พรรคเพื่อแม้วเริ่มออกอาการระส่ำทั้งจากกฎเหล็กคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และกติกาการเลือกตั้งใหม่ แต่ที่กำลังสร้างความหวาดผวาแก่พรรคเพื่อแม้วก็คือเกรงจะถูกร้องให้ยุบพรรคเนื่องจากถูกตั้งข้อสังเกตว่ายังถูกบงการครอบงำไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมโดยนายทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่นักโทษหนีคุกซึ่งขัดต่อพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง

ทั้งนี้ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สองอดีตนายกฯนักโทษหนีคุกพี่น้องตระกูลชิน เดินสายบินมาป้วนเปี้ยนในประเทศใกล้ประเทศไทยถี่ผิดปกติ รวมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองส่อเจตนาบ่อนทำลายคสช. รวมทั้งปลุกขวัญสาวกพรรคเพื่อแม้วอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดคือการไปร่วมการเปิดตัวหนังสือของอดีตรมว.มหาดไทยญี่ปุ่น ที่กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา โดย นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์สื่อญี่ปุ่นในลักษณะปลุกขวัญพลพรรคเพื่อแม้ว ดิสเครดิต คสช. และชี้นำทางการเมืองด้วยการฟันธงว่า การเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าพรรคเพื่อแม้วจะชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย

ก่อนหน้านี้คสช.เคยส่งสัญญาณเตือนว่า การเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจเข้าข่ายที่จะถูกร้องให้ยุบพรรคเพื่อแม้ว ทำให้ล่าสุดแกนนำพรรคเพื่อแม้วต้องออกมาประกาศว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จะไม่มีการอวยพรหรือรดน้ำดำหัวจาก นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดังเช่นที่ปฏิบัติกันมาทุกปี

นายวัฒนา เมืองสุข หนึ่งในแกนนำพรรคเพื่อแม้ว กล่าวว่า ในวันที่ 4 เม.ย.นี้ พรรคเพื่อแม้วจะจัดพิธีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในพรรคเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งปกติทุกปี นายทักษิณ จะสไกป์มาอวยพรและให้สมาชิกพรรครดน้ำดำหัว แต่ปีนี้คงไม่มีเพราะสุ่มเสี่ยงถูกร้องให้ยุบพรรค

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อแม้ว รีบกล่าวดักทางป้องกันพรรคเพื่อแม้วถูกยุบว่า นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เคยประกาศชัดเจนว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อแม้วโดยตรง ถึงแม้ทั้งสองจะเป็นบุคคลสำคัญของประเทศ แต่การออกมาให้ความเห็นถือเป็นทัศนคติส่วนตัว

อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่าในแง่กฎหมายพฤติการณ์บงการครอบงำพรรคเพื่อแม้วและเคลื่อนไหวบ่อนทำลายคสช.ของ นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตลอดช่วงที่ผ่านมา อาจถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว

นอกจากปัญหาผวาถูกยุบพรรค พรรคเพื่อแม้วยังระส่ำจากศึกชิงอำนาจจนนำไปสู่ความแตกแยกภายในพรรคโดยเฉพาะการสกัด คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือ “คุณหญิงหน่อย” ขึ้นเป็นหัวหน้พรรคเพื่อแม้วโดยมีข่าวว่าพี่น้องตระกูลชินนำโดย นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือ “เจ๊แดง” นำทีมต้าน “คุณหญิงหน่อย” สุดตัว รวมทั้งปัญหาอดีตสส.หลายคนหลายกลุ่มมีสัญญาณเตรียมผละจากพรรคเพื่อแม้วไปสังกัดพรรคใหม่

ยังไม่รวมปัญหาที่แกนนำและอดีตสส.พรรคเพื่อแม้ว จำนวนมาก อาจตายหมู่ทางการเมืองจากคดีต่างๆที่เป็นชนักปักหลังที่รอการชี้ชะตา

ขณะที่ นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นับวันจะกลายเป็นสัมภเวสีที่เร่ร่อนเดินสายเคลื่อนไหวในประเทศต่างๆได้ยากลำบากมากขึ้นเพราะหลายประเทศเริ่มอึดอัดต่อบทบาทและสถานะของบุคคลทั้งสองที่เป็นนักโทษหนีโทษจำคุกที่ถูกออกหมายจับและทางการไทยต้องการตัว

สำนักข่าวเกียวโดอันมีชื่อเสียงของญี่ปุ่นถึงกับเรียก นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างไม่ให้ราคาในการเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งล่าสุดด้วยคำว่า“ผู้หลบหนีคดี”

นอกจากนี้จากการเปิดเผยของ นายดอนปรปัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ระบุว่า อย่างน้อย 2 ประเทศแสดงท่าทีอึดอัดใจในการเข้าประเทศของ นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือญี่ปุ่น และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ นายทักษิณ ไปพำนักมาเป็นเวลานาน ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศของสองประเทศดังกล่าวยืนยันว่า สองพี่น้องตระกูลชินไม่ได้เข้าประเทศจากการเชื้อเชิญหรืออนุญาตจากรัฐบาล แต่เข้ามาด้วยเส้นสายทางการเมืองของผู้มีอำนาจบางคนเท่านั้น

ท่าทีของหลายประเทศที่อึดอัดต่อสองอดีตนายกฯนักโทษหนีคุก พี่น้องตระกูลชินที่อาศัยประเทศต่างๆ เคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นนักโทษหนีหมายจับทำให้ช่วงหลังบางประเทศแม้จะยอมให้สองพี่น้องตระกูลชินเข้าประเทศ แต่ก็มีเงื่อนไขห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองเด็ดขาดหรือกำหนดเวลาในการอยู่ ทำให้แนวโน้มนับวันที่ยืนของสองอดีตนายกฯพี่น้องตระกูลชินในเวทีโลกจะแคบลงเรื่อยๆ เพราะนานาประเทศเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่า ทั้งสองไม่ใช่ผู้หลบหนีคดีทางการเมืองจากการถูกกลั่นแกล้ง แต่เป็นนักโทษหนีคุกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบจนสร้างความเสียหายแก่ประเทศอย่างร้ายแรง

ชะตากรรมของคนตระกูลชินยังไม่นับชะตากรรมของ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโต ของนายทักษิณ ที่กำลังถูกกรรมตามเช็คบิลในข้อหาฟอกเงินคดีทุจริตธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ซึ่ง นายทักษิณ เป็นจำเลยที่ 1

เพราะฉะนั้นทั้งพรรคเพื่อแม้วและตระกูลชินจึงต่างอยู่ในภาวะระส่ำที่พยายามสู้แบบเลือดเข้าตาโดยหวังที่จะกลับมามีอำนาจยึดครองประเทศอีกครั้ง

ทีมข่าวการเมือง