แม้ตัวจะเกษียณไปแล้วแต่ชื่อของ “เดอะโก้” พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. ยังเป็นที่จดจำในฐานะผู้ถ่ายทอดจิตวิญญาณนักสืบให้แก่ตำรวจรุ่นหลัง มาประกอบกับแนวทางการทำงานเพื่อสอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน ที่มีเรื่อง Social เข้ามาเป็นช่องทางการก่อเหตุอาชญากรรมและยังใช้สะกดรอยคนร้าย นักสืบที่เคยสัมผัสกับท่านจะรู้เลยว่า ความสำเร็จไม่สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยตัวคนเดียว

เป็นความโชคดีของ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. แรกเริ่มมีความใฝ่ฝันเป็นนักสืบแล้วก้าวแรกของเขาก็ได้มาพบเจอกับ เดอะโก้ ยกให้เป็นปรมาจารย์นักสืบชั้นแนวหน้า จากประสบการณ์ความรู้ที่ได้รับกลายเป็นนักสืบผู้มากฝีมืออีกหนึ่งคน ผ่านคดีสำคัญมานับไม่ถ้วน ทั้งการจับกุมและวิสามัญคนร้ายหลายศพแม้ตัวจะเล็กแต่รับรองว่าใจใหญ่ดั่งทะเลลูกน้องทุกคนรู้ดี

เส้นทางรับราชการของ ผู้กำกับพร ชาว จ.สุพรรณบุรี นรต.รุ่น 50 จะเติบโตในสายงานสืบสวนเริ่มต้นอาชีพนักสืบปี 2543 ตำแหน่ง รอง สว.สส.บก.น.1สว.สส.สน.สุวินทวงศ์ สว.สส.สน.บางซื่อ จากนั้นกลับมาเป็น สว.สส.บก.น.1 รอง ผกก.สส.บก.น.1 ขึ้น ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. อยู่ 3 ปีย้ายมาห้อง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. ผ่านเกือบ 2 เดือนโชว์จับยาบ้า 1 ล้านเม็ด

นอกจากนี้ มีคดีฆ่ายัดถังโบกปูนฝังดิน พื้นที่ สน.บางเขน โดยร่วมกับ บก.ป. ตามจับกุม นายประยูร หรือจุ๊บ แก้วพยศ อายุ 48 ปี ชาว จ.พัทลุง หลังก่อเหตุแล้วหลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.พัทลุง, คดีกรณี นายอำนาจ อินสุวรรณโณ หรือ “บอลใต้” อายุ 37 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ใช้อาวุธปืนจ่อยิง นายอัษฎา ทัพน้อย อายุ 48 ปี หรือ “ดา สะพานใหม่” เซียนมวยด้วยกัน หน้าสนามมวยลุมพินี รวม 4 นัดเสียชีวิต เรากดดันจนคนร้ายเข้ามอบตัว และเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ร่วมกับ บก.สปพ.(191) และ กก.สส.บก.น.8 จับไอซ์ 500 กก. หน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษฉลองรัช (จตุโชติ)

“ตอนอยู่ กก.สส.บก.น.1 รับผิดชอบงานอาชญากรรม ยาเสพติด และงานการเมือง พอเป็น ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ การทำงานด้านสืบสวนก็ไม่แตกต่างกันแต่สิ่งที่เพิ่มมาคือ การสนับสนุนเครื่องมือพิเศษต่างๆ ช่วยคลี่คลายแต่ละคดีที่ซับซ้อนหรือสำคัญ ส่วน กก.สส.2รับผิดชอบงานด้านยาเสพติดและโจรกรรมรถ” ผกก.สส.2บก.สส.บช.น. กล่าว

ผู้กำกับพร กล่าวว่า ปรมาจารย์ของตนต้องบอกว่า พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ถือเป็นต้นแบบให้ตำรวจในปัจจุบัน สมัยท่านเป็น ผกก.สส.บก.น.1 ตอนนั้นตนเริ่มต้นเป็นนักสืบ ร.ต.ท. เดินเข้าไปใน กก.สส.บก.น.1 เป็นความตั้งใจที่ครั้งหนึ่งอยากอยู่งานสืบสวน เพราะได้ใช้ความรู้ไหวพริบ และสิ่งต่างๆ ได้ร่วมมือกับเพื่อนตำรวจหรือหน่วยงานต่างๆ เป็นงานที่ท้าทายกับความสามารถตัวเราเอง

ท่านเป็นแนวทางของทั้งรูปแบบการทำงาน แนวความคิด ความจริงจัง ความทุ่มเท ความรู้รอบๆ ในงานสืบสวน การครองตน ครองคน ครองงาน ที่สำคัญเป็นผู้สร้างจิตวิญญาณให้นักสืบอีกหลายๆ คน ที่อยากให้ตำรวจเดินก้าวเข้ามาเป็นนักสืบเพื่อจะได้ช่วยกันทำงานด้วยใจ สุดท้ายเป็นความภูมิใจอย่างหนึ่งเลยที่ได้ช่วยเหลือประชาชนคนหนึ่ง ที่ได้รับความเดือดร้อนแล้วกลับออกไปพร้อมรอยยิ้ม

สิ่งสำคัญของการทำงานตนมองว่าจะตำแหน่งใดก็ตาม ถ้าใจเราพร้อมทำงาน พร้อมช่วยเหลือประชาชน ถ้ายึดตรงนี้เป็นพื้นฐานมั่นใจได้เลยว่า แม้เราจะรับราชการอยู่ตรงไหนความยากมันก็จะหายไป ไม่ใช่ว่าใครอยากเป็นนักสืบแล้วคิดจะเดินเข้ามาเพื่อแต่งตัวหล่อ แต่งตัวเท่นอกเครื่องแบบ อย่างนี้มันไม่ถูกต้อง นักสืบต้องพร้อมทำงานอยู่ตลอด สิ่งไหนที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายต้องทำ

“จุดแข็งของกอง 2 คือ ความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ตำรวจทุกคนกินอยู่ด้วยกันเหมือนพี่เหมือนน้อง เรื่องชั้นยศการบังคับบัญชาก็เป็นส่วนหนึ่งของระเบียบ และการยอมรับในความคิดต่างๆ ทุกครั้งในแต่ละคดี ส่วนนี้ผมมองว่าจะสามารถนำพาไปสู่ความสำเร็จได้ ผมกำหนดทิศทางของกอง 2 โดยมีเป้าหมายว่า ทุกอย่างทั้งการสืบสวน จับกุม ขยายผล เราต้องทำให้เป็นรูปธรรมชัดเจน”

แล้วอะไรคือจุดแข็งของเรา? พ.ต.ท.สมรวย อินต๊ะนัย รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางมด ช่วยราชการ รอง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พูดถึงเพื่อนร่วมรุ่นและหัวหน้าตัวเองว่า “ผู้กำกับพร มีความทุ่มเท จริงจัง จริงใจ ให้ความเป็นกันเองกับลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน และช่วยเหลือพวกเราทุกคน”

เทพนคร 2-1 กล่าวด้วยว่า สิ่งที่ตนอยากทำแล้วทำมาตลอดตั้งแต่มีโอกาสคือ พยายามสร้างนักสืบรุ่นใหม่ขึ้นมาทั้งตำรวจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) หรือตำรวจภูธรที่เคยศึกษาดูงานเราก็ได้ถ่ายทอดความรู้ร่วมกับ พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. และตำรวจท่านอื่นที่มีความสามารถเพื่อให้ทันกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

“สิ่งที่เราคาดหวังจากคนที่เราสอนหรือผลิตมา ก็อยากให้เขาสามารถทดแทนนักสืบรุ่นพี่ได้ บางครั้งก็เสียดายที่เขาไม่อาจอยู่กับเราได้นาน?”

ทีมข่าวอาชญากรรม