปไตยสุจริตจริงๆไม่ได้พูดอย่างเดีย”หัวหน้าพรรคปชป.ย้ำ
หนุนคนรุ่นใหม่-ปี70พร้อมส่งทุกจว.
นายเฉลิมชัยกล่าวอีกว่า การทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ จะเน้นการให้ความสำคัญกับสมาชิกพรรค และคนรุ่นใหม่ เปิดโอกาสให้เข้ามาร่วมกันทำงาน มีโอกาสเติบโตในเส้นทางการเมือง ตนจะเปิดพื้นที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ และเชิญชวนประชาชนที่อยากเข้าร่วมทำกิจกรรมกับพรรค เราก็มีพื้นที่ให้ทุกคน คนเก่าๆ ก็มีคุณค่าที่มาร่วมทำงานให้กับพรรคเช่นกัน และเชื่อว่าเราจะมีคนรุ่นใหม่มาร่วมทำงานมากขึ้น และในการเลือกตั้งปี2570 เราพร้อมและจะมีผู้สมัครทุกจังหวัด โดยจะทำงานไปตามยุทธศาสตร์ที่พรรคกำหนดไว้ คือ“ชนะการเลือกตั้ง”
ปชป.เคาะ‘ดร.เจนจิรา’นั่งโฆษกฯ
เวลา10.30น.พรรคประชาธิปัตย์จัดการประชุมใหญ่สามัญพรรค ประจำปี 2568 โดยมีวาระรับรองรายงานการดำเนินงานของพรรคในรอบปีปฏิทินที่ผ่านมา และรับรองงบการเงินประจำปี 2567 ตามมาตรา 43 และมาตรา 61 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองปี 2560 ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)กำหนด สำหรับวาระในการเลือกตั้งโฆษกพรรค ที่ประชุมใหญ่ได้เลือกให้น.ส. เจนจิรา รัตนเพียร ดำรงตำแหน่งโฆษกพรรคอย่างเป็นทางการ
ส่วนผลการเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วย 1.นายนริศ ขำนุรักษ์ 2.นายประมวล พงศ์ถาวราเดช 3.นายธารา ปิตุเตชะ 4.นายชวลิต รัตนสุทธิกุล 5.พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิตย์ 6.นายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด 7.นายประจวบ สิงคราช 8.นายจิตติ เชิดชู 9.นายวรเดช สุขขวัญ 10.นางขนิษฐา นิภาเกษม 11.นายกุลเดช พัวพัฒนกุล
ลั่นไม่ท้อตั้งเป้าพาปชป.คัมแบค
ทั้งนี้ นายเฉลิมชัยกล่าวปิดการประชุมว่าขอบคุณอดีตหัวหน้าพรรค กรรมการบริหาร สส. อดีต สส.และสาขา ตัวแทนพรรค ตลอดจนสมาชิกพรรคจากทั่วทั้งประเทศที่มาร่วมประชุมใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้
“ยืนยันว่าจะทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ คณะกรรมการบริหารพรรคทุกคนและสส.ทุกคนของเราจะทุ่มเทการทำงานอย่างเต็มที่เพื่อที่จะให้ประชาธิปัตย์กลับมาอีกครั้งหนึ่งให้ได้ แม้วันข้างหน้ามีระยะทางมีเวลาที่ต้องพิสูจน์กัน แต่ยืนยันว่าเราจะไม่ท้อและเป้าหมายที่สำคัญที่ชัดเจนที่สุด ประชาธิปัตย์ต้องกลับมา”นายเฉลิมชัย ย้ำทิ้งท้าย
’เสรีรวมไทย’เดินหน้าทำงานเพื่อชาติ
ที่โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร พรรคเสรีรวมไทย จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2568 โดยมีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นประธานการประชุม
โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินหน้าทำงานของพรรคเสรีรวมไทยว่ายังคงเดินหน้าทำงานต่อไปภายใต้หลักการตรงไป ตรงมา ไม่เล่นการเมือง ประเด็นปัญหาที่ต้องทำต่อไป ประชาชนก็เห็นอยู่แล้วว่าเกือบทุกพรรคในสภาฯเห็นประโยชน์ส่วนตน ไม่ทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ทะเลาะเบาะแว้งแย่งชิงตำแหน่ง ตนจึงต้องอยู่ทำงาน เพื่อประเทศชาติและสังคมอย่างแท้จริง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังยืนยันอีกว่าตนและพรรคเสรีรวมไทย จะยังทำงานต่อไป เพราะการทำงานจะทำให้คนไม่โง่ และอายุยืนยาว อยู่กับลูกหลานได้นานๆ ไม่ใช่ประเภทที่ว่า ปากเลี้ยงหลาน แต่ตัวไป ส.ท.ร.กับเขาทั้งหมด ไม่เคยเห็นภาพนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เลี้ยงหลานเลย
ไม่ควรปรับครม.แต่ควรยุบไปเลย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของรัฐบาลตอนนี้ดูเหมือนว่า มีปัญหารุมเร้าว่า โง่ ก็เลยมีปัญหารุมเร้า คิดไม่เป็น ทำไม่เป็น กว่าตนจะมายืนจุดนี้ ก็ใช้เวลา 55 ปี แล้วเด็กวานซืนที่ไม่เคยทำอะไรเลย อยู่ดีๆมาเป็นนายกฯ หรือแม้แต่รัฐมนตรีอื่นก็เด็กฝึกใหม่ทั้งนั้น และยังทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง วันนี้ประเทศชาติโทรมลงไปทุกวัน หนี้สินเพิ่ม ประชาชนจนขึ้น ส่วนถามกระแสข่าวการปรับครม.ที่จะเขี่ยพรรคภูมิใจไทยออก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า“อยากให้ยุบเลิกไปเลย บริหารโง่แบบนี้จะมีไปทำไม”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี