ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เผยถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์ มวลรวมในประเทศในไตรมาสที่ 4 ปี 2561 และแนวโน้มปี 2562 หลังการเลือกตั้งโดยมีรายละเอียดที่สำคัญคือไตรมาสที่ 4 ของปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 3.7 มากกว่าไตรมาสที่ 3 ที่ขยายตัวร้อยละ 3.2 และเมื่อปรับผลของฤดูออกแล้วเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2561 ขยายตัวจากไตรมาสที่ 3 ปี 2561 ร้อยละ 0.8 รวมปี 2561 เศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 4.1 เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวร้อยละ 4.0 ในปี 2560 เป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี เทียบระหว่างปี 2556 กับปี 2561
ในขณะที่การใช้จ่ายของรัฐชะลอตัวกับการลงทุนภาครัฐปรับตัวลดลงการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวในเกณฑ์ร้อยละ 5.3 ต่อเนื่องจากร้อยละ 5.2 ในไตรมาสก่อนหน้าโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับตัวดีขึ้นของฐานรายได้และการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ การดำเนินมาตรการดูแลผู้มีรายได้น้อยของภาครัฐทำให้ประชาชนมีรายได้ดีกว่าในปี 2560
ในขณะที่การใช้จ่ายซื้อสินค้ากึ่งคงทนและสินค้าไม่คงทนขยายตัวขึ้นสอดคล้องกับการขยายตัวของดัชนีปริมาณค้าปลีกสินค้ากึ่งคงทนดัชนีปริมาณการนำเข้าสินค้าหมวดสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม และดัชนีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ และน้ำมันดีเซลที่ขยายตัวร้อยละ 6.8 ร้อยละ 23.2 และร้อยละ 5.8 ตามลำดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ร้อยละ 67.4
ด้านภาคต่างประเทศการส่งออกสินค้าในไตรมาสที่ 4 มีมูลค่า 62,538 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 ชะลอลงจากการขยายตัวร้อยละ 2.6 ในไตรมาสที่ 3 ด้านการผลิต การผลิตสาขาอุตสาหกรรม สาขาการขายส่ง การขายปลีก และการซ่อมแซม สาขาโรงแรมและภัตตาคาร และสาขาการขนส่งและการคมนาคมขยายตัวขึ้นส่วนการผลิตภาคเกษตรและสาขาก่อสร้างชะลอตัวเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตราการ
ว่างงานอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.9
เศรษฐกิจไทยรวมทั้งปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 4.1 มากกว่าปี 2560 ที่ขยายตัวร้อยละ 4.0 เป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี รายได้ต่อหัวเฉลี่ยของคนไทยอยู่ที่ 240,544.9 บาทต่อคนต่อปี เพิ่มขึ้นจาก 228,398.4 บาทต่อคนต่อปี ในปี 2560 เสถียรภาพทางเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1.1 และบัญชีเดินสะพัดเกินดุลร้อยละ 7.4 ของรายได้ประชาชาติปี 2562 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.5-4.5
การบริหารนโยบายเศรษฐกิจมหภาคในปี 2562 ควรให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการส่งออกทั้งปีให้สามารถขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5.0 โดยให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการส่งออกสินค้าที่มีโอกาสได้รับประโยชน์จากมาตรการกีดกันทางการค้าและให้ความช่วยเหลือผู้ส่งออกสินค้าที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งติดตามการเปลี่ยนแปลงของสินค้านำเข้าที่สำคัญๆ ด้วย
คาดว่าในปี 2562 นี้ไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 2.24 ล้านล้านบาท และมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาในไทยประมาณ 41-42 ล้านคน ซึ่งมากเป็นอันดับที่ 4 ของโลก ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยภายหลังการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2562 จะดีขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปี 2563
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี