‘เชาว์’ชี้‘ทักษิณ’มีสิทธิ์กลับคุก คาด‘ศาลฎีกาฯ’รับไต่สวนคำร้อง‘ชาญชัย’แม้ไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่ความปรากฏต่อศาลฯแล้ว รอลุ้น 30 เม.ย.
29 เมษายน 2568 นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook เรื่อง “ลุ้นความยุติธรรมจากศาลฎีกาฯ ส่ง “ทักษิณ” กลับ “คุก” มีเนื้อหาระบุว่า...
ตามที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ วันที่ 30 เม.ย.นี้ เวลา 13.00 น. เพื่อฟังคำสั่งตามคำร้องที่นายชาญชัยได้ยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568 เพื่อขอให้ไต่สวนกรณีที่กรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องคำพิพากษาจำคุก 8 ปีในคดีทุจริต ก่อนได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษเหลือ 1 ปี ได้ออกจากเรือนจำไปเข้ารับการรักษาตัวที่ห้องวีไอพี ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 22 สิงหาคม 2566 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล
ซึ่งนายชาญชัยเห็นว่าการกระทำดังกล่าวอาจขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 89, 89/2(1) (2) และมาตรา 246 และไม่อาจอ้างกฎกระทรวงเรื่องการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 ลงวันที่ 25 ก.ย.2563 ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 55 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 เพราะขัดต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ก่อนหน้านี้นายชาญชัย เคยยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2566 และเมื่อวันที่ 15 ก.พ.2567 ศาลมีคำสั่งยกคำร้องทั้งสองเรื่องโดยไม่ต้องไต่สวน โดยให้เหตุผลว่าเมื่อศาลออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สิ้นสุดไปแล้ว การบังคับโทษและอนุญาตให้ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ปัญหาว่าเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ปฏิบัติชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงไม่ต้องไต่สวน
นายชาญชัยจึงยื่นคำร้องอีกเพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งเดิม และขอให้รับคำร้องไว้ไต่สวนและมีคำสั่งบังคับโทษจำคุกให้เป็นไปตามคำพิพากษาที่ถึงที่สุด และศาลนัดฟังคำสั่งวันที่ 30 เม.ย.นี้
สำหรับกรณี การป่วยทิพย์และติดคุกทิพย์ของนายทักษิณตนเคยเรียกร้องไปที่ป.ป.ช. และอัยการสูงสุด ในฐานะที่เป็นโจทก์ฟ้องคดีนายทักษิณถือเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมือง ว่านายทักษิณไม่ได้ ต้องคำพิพากษาจำคุกตามคำพิพากษาของศาลจริง แต่ ป.ป.ช. และอัยการสูงสุด นิ่งเฉยไม่กล้าใช้สิทธิ ที่พึงกระทำ ทำให้ประชาชนต้องออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องกันเอง
หากมองกรณีคำร้องของนายชาญชัย เป็นไปได้สูงที่ ศาลจะสั่งว่านายชาญชัยไม่ใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจยื่นคำร้องต่อศาล แต่เมื่อความปรากฏต่อศาลเช่นนี้ ประกอบกับกรณี ปัญหาการ รับโทษจำคุก ตามคำพิพากษาของนายทักษิณเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในสังคมกระทบกระเทือนต่อความยุติธรรม ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองสามารถใช้อำนาจของศาล รับคำร้องไว้ ไต่สวนได้
ว่าแต่ว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองจะใช้อำนาจที่ตนเองมีอยู่หรือไม่ ถ้าศาลใช้อำนาจรับ กรณีนี้ ไว้ไต่สวน นายทักษิณ คงหนีความจริงไม่พ้น ต้องกลับเข้าไปติดคุก ในเรือนจำ ได้เรียนรู้เสียทีว่าความยุติธรรมมีอยู่จริง คนพยายามยุติความเป็นธรรมเพื่อตัวเองอาจทำได้แค่ชั่วคราว สุดท้ายมีราคาที่ต้องจ่ายตามพฤติกรรมของตัวเอง
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี