‘แดง-น้ำเงิน’รอวันแตกหัก! อัพเดทการเมืองไทย 2 เรื่องผลัก‘เพื่อไทย’เสี่ยงสูงปรี๊ด
28 เมษายน 2568 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ระบุว่า...
อัพเดทการเมืองไทย
1.ปัญหาความขัดแย้งหลักของการเมืองไทยยังคงอยู่ภายในพรรคร่วมรัฐบาล
คู่ขัดแย้งหลัก คือ แดงกับน้ำเงิน ที่กำลังรอวันแตกหัก ไม่ว่าจะมีใครมาพูดจา ปะแป้ง แต่งตัวให้ดูดีอย่างไร ในที่สุดก็จะหนีความจริงไปไม่พ้น ลักษณะของความขัดแย้งหลักนี้ จะทำให้น้ำเงินต้องออกไปเป็นฝ่ายค้าน ปัญหาว่าเมื่อใดเท่านั้น
ให้ตั้งข้อสังเกตว่า นายใหญ่และครูใหญ่ จะไม่มีวันยอมให้ลูกสาวลูกชายของตนเป็นบัตรพลีบูชายันต์อย่างแน่นอน
2.ผลการเลือกตั้งที่นครศรีธรรมราช พรรคกล้าธรรม ของผู้กองธรรมนัส ได้รับชัยชนะท่วมท้น สามารถฝ่าดงกระสุนสีน้ำเงิน ที่ครึ้มไปบนท้องฟ้าชนิดพลิกความคาดหมายของชาวนครศรีธรรมราช และคอการเมืองทั้งหลาย
ความแปรเปลี่ยนของผลการเลือกตั้งจากที่คาดหมายกันไว้เดิมว่าสีน้ำเงินจะชนะเด็ดขาด เกิดจากพี่น้องมุสลิมทั้งเขต 8 พากันเทเสียงทุกครอบครัว และทั้งครอบครัวให้แก่พรรคกล้าธรรม
เบื้องลึกก็คือ พลังของท่านผู้นำสูงสุดมุสลิมชีอะห์ไทยและอาเซียน คือ ท่านหุจลตุลเลาะห์อิสลาม ซัยยิดสุไลมานฮูซัยนี ที่ชี้ทางนำให้พี่น้องมสุลิมนครศรีธรรมราช เทคะแนนเสียงให้พรรคกล้าธรรม เพราะมีความเชื่อมั่นในผู้กองธรรมนัส นั่นเอง และยังมีแรงหนุนสำคัญ จาก 7 สมาคมท่องเที่ยวภาคใต้ ที่ประสานงานให้ทุกเครือข่าย เทคะแนนเสียงให้กล้าธรรมอีกด้วย
และชัยชนะครั้งนี้ จะทำให้พลังทางการเมืองของพรรคกล้าธรรมเพิ่มขึ้น และจะเป็นจุดชี้ขาดที่ทำให้ไพ่ฝาก ซึ่งแฝงตัวอยู่ในพรรคอื่นกล้าประกาศตัว ซึ่งเชื่อว่าจะมีอีกอย่างน้อย 5 คน จะมาจากพรรคไหนบ้างคอยดูกันเอาเอง
และยิ่งพรรคกล้าธรรมมีเสียงเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้พรรคเพื่อไทยตัดสินใจในการปรับคณะรัฐมนตรีง่ายขึ้นด้วย
3.พรรคพลังประชารัฐเนื้อหอม เพราะอยู่ในกระแสที่จะเข้าร่วมรัฐบาล หากว่ามีการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่
แต่ทันทีที่เกิดเหตุการณ์พลิกผัน ในวันประชุมใหญ่ประจำปีของพรรค และแถลงว่าจะไม่เข้าร่วมกับรัฐบาล ก็ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมไหวขึ้นภายในพรรคทันที กระทบต่อการรับคนรุ่นใหม่เข้าพรรค เพื่อเตรียมการเลือกตั้งครั้งหน้า และยังผวากันว่าจำนวน สส. ที่เหลืออยู่ยังจะอยู่กันครบต่อไปหรือไม่
ท่าทีครั้งนี้ของพรรคพลังประชารัฐ จึงทำให้ขาดทุนทางการเมืองอาจถึงขั้นพลาดตาเดียวแพ้ทั้งกระดาน
4.ในขณะที่พรรคเพื่อไทยกุมสภาพในรัฐบาลและการบริหารได้กระชับขึ้น แต่ความเสี่ยงทางการเมืองของพรรคก็พุ่งสูงปรี๊ด อย่างน้อย 2 เรื่องคือ
(1) การไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในวันที่ 30 เมษายน ตามคำร้องขอของนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ที่ขอให้ศาลออกหมายจับ และออกหมายขังนายทักษิณ ชินวัตร ตามโทษที่เหลืออยู่ ซึ่งไม่มีใครคาดหมายได้ว่า ผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร แต่ก็อดที่จะหวาดเสียวไม่ได้
(2) การร้อง ป.ป.ช. ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนคณะรัฐมนตรีพร้อมทั้งคณะกรรมาธิการงบประมาณที่เป็น สส. และสว. ออกจากตำแหน่งเกี่ยวกับกรณีแปรญัตติงบประมาณ ให้นำรายจ่ายประจำเอาไปใช้จ่ายอย่างอื่นซึ่งผิดรัฐธรรมนูญ และมีโทษที่จะต้องถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งหลักฐานมีพร้อมมูลแล้ว ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ จะใช้เวลาอย่างมากไม่เกิน 3 เดือนก็รู้หมู่จ่าแล้ว
5.ปัญหารุมเร้าจากการขึ้นภาษีจากตาตั้ม แม้ว่ายังพอยึดเวลาหายใจเพราะการเลื่อนการบังคับใช้ไป 90 วัน แต่ก็ไม่ช่วยอะไรมาก เพราะเกิดผลกระทบโดยทั่วไปแล้ว ขณะนี้ปัญหาเศรษฐกิจทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว รายได้ของประเทศและของภาคธุรกิจต่าง ๆ ทรุดตัวลง กระทบต่อการดำรงชีวิตโดยทั่วไปของประชาชนด้วย
ในขณะที่รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้แต่มองตากันปริบๆ และยังไม่มีการปรากฏตัวของผู้แก้ปัญหาให้ประชาชนชื่นใจเลยแม้แต่คนเดียว
ประเทศไทยยังต้องคงระวังเหตุการณ์ผีซ้ำด้ามพลอย ที่เกิดจากทั้งผู้ไม่ประสงค์ดี และจากผู้โง่เขลาเบาปัญหาที่หวังเอาใจตาตั้ม แต่สร้างปัญหากระทบกระทั่ง หรือความขัดแย้งให้เกิดขึ้นระหว่างไทย - จีน ซึ่งเท่ากับรื้อฐานทางเศรษฐกิจของบ้านหลังใหญ่คือประเทศไทยของเรา ในขณะที่ปัญหาความไม่สงบ และความมั่นคงตามแนวชายแดนต่าง ๆ ก็กำลังคุกรุ่นมากขึ้น โดยผู้ที่รับผิดชอบไม่ได้แสดงความมั่นใจให้เห็นได้ว่า จะสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาได้เลย ประเทศไทย และคนไทยช่างน่าอนาถเสียนี่กระไร
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี