‘เมฆินทร์’ ชี้การเลือกตั้งซ่อมนครศรีฯ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการผลักดัน ‘การเมืองแบบสุจริต’ ยกเป็นจุดยืนเพื่อให้ประชาชนพิจารณาในการเลือกตั้งอีก 2 ปีข้างหน้า - ย้ำคนที่จะลงสมัคร สส. พรรค ปชป. ต้องลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ จะหวังพึ่งแค่กระแสพรรคเพียงอย่างเดียวไม่ได้
นายเมฆินทร์ เอี่ยมสอาด กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงผลการเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 ว่า เป็นการตอกย้ำถึงความล้มเหลวของพรรคฯ อย่างต่อเนื่องว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณประชาชนชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชในเขตเลือกตั้งเขต 8 ทั้ง 4 อำเภอ คือ อ.นาบอน อ.พิปูน อ.ฉวาง อ.ช้างกลาง ที่ได้ออกไปใช้สิทธิ์จำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยของคนในพื้นที่ที่มีในระดับสูง ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้คะแนนมาอย่างไม่เป็นที่คาดหวัง แต่ก็ได้แสดงให้เห็นถึงแนวทางการเมืองที่พรรคประชาธิปัตย์ ที่จะใช้ในการขับเคลื่อนเพื่อนำเสนอให้ประชาชนพิจารณาต่อไป นั่นก็คือ การเมืองแบบสุจริต เพราะนับตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ การทำงานการเมืองยังคงติดปัญหาในเรื่องของธนกิจการเมือง ที่มีข้อต่อรองตั้งแต่ในระดับเข้าสู่วงการการเมือง จนไปถึงการต่อรองตำแหน่งต่างๆ ทั้งจำนวนเงินและจำนวน สส. ในมุ้งในก๊วน ทำให้ที่ผ่านมาประชาชนรู้สึกผิดหวังเพราะได้นักการเมืองที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งที่ได้รับ และเกิดวงจรการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างมหาศาล ทำให้เงินงบประมาณแผ่นดินที่ควรจะสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนอีกมากมายต้องหล่นหายไปกับกระบวนการที่ไม่สุจริต เพราะฉะนั้น การที่พรรคประชาธิปัตย์ชูธงนำในเรื่องการเมืองแบบสุจริตโดยเริ่มจากการเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ ถึงแม้ว่า ผลลัพธ์จะไม่ใช่เป็นการได้รับชัยชนะ และยังมีนักวิจารณ์การเมืองหลายคนมองว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังอยู่ในสภาพล้มเหลวต่อเนื่อง แต่การเริ่มต้นที่จะประกาศชูธงนำแบบนี้ ก็ถือว่า เป็นจุดยืนที่จะให้ประชาชนพิจารณาในการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่จะมาถึงในอีกราว 2 ปีข้างหน้า
นายเมฆินทร์ กล่าวต่อว่า ส่วนการที่ตนได้รับเกียรติให้เป็นคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ร่วมกับเพื่อนสมาชิกฯ อีก 10 คนนั้น ก็ต้องขอขอบคุณสมาชิกพรรคฯ ในที่ประชุมใหญ่ ที่รับรองให้ตนเป็น 1 ในกรรมการสรรหาฯ ซึ่งการทำงานของตนร่วมกับเพื่อนสมาชิกในคณะกรรมการสรรหาฯ นั้น นอกจากจะคัดเลือกผู้ที่ประสงค์จะลงสมัคร สส. ในนามพรรคอย่างเข้มข้น ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังต้องยึดถือแนวทางการบริหารพรรคฯ ในยุคปัจจุบัน คือ การเน้นลงพื้นที่กับประชาชนอย่างสม่ำเสมอ และต้องยึดโยงกับประชาชนในพื้นที่ เพราะการที่หวังพึ่งกระแสแต่เพียงอย่างเดียว ถึงแม้จะทำให้ได้เข้าไปเป็น สส. ก็จริงส่วนหนี่ง แต่ถ้าหวังพึ่งแต่กระแสแต่ไม่เหลียวแลประชาชนคนที่มอบคะแนนให้ ก็จะมีความสุ่มเสี่ยงที่จะสอบตกในการเลือกตั้ง แต่ถ้าลงพื้นที่ให้ประชาชนเห็นหน้าสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยที่สุดประชาชนที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง ก็ต้องมีการคิดวิเคราะห์กันระหว่างคนที่ลงพื้นที่กับกระแสภายนอก ซึ่งตนเชื่อว่า หากผู้ที่ประสงค์สมัครรับเลือกตั้งกับพรรคประชาธิปัตย์ เริ่มลงพื้นที่ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงช่วงการหาเลือกตั้ง เชื่อว่า อย่างน้อยๆ ประชาชนก็จะเก็บเอาไว้พิจารณาลงคะแนนในวันเลือกตั้ง และหากยึดมั่นในแนวทางการเมืองแบบสุจริตที่พรรคประชาธิปัตย์นำเสนอแล้ว เชื่อว่าจะทำให้พรรคฯ กลับมามี สส.จำนวนมากพอที่จะผลักดันนโยบายต่างๆ ตามแนวทางการเมืองแบบสุจริตเพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนได้รับประโยชน์ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี