ส่งท้ายปีเก่ากันด้วยเรื่องหนักที่ใหญ่ที่สุดที่เป็นปัญหาทางสังคมที่หมักหมมและทำลายทั้งสถาบันครอบครัว ทำลายทรัพยากรมนุษย์และทำลายเศรษฐกิจมาอย่างยาวนาน นั่นคือปัญหายาเสพติดครับ
เมื่อวานนี้พรรคประชาธิปัตย์ แถลงนโยบายเรื่องนี้เป็นพรรคแรก ด้วยการประกาศด้วยท่าทีแข็งกร้าวของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่มาพร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือผู้การแต้มอดีตนายตำรวจที่จะเข้ามาดูแลในเนื้อหานโยบายนี้โดยตรง และอดีตสส.จาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ คุณอันวาร์ สาและ ได้ร่วมกันแถลงถึงนโยบายปราบปรามยาเสพติดของพรรคฯ โดยระบุไว้ว่า
ยาเสพติดเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศ มีผลกระทบเป็นวงกว้างต่อ เศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ ประชาชน รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งยังเกี่ยวโยงกับปัญหาอาชญากรรมทั้งในประเทศ และอาชญากรรมข้ามชาติ ยิ่งไปกว่านั้นนักโทษกว่าร้อยละ 80 ยังเป็นนักโทษที่มาจากคดียาเสพติด
ต่อมาเข้มข้นด้วยท่อนนี้ที่ผมเห็นด้วยอย่างมากครับว่า การปราบปรามยาเสพติดไม่ใช่เพียงการเอาผู้ต้องหามาออกกล้องโชว์สื่อ แต่ต้องทำจริงจังอย่างรูปธรรม ซึ่งความจริงในหลายๆ ประเทศ มีวิธีการที่แตกต่างกันออกไปมาก บางประเทศถึงขั้นหักดิบด้วยการ “เสรียาเสพติด” ก็มีคือ ทำให้มันไม่มีมูลค่า เมื่อราคาต่ำมา สมมุติจากเม็ดละพันเหลือเม็ดละ 5 บาท กลไกที่สร้างขุมอำนาจและพลังให้มาเฟียยาเสพติดที่มักจะมีคราบอยู่ในเจ้าหน้าที่รัฐเองนี่แหละหมดไปได้ จากนั้นก็ไปเน้นหนักในขาการ “รักษา” และ “บำบัด” และในขั้นต้นนี้เอง คุณอภิสิทธิ์บอกว่า จะต้องเริ่มได้การให้อำนาจที่เป็นอิสระต่อ ป.ป.ส.ให้อิสระจากตำรวจ
“พรรคประชาธิปัตย์ตระหนักดีว่าปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่ถูกพูดถึงมาอย่างยาวนาน และการแก้ปัญหายาเสพติดถูกนำมาสร้างความหวือหวาในการทำนโยบายหาเสียงแทบทุกครั้ง และวิธีการที่เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งมักเป็นเพียงการจับกุมผู้ต้องหารายเล็ก รายน้อย แต่เน้นประเด็นการโชว์ออกสื่อ เสมือนว่าปัญหาทั้งหมดนี้ได้ลดลงไปแล้ว แต่ในความเป็นจริง ปัญหายาเสพติดยังคงหมักหมมอยู่ในวิถีชีวิตของประชาชนในสังคมเรื่อยมาจนยากที่จะแก้ไข”
เมื่อครั้งสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลนั้น มี “นโยบาย 5 รั้ว” ป้องกัน สกัดกั้นยาเสพติด คือ รั้วชายแดน รั้วชุมชน รั้วสังคม รั้วโรงเรียน และรั้วครอบครัว เป็นมาตรการที่เด็ดขาด และมีผลที่ชัดเจนต่อการจัดการปัญหา แต่ในปัจจุบัน ปัญหายาเสพติดได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วและส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศชาติ
คราวนี้เรามาดูในรายละเอียดของนโยบายหลัก 4 ข้อ กันครับว่าเป็นอย่างไร...
ในวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ให้คำมั่นว่า แนวนโยบายในครั้งนี้จะเป็นนโยบายที่เน้นการปราบปรามปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนโดยมีนโยบายอย่างเร่งด่วน ที่จะแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างไม่เกรงใจใคร! ดังต่อไปนี้
1. ปะ-ฉะ-ดะ ยกระดับ ป.ป.ส. ยุคใหม่ ให้อำนาจสอบสวนคดี คานอำนาจตำรวจท้องที่ ไม่เกรงกลัวอิทธิพล
- ป.ป.ส. มีอานาจ สืบสวน และสอบสวน และส่งฟ้องอัยการได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านตำรวจ
- ป.ป.ส. สามารถออกหมายค้นได้เอง (เฉพาะคดียาเสพติด) โดยไม่ต้องรอหมายศาล โดยผู้ที่ออกหมายค้นได้ต้องเป็นระดับผู้บัญชาการ เพื่อความคล่องตัวในการตรวจค้น
- มีป.ป.ส. ทุกจังหวัด เป็นอิสระจากตำรวจ หากในพื้นที่มีการตรวจจับคดียาเสพติด ตำรวจในท้องที่ที่ต้องรับผิด แสดงถึงความไม่เข้มงวดในการดูแลพื้นที่
- ป.ป.ส. ขึ้นกับนายกรัฐมนตรีโดยตรง จากเดิมขึ้นกับกระทรวงยุติธรรม
2. ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย ให้โอกาสประชาชน รู้ตัว-กลับใจ-แก้ไขใหม่ได้ทุกคน
- ลดโทษผู้เสพ เปรียบเสมือนผู้ป่วย โดยให้ผู้เสพได้รับการบำบัดอย่างทันท่วงที และไม่มีประวัติ อาชญากรรมหากบำบัดสำเร็จ
- สร้าง “ศูนย์บำบัดยาเสพติดมีคุณภาพ” ในทุกจังหวัดทั่วไทย สร้างคนดีกลับสู่สังคม
3. ประชาชนร่วมใจ ใส่ใจสังคม : เพราะเรารู้ว่าสังคมคือกำลังใจที่ดีที่สุด
- สังคมมีส่วนร่วมโดยตรงในการป้องกันปัญหายาเสพติด โดยมีสัญญาร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัย และสถานศึกษาในชุมชน ให้นักเรียน นักศึกษาทำโครงการดูแลชุมชน รับทราบปัญหาของแต่ละชุมชน เพื่อให้คนในสังคมรับรู้ถึงภัยยาเสพติด
- อาสาสมัครป้องกันภัยทุกหมู่บ้าน ให้มีอาสาสมัครดูแลหมู่บ้านคอยสอดส่องปัญหายาเสพติด ความปลอดภัยในชุมชน โดยมีค่าตอบแทน
4. เพิ่มโทษ 2 เท่า : เอาให้หนักกับกรณีเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนรู้เห็น
- ไม่เกรงใจใคร! เพิ่มโทษ 2 เท่าหากเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงานมีส่วนรู้เห็นต่อยาเสพติด
ความจริงข้อที่ถูกใจที่สุดสำหรับประชาชนเลยก็คือ “เอาให้หนักกับกรณีเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนรู้เห็น ถามชาวบ้านกันดูก็ได้ครับในท้องที่ตัวเอง ใครขาย ใครเสพ หรือคนขายเอายามาขายจากไหน ชาวบ้านเขาอัดอั้นกันมานานแล้ว ขอเพียงแต่ให้มีเจ้าหน้าที่รัฐคนที่ตงฉินและใหญ่กว่า และดีจริงๆ รอเพียงคนที่เอาจริงเอาจังมาปราบพวกนี้เสียที!
ส่งท้ายปีใหม่นี้ผมขอให้คุณผู้อ่านทุกท่านที่คอยติดตามกันมาตลอดได้พบแต่สิ่งที่ดี ได้รัฐบาลที่เพียบพร้อมเต็มไปด้วยความรู้ ความคิด และความซื่อสัตย์ต่อประเทศ เต็มไปด้วยความจงรักภักดีต่อสถาบันสูงสุดของชาติ มาบริหารประเทศไทยของเราให้เจริญก้าวหน้าต่อไปครับ
สวัสดีปีใหม่ 2562
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี