ช่วงเดือนมีนาคม ปี 2559 หลายคนจำกันได้กับข่าวคราวสุดฮือฮากรณี พล.ต.ท.ศานิตย์ มหาถาวร ผบช.น. ในขณะนั้น ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการสีกากี เนื่องจากมีแนวคิดพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจหญิงดำรงตำแหน่ง ผกก.สน. ขึ้นครั้งแรก ซึ่งที่ผ่านมาอดีตไม่เคยมีตำรวจหญิงนั่ง ผกก.โรงพัก ทั้งในส่วน บช.น. หรือ ภูธร 1-9 โดยมองว่าเป็นการให้โอกาสความเท่าเทียมกับตำรวจชาย

คุณสมบัติต้องปฏิบัติหน้าที่ พนักงานสอบสวน มาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ปี ขณะนั้นมีการเสนอชื่อตำรวจหญิง 3 นาย ได้แก่ พ.ต.อ.หญิงฉัตรแก้ว วรรณฉวี ผกก.(สอบสวน) สน.มักกะสัน พ.ต.อ.หญิงดรุณี ทัศนา ผกก.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน และ พ.ต.อ.หญิง ปวีณาเอกฉัตร ผกก.(สอบสวน) สน.สมเด็จเจ้าพระยา ทั้ง3 นาย ต่างแสดงวิสัยทัศน์กันอย่างเต็มที่ สุดท้ายแล้วแนวคิดดังกล่าวกลายเป็นการ…ขายฝัน…

แต่สำหรับ พ.ต.อ.หญิงฉัตรแก้ว วรรณฉวี กลับไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเคยรักษาราชการแทน ผกก.สน.มักกะสัน เมื่อปี 2558 กระทั่งปี 2562 หลังจากผิดหวังกับภาพ ผกก.โรงพัก พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.หญิงปวีณา เอกฉัตร ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.น.8 มารักษาราชการแทน ผกก.สน.ตลาดพลู ช่วงระหว่างวันที่ 23 เมษายน -
31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

“ได้เป็นหัวหน้าโรงพักตอนนั้นความรู้สึกแรกไม่คิดว่าผู้การฯ จะให้ความไว้วางใจให้มารักษาการที่ สน.ตลาดพลู แต่พอคิดไปคิดมาก็ถือว่าเป็นงานใหม่ที่ท้าทาย และเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับตำรวจหญิงอย่างเรา แม้ช่วงระยะเวลาไม่นานแต่ก็เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะตำรวจทุกคนใฝ่ฝันอยากมาเป็นหัวหน้าสถานีกันทั้งนั้น” ผกก.สน.หญิงคนที่ 2 ของนครบาล ย้อนให้ฟัง

กว่าจะมาถึงจุดนี้ ผกก.หญิง วัย 50 ปี เล่าประวัติว่า จบคณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยพยาบาลมิชชั่น รับราชการครั้งแรกที่ รพ.ตำรวจ ตำแหน่งพยาบาลตรี ระหว่างนั้นจบ คณะนิติศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช จังหวะ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดรับสมัครข้าราชการตำรวจสายงาน พนักงานสอบสวนหญิง เลยสมัครใจมาเป็นพนักงานสอบสวนอยู่ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปี 2557

ปีถัดมาเลื่อนขั้น พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ เทียบเท่า (ผกก.) หัวหน้างานสอบสวน สน.สมเด็จเจ้าพระยา และเป็น ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.น.8 จนมีโอกาสมารักษาราชการ
แทน ผกก.สน.ตลาดพลู ประมาณ 1 เดือนกว่า ภาพรวมคิดว่าความเป็นผู้หญิงกับการเป็นหัวหน้าโรงพัก ไม่ได้หวังว่าจะดีกว่าผู้ชายแต่มันน่าจะเท่าเทียมกันมากกว่า บางด้านผู้ชายเหนือกว่ากรณีการใช้กำลัง

แต่เรื่องความละเอียดอ่อนในการจัดการผู้หญิงจะมีมากกว่า สิ่งที่เหมือนกันคือการบริหารโรงพักให้งานสามารถเดินต่อไปได้ สำหรับที่ สน.ตลาดพลู ตนมาสานงานต่อและดูเรื่องของสถิติเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ถามว่าประชาชนจะได้อะไรเมื่อหัวหน้าโรงพักเป็นผู้หญิง ตนมองประเด็นเรื่อง เด็ก ผู้หญิง ที่จะเข้าถึง ผกก.ได้ง่ายมากขึ้น แล้วในเรื่องการประสานงานที่อาศัยความเป็นผู้หญิงเข้าไป

“ส่วนใหญ่จะให้กำลังใจกันมากกว่าทั้งผู้บังคับบัญชา และผู้ใต้บังคับบัญชาว่าขอให้เราสู้ๆ พิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มที่ แม้แต่อดีตผู้บังคับบัญชา พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร อดีต ผบช.น. ท่านก็ให้กำลังใจว่าเป็นโอกาสที่จะได้พิสูจน์ตัวเอง ยอมรับว่ามีประสบการณ์ด้านงานสอบสวนโดยตรง ขณะที่งานสืบสวน ป้องกันปราบปราม จราจร สอบสวน และธุรการ เราเคยประสานงานจึงได้เห็นวิธีการทำงาน”

อดีต รรท.ผกก.สน.ตลาดพลู บอกว่า คดีที่ สน.ตลาดพลู ส่วนใหญ่เป็นเกี่ยวกับยาเสพติดแล้วก็มีลักทรัพย์บ้างประปรายไม่เยอะ เพราะส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่เขาอยู่กันมานานไม่ค่อยวุ่นวายอะไรมาก ตนมองเรื่องการบริหารจัดการโรงพัก เช่น สวัสดิการของข้าราชการเอง การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชุมชนต่างๆ รับฟังปัญหาแล้วก็เอามาวิเคราะห์ปัญหา และอาจจะเติมเต็มในเรื่องที่ตำรวจอาจจะมองข้าม

ส่วนใหญ่ข้าราชการตำรวจหญิงจะเติบโตมาจากสายงานสอบสวน เมื่อต้องมาทำงาน สืบสวน ไล่ติดตามคนร้ายหรือตามหมายจับค้างเก่า โดยเฉพาะการรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งตนจะมีความถนัด ตนก็สามารถแบ่งงานได้ว่าจะให้ใครไปแสวงหาพยานหลักฐานเพิ่ม ส่วนในเรื่องของงาน ป้องกันปราบปราม รู้อยู่แล้วว่าเวลาเกิดเหตุขึ้น เราต้องแจ้งให้ตำรวจเข้าไประงับเหตุแล้วจับกุม
ผู้กระทำผิด

“อยากฝากถึงผู้ใหญ่ไม่ใช่แค่ใน ตร.แต่หมายถึงรัฐบาลว่า อยากขอให้โอกาสผู้หญิงในการทำงานซึ่งที่ผ่านมาก็มีบทพิสูจน์แล้ว ตั้งแต่มีพนักงานสอบสวนหญิงรุ่นแรก ปี 2538 และมีผลการวิจัยออกมาว่าผลตอบรับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พนักงานสอบสวนผู้หญิงทำงานได้ดีไม่แพ้ผู้ชาย ถ้าผู้บังคับบัญชาพิจารณามีคำสั่งไปรับตำแหน่ง ผกก.โรงพักอีกครั้ง ตนตอบเลยว่าถ้ามีโอกาสก็พร้อมยินดีจะทำงาน”

ทีมข่าวอาชญากรรม