จากเหตุการณ์ที่คณะกรรมการปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) พบว่าอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง มีส่วนยืมเงิน 300 ล้านบาท จากเสี่ยกำพล วิรัตน์เทพสุนทร ผู้ต้องหาค้ามนุษย์ อาบอบนวดวิคตอเรียฯ ที่หลบหนีการจับกุมอยู่ขณะนี้ เมื่อพัวพันขนาดนี้ คำให้สัมภาษณ์ของท่านที่ออกสื่อมันบาดใจตำรวจอาชีพที่รักศักดิ์ศรีจริงๆ ท่านบอกว่า “เกือบจะพูดได้ว่า อาชีพตำรวจของผมเป็น side line (ไซด์ไลน์) รายได้หลักอาชีพจริงคือการเล่นหุ้นเงินที่ยืมมานั้น เอามาเล่นหุ้น แล้วก็คืนไปหมดแล้ว”
ในสมัยที่ คสช.เข้ายึดอำนาจ พลตำรวจเอกวัชรพล ประสานราชกิจ ขึ้นเป็นรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เสนอให้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ แต่งตั้ง พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต่อมาพอพลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เกษียณก็แต่งตั้งคนที่อาวุโสอันดับ 5 แซงคิวขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการตำรวจอีก ตัวคนแต่งตั้งก็ชอบ ขอยืมนาฬิกาเขาใส่ ถ้าพวกคุณไม่มีตำแหน่งมีหน้าที่ให้คุณให้โทษ อยากรู้นักว่าใครจะให้พวกคุณยืมเงิน ยืมนาฬิกา...ปัดโธ่...มันพอกันจริงๆ
ที่พูดมานี้ด้วยความที่มีสายเลือดตำรวจ ข้าพเจ้าเห็นว่าตำรวจอาชีพต้องรักศักดิ์ศรี และต้องมีจรรยาบรรณ มาตรฐานจริยธรรมที่สูงกว่าคนปกติ และต้องสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ตกเป็นเบี้ยล่างคนมีอำนาจ มีเงินในบ้านเมืองได้เหมือนอาชีพผู้พิพากษา
คำพูดว่า “ถ้าใครทำผิดกฎหมาย ใหญ่แค่ไหนก็จะจับรวยแค่ไหนก็ไม่ให้ลอยนวล” มันไม่ได้เกิดขึ้นจริง ในยุคคสช.กับการปฏิรูปตำรวจ ที่สำคัญ “ส่วย” และการซื้อขายตำแหน่งในวงการตำรวจยังมีอยู่จริง เมื่อปีที่แล้วข่าวคราวใหญ่โตกับการซื้อขายตำแหน่งตำรวจในกองบัญชาการตำรวจ ภาค 8เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2560 พลตำรวจเอกปัญญา มาเม่นผู้บัญชาการจเรตำรวจแห่งชาติ ได้สรุปผลการสอบสวนและรายงานว่า มีนายพล 1 คน นายพัน 2 คน ร่วมกันกระทำความผิดมีการซื้อขายตำแหน่งจริง จึงอยากถามว่าจนป่านนี้พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆให้เสร็จสิ้นเสียที รออะไรกันอยู่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลตำรวจ ท่านทำอะไรอยู่ จะลงแส้ลงดาบได้หรือยัง หยุดโวยวายกันเสียทีว่าไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง มันน่าอายมากในยุคท่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ
พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง คนที่ไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่โปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งสำคัญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แทนที่จะทำงานสนองพระเดชพระคุณ เพื่อชาติประชาชน กลับประกาศออกมาหน้าตาเฉยว่างานที่ได้รับโปรดเกล้าฯนั้นทำแบบ side line อยากเรียกร้องให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีตั้งกรรมการสอบสวน แล้วดำเนินการถอดยศ งดบำเหน็จบำนาญ และสมควรตั้งข้อหา ดูหมิ่นเบื้องสูงหรือไม่ เมื่อได้รับแต่งตั้งแล้ว ประกาศว่า เป็นเพียง side line ถ้าแปลเป็นภาษาไทย หมายถึง หาลำไพ่พิเศษ โดยใช้ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ได้รับโปรดเกล้าฯ
ฝากถึงท่านนายกรัฐมนตรีด้วยว่า ไม่ควรปล่อยให้ข้าราชการหรือข้าราชการบำนาญมาพูดแบบนี้ มันจะเป็นตัวอย่างให้แก่ข้าราชการอื่นๆ เอาเป็นแบบอย่าง พูดแล้วไม่เห็นมีอะไร สังคมราชการไทยจะเป็นอย่างไร ยังต้องดูถึงตำรวจรุ่นต่อไปในอนาคตอีก
ขอให้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลงาน สตช. เร่งปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆและสร้างจิตสำนึกให้แก่นายตำรวจตั้งแต่ผู้บัญชาการภาคจนถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เคร่งครัด เพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ให้ปลอดจากแหล่งเพาะอาชญากรรมทั้งหลายแหล่ด้วยครับ
พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี