พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ก่อรัฐประหารล้มรัฐบาลระบอบทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เพื่อแก้ไขปัญหาการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่เกิดความหยุดชะงักรัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แก้ไขปัญหาบ้านเมืองไม่ได้หลังจากนั้นพลเอกประยุทธ์ได้เข้ามาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีบริหารประเทศในวันที่ 30 สิงหาคม 2557 เวลาผ่านไปถึงปีที่ 5 ฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศไทยดีกว่าสิ้นปี 2557 มากมายหลายเท่าตัว
แต่กลุ่มคนที่เป็นพวกที่สูญเสียอำนาจไปเพราะคณะทหารได้ออกมาโวยวายอย่างหนักแต่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้วฐานะของเศรษฐกิจของประเทศไทยในปีปัจจุบันคือปี 2561 ดีกว่าสมัยยิ่งลักษณ์มากนักดังตัวเลขที่จะยกมาให้ดังนี้คือสิ้นปี 2557 ซึ่งเป็นปีที่นักการเมืองในระบอบทักษิณต้องสูญเสียอำนาจการบริหารประเทศไปนั้นประเทศไทยมีรายได้ประชาชาติ 407.3 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือ 13.237.25 ล้านล้านบาท มีประชากร 65.4 ล้านคน
ประเทศมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจเทียบปี 2556 กับ 2557 โตแค่ 0.7% เท่านั้นประชากรมีรายได้ต่อหัวคนละ 13,000 เหรียญสหรัฐ หรือคนละ 422,500 บาท เฉลี่ยเดือนละ 35,208 บาทต่อคน มาสิ้นปี 2561 ในยุครัฐบาล คสช. ประเทศไทยมีประชากร 67.6 ล้านคนรายได้ประชาชาติสิ้นปี 2561 ประมาณ 1.323 ทริลเลี่ยนเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 455,400 ล้านล้านบาท รายได้ต่อหัวคนละ 19,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 617,500 บาทเฉลี่ยเดือนละ 51,458 บาท
อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจระหว่างปี 2560 กับ 2561 โตขึ้น 4% ไทยส่งสินค้าออกในปี 2561 ได้ถึง 236,760 ล้านเหรียญสหรัฐ นำเข้าสินค้า 222,760 ล้านเหรียญสหรัฐเทียบแล้วไทยเกินดุลชำระสินค้า 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐในขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในปี 2561 ค่าเงินบาทแข็งค่าคือ 1 ริงกิตมาเลเซียเท่ากับ 7.96 – 8.00 บาท บาทไทยมีค่าสูงขึ้น
เมื่อเทียบเงินบาทกับเงินตราสกุลหลัก 5 สกุลของโลกปรากฏว่าค่าเงินบาทสูงมาก 1 เหรียญสหรัฐเท่ากับ 32.5 บาท 1 ยูโรเท่ากับ 37.5 บาท 1 ปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษเท่ากับ 41.4 บาท 100 เยนเท่ากับ 29.5 บาท เมื่อนำเอารายได้ประชาชาติในปี 2557 กับ 2561 แล้วจะพบว่ารายได้ประชาชาติสมัย คสช.ดีกว่าสมัยระบอบทักษิณถึง 915.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3 เท่าตัวในเวลา 5 ปี
อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลดำเนินนโยบายทางด้านเศรษฐกิจในระบอบทุนนิยมเต็ม 100 ทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยขยายตัวเป็นอย่างมากแต่การกระจายรายได้ไม่ดีเท่าให้เกิดภาวะคนที่ร่ำรวยอยู่แล้วมีฐานะร่ำรวยมากขึ้นจากตัวเลขของนิตยสารฟอร์บสนั้นระบุว่าไทยมีมหาเศรษฐี 1 พันล้านเหรียญสหรัฐถึง 40 ตระกูล มีกลุ่มชนชั้นกลางที่มีฐานะที่ร่ำรวยที่มีรายได้ต่อปีคนละ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ มากกว่า 1 ล้านคนจากประชากร 67.6 ล้านคน
ปัญหาที่รัฐบาลคสช.ต้องแก้ไขให้เป็นผลก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 ก.พ. 2562 ก็คือการกระจายรายได้และการใช้โครงการสวัสดิการแห่งรัฐไปสู่ประชาชนที่ยากจนที่มีประมาณร้อยละ 20 ให้เป็นผลงานที่มั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี