รอสหรัฐคอนเฟิร์ม
กรอบเวลานัดเจรจา‘กำแพงภาษี’
‘อิ๊งค์’โยน‘พิชัย’แจงรายละเอียด
นายกฯ“อิ๊งค์”เผย รอสหรัฐคอนเฟิร์ม กรอบเวลาเจรจา“กำแพงภาษี”ระบุ“พิชัย”ขุนคลังเป็นผู้ให้รายละเอียดเรื่องคืบหน้าในการหารือ เพื่อให้ภาพรวม ตรงกันทั้งสื่อในประเทศและต่างประเทศ ด้าน“พิชัย”รมว.พาณิชย์ ย้ำยังไม่สรุปเงื่อนไข คุยภาษีทรัมป์ ขณะที่ “เทพไท”สะกิด“ทักษิณ”เช็ควีซ่าก่อนจะไปเจรจากับทรัมป์ เตือนระวังหน้าแตก
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.สกลนคร และ จ.นครพนม ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) อาการป่วยเป็นอย่างไรบ้าง พร้อมลุยลงพื้นที่แล้วใช่หรือไม่ ว่า พร้อมลุยหายดีร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการเจรจากับสหรัฐอเมริกาเรื่องมาตรการกำแพงภาษี นายกฯ กล่าวว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ก็อัพเดตเรื่อยๆ แต่รายละเอียดให้รอจากนายพิชัย เพื่อให้ภาพรวมตรงกันทั้งสื่อในประเทศและสื่อต่างประเทศที่นำเนื้อหาไปแปล
เมื่อถามถึงความคืบหน้าเรื่องกรอบเวลาได้มีการพูดคุยกันแล้วหรือยัง ว่าจะเดินทางไปเจรจาสหรัฐอเมริกาเมื่อไร นายกฯ กล่าวว่า รออยู่ เมื่อถามย้ำว่า ต้องรอให้ทางสหรัฐอเมริกาคอนเฟิร์มกลับมาใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ใช่ค่ะ ต้องรอคอนเฟิร์ม ส่วนระยะเวลายังไม่แน่ใจ”
ที่โรงแรมเฮอริเทจ นครพนม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงแนวทางการเจรจาแก้กำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกาว่า ขณะนี้ ยังไม่ได้มีข้อสรุปว่าจะมีการเจรจาเรื่องอะไร อยู่ที่สหรัฐว่าเขาเห็นว่าเรื่องอะไรสำคัญบ้าง ขอร้องให้สรุป ถ้าพูดไปก่อนจะทำให้เกิดปัญหา ยืนยันว่าไม่ได้รอให้สหรัฐเป็นผู้เสนอเงื่อนไขไทยเองก็ต้องเสนอด้วยจะต้องเห็นตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย เหมือนกับการเจรจาเขตการค้าเสรี หรือ FTA ที่จะหารือกันว่าเขาอยากได้อะไรแล้วมาต่อรองกัน
ส่วนแนวทางการเจรจาของประเทศไทยจะรอให้ประเทศต่างๆ เจรจาให้นิ่งก่อน แล้วค่อยเข้าไปเจรจาใช่หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ต้องทำไปพร้อมกัน ในช่วงนี้เป็นการให้ข้อมูลกับภาคเอกชนของสหรัฐ เช่น ก่อนหน้านี้เคยมีการพูดคุยกับบริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) รวมถึงพูดคุยกับซีอีโอของบริษัทใหญ่ใหญ่หลายแห่งว่าเขาอยากได้อะไร ขณะที่สหรัฐยังก็ไม่มีข้อสรุป รวมถึงตัวแทนฝั่งไทยที่ไปพบสหรัฐมาก็ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ยืนยันว่ามีการเจอกันแล้วในระดับเจ้าหน้าที่ แต่ยังไม่มีมีการเสนอเงื่อนไข
ทั้งนี้ นายพิชัย เปิดเผยว่ามีข่าวดี จากภาคเอกชนของสหรัฐว่าไทยไม่อยู่ 1 ใน 10 ที่สหรัฐจะขึ้นกำแพงภาษี เพราะ 10 ประเทศนี้จะลำบากส่วนประเทศไทยน่าจะอยู่ในลำดับที่ 11- 12 ซึ่งภาคเอกชนของสหรัฐ เขาเชื่อว่าเจรจา 1-2 ครั้งก็จบแล้ว แต่นี่เป็นข้อมูลที่ภาคเอกชนแจ้งมากับตน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สหรัฐเผยความคืบหน้าในการเจรจาเรื่องกับ 6 ประเทศเอเชีย แต่ไม่มีไทยนั้น นายพิชัยกล่าวว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ถึงเวลามีก็มีไม่เป็นไร แต่เชื่อว่าอย่างไรต้องมีชื่อประเทศไทยแน่นอน
ขณะที่ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิป พร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” เรื่อง “ตอบข้อสงสัย ทักษิณ เจรจาภาษีทรัมป์” ระบุว่า... ผมเห็นข่าวที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน เคยเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาเปิดเผยข้อมูลการเจรจาเรื่องกำแพงภาษีกับอเมริกาอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงแนวทางแก้ไขว่าเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจากรัฐบาล
กลับมาได้คำตอบจากนายทักษิณ ที่ได้เปิดเผยถึงเรื่องบนโต๊ะเจรจาว่า ได้เอาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง และเรื่องที่มีการจับกุม นายพอล แชมเบอร์ส คดีมาตรา 112 เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และได้ตั้งคำถามว่า นายทักษิณ ไม่ได้มีตำแหน่งอะไรเลยในรัฐบาลนี้ ไม่ได้เป็นที่ปรึกษา หรืออยู่ในคณะเจรจาด้วย ดังนั้นคำพูดของนายทักษิณ ไม่แน่ใจว่าจะเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน และจะนำไปสู่การแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร
ผมอยากจะตอบข้อสงสัยของ น.ส.ศิริกัญญา ว่า อย่าไปคาดหวังคำตอบจากรัฐบาลเลย เพราะรัฐบาลชุดนี้อยู่ภายใต้กำกับของนายทักษิณ คอยฟังคำสั่งจากนายทักษิณแต่เพียงผู้เดียว เมื่อนายทักษิณพูดอะไรออกไป นั่นหมายถึงทิศทางของรัฐบาล และถ้าหากนายทักษิณจะเดินทางไปเจรจาเรื่องกำแพงภาษี กับโดนัล ทรัมป์จริง ก็สามารถทำได้ จะมีน้ำหนักมากกว่าทีมไทยแลนด์ที่รัฐบาลตั้งขึ้นเป็นตัวแทนในการเจรจาเสียอีก
ถ้าหากนายทักษิณจะขออนุญาตศาลเพื่อเดินทางออกนอกประเทศ ก็เชื่อว่าน่าจะได้รับอนุญาต เพราะศาลเคยอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางไปต่างประเทศมาแล้ว 2 ครั้ง
ปัญหาอยู่ที่นายทักษิณจะเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาได้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ นายมาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประกาศขึ้นแบล็คลิสต์ งดวีซ่าเข้าประเทศกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวอุยกูร์กลับประเทศจีน ทั้งตัวผู้บริหารและบุคคลในครอบครัว
ถึงแม้ว่าสหรัฐอเมริกาไม่ได้เปิดเผยรายชื่ออย่างเป็นทางการ แต่จากการวิเคราะห์ของ Human Rights Watch บุคคลที่อาจเข้าข่าย ได้แก่ นายกรัฐมนตรี (น.ส.แพทองธาร ชินวัตร) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (นายภูมิธรรม เวชยชัย) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ (นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง) เลขาธิการ สมช. (นายฉัตรชัย บางชวด) และเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มีบทบาทในการอนุมัติ ฯลฯ
ถ้าหากนายทักษิณคิดจะเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเจรจาเรื่องกำแพงภาษีจริง ก็ขอให้ตรวจสอบวีซ่าเข้าประเทศเสียก่อน กลัวจะหน้าแตกกลับมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี