เรื่องการซื้อขายตำแหน่งตำรวจในภาค 8 ที่อดีตส.ส.วิทยา แก้วภราดัย นำหลักฐานมาเปิดเผยและส่งเรื่องให้กับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่นั่งยันยืนยันมาตลอดว่าไม่มีการซื้อขายตำแหน่งจนเมื่อ 26 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา จเรตำรวจส่งผลการสอบข้อเท็จจริงรายงานไปแล้วว่ามีการซื้อขายตำแหน่งจริง
ข้าพเจ้าแปลกใจมาก เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 เห็นนักข่าวไปสัมภาษณ์ ผบ.ตร.ท่านบอกว่ายังไม่ทราบเรื่อง โธ่...ที่จริงท่านควรต้องดำเนินการให้เด็ดขาดว่า เงินที่เขาซื้อขายกันเท่าไร ใครรับไปและตำแหน่งไหน ใครซื้อและดำรงตำแหน่งไปหรือยังจะแก้ไขหรือจะดำเนินคดีอย่างไรต่อไป ไม่อายชาวบ้านเขาหรือเวลาให้สัมภาษณ์ ท่านคงคิดว่าประชาชนเขาไม่รู้ ไม่ทราบเดี๋ยวก็ลืมไปเอง
วันนี้ วันที่ 20 ตุลาคม 2560 แล้ว จนจเรตำรวจที่เป็นหัวหน้าชุดสอบสวนเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง เกษียณอายุราชการไปแล้ว ส่วนนายพลตำรวจโทที่ถูกร้องเรียนพร้อมระดับนายพันตำรวจอีกสองนาย จะมีใครเกษียณไปอีกบ้าง เรื่องซื้อขายตำแห่ง ยังไม่กระจ่างกับสังคม ต้องขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ท่านวิทยา แก้วภราดัย อดีต สส.ที่ออกมาปูดข่าวเรื่องนี้ และผลการสอบสวนกระจ่างเสร็จสิ้น แต่ยังถูกคนมีอำนาจปกปิดไว้ แทนที่จะทำการแก้ไข เพราะคำสั่งและระบบที่กำหนดให้การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ใช้หลักอาวุโสร้อยละ 33 ความเหมาะสมร้อยละ 67 ที่เปิดช่องให้ทุจริตกันครั้งมโหฬารของวงการตำรวจ
เมื่อได้ดูการโต้แย้งในคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจท่านบอกว่า การให้เป็นตำรวจท้องถิ่น ตำรวจตามโรงพักแบบนั้น จะทำให้กองบัญชาการตำรวจแห่งชาติสนธิกำลังพลเพื่อใช้ในงานใหญ่ๆ ไม่ได้
คงไปจำใครเขามาพูด เหตุใดถึงจะทำไม่ได้และหากเหลือบ่ากว่าแรง ก็ขอกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 1 ก็ยังได้ มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ปัญหาสำคัญกับการปฏิรูปตำรวจ ท่านกำลังอยู่ในตำแหน่งผบ.ตร.แบบทำให้ตำรวจลำบากไร้ศักดิ์ศรี ขาดศรัทธาในตัวท่าน แล้วท่านยังหวง ห่วงอำนาจตนเองจนลืมว่า อยู่ในตำแหน่ง ผบ.ตร.แบบไร้ศักดิ์ศรีสิ้นไร้ไม้ตอก
ท่านไม่สนใจหรือว่า ในภายหน้าตำรวจและประชาชน เขาจะกล่าวขานนามท่านอย่างไร
ท่านปล่อยให้เขาเอาอัตรากำลังจากนายสิบตำรวจ30 อัตรา มาเปลี่ยนเป็นอัตรานายพลตำรวจตรีจนถึงพลตำรวจเอก โดยให้ถือว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ท่านหันไปมองสิว่า ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนายพลตำรวจเอก 9 นาย เป็นรองผบ.ตร.และยังมีที่ปรึกษา สบ10 แล้วยังมีจเรตำรวจ นายพลผู้ทรงคุณวุฒิอีกมากมาย
ขอถามว่ามาทำหน้าที่อะไรกันหนักหนา เงินเดือนและอัตรากำลังระหว่างนายสิบ 30 คนกับนายพล 30 คน ชาติเสียเงินเดือนค่าตอบแทนไปอีกกี่เท่า ทำกันได้อย่างไร ไม่ละอายใจกันหรือ
อย่าอยู่ต่อไปเลยครับ ลาออกเสียเถิด เพราะยุคของท่านได้สร้างความเสียหายในวงการตำรวจมากมาย จนไม่เหลืออะไรแล้ว
พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี