หนังสือพิมพ์แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn การเมืองเรื่องหุ้นสื่อ กลายเป็นประเด็นร้อนให้ตามติด โดยเฉพาะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่“เสือไท” ต้องแกะต้องอ่านทุกคำทุกวรรค เพื่อให้เกิดความเข้าใจ จะได้นำไปใช้วัดเป็น “บรรทัดฐาน” ต่อไป...
nn ก่อนอื่นใคร่ขออนุญาตทำความเข้าใจก่อนว่า การพิจารณาคดีหุ้นสื่อของนักการเมือง นั้นแตกต่างกัน อย่าง ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ก็พิจารณาโดยยึดเอาหนังสือบริคณห์สนธิ เป็นหลัก โดยข้อเท็จจริงไม่ว่าจะทำกิจการสื่อหรือไม่ก็ตาม...
nn ส่วนศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อรับคำร้องแล้ว ก็เปิดให้มีการส่งคำชี้แจง ศาลก็จะรับฟังข้อเท็จจริงที่เป็นคำชี้แจงว่า เมื่อในหนังสือบริคณห์สนธิ ที่จดทะเบียนกับกรมธุรกิจการค้า มีวัตถุประสงค์ระบุว่าทำกิจการเกี่ยวกับสื่อ แต่ธุรกิจท่ีทำจริงๆ ใช่หรือไม่ ก็จะว่ากันตาม“ข้อเท็จจริง” เป็นหลัก...
nn ซึ่งจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่รับตีความ 32 สส.จากที่ยื่นไป 41 สส. ก็เข้าทำนองนี้ โดยศาลเห็นว่า ในหนังสือที่จดทะเบียนอาจเข้าข่ายข้อห้าม แต่ที่ศาลไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นเพราะว่า การยื่นให้ตีความ ยื่นผ่านมาทางประธานสภาคือ ชวน หลีกภัย โดยที่ยังไม่ได้มีการสอบสวนมาก่อน ศาลจึงไม่มีเหตุอันสงสัย เลยไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่...
nn งั้นเท่ากับว่า 41 สส.รัฐบาล ยังคงทำหน้าที่ไปประชุมสภาได้ตามปกติ จำนวนเสียงที่ว่าปริ่มน้ำของสส.รัฐบาลก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด มิหนำซ้ำใน 41 สส.มี 9 สส. ที่ศาลให้ตีตกยกคำร้องไป เพราะดูวัตถุประสงค์ที่แนบท้ายในหนังสือบริคณห์สนธิ ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับการประกอบกิจการสื่อเลย...
nn “เสือไท” ฝากไปถึง ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ว่า อย่าได้นำประเด็นดังกล่าวไปเปรียบกับคดีของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นอันขาด และศาลรัฐธรรมนูญ เองคงจะทราบว่า จะต้องมีการนำคำวินิจฉัยไปบิดเบือนในทางการเมือง จึงได้มีการแถลงห้อยติ่งในเอกสารวรรคท้ายว่า อนึ่ง คดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ร้อง ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ถูกร้อง สิ้นสุดลง (เรื่องพิจารณาที่ 1/2562) ได้ผ่านการสอบสวนของคณะกรรมการการเลือกตั้งซึ่งมีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงมาก่อนยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีเอกสารประกอบคำร้อง เช่น แบบ สสช.1 ระบุสินค้าหรือบริการที่ประกอบการว่าประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ โรงพิมพ์ รับพิมพ์ หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย ประกอบกับแบบนำส่งงบการเงินที่บริษัทของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ถูกร้อง ยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 2554-2558 ระบุไว้ชัดเจนว่ามีรายได้จากการขายนิตยสาร และรายได้จากการให้บริการโฆษณา กรณีจึงมีเหตุอันควรสงสัยว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ถูกร้อง มีกรณีตามที่ถูกร้อง ศาลรัฐธรรมนูญจึงได้มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง...
nn เพราะก่อนหน้านี้ ปิยบุตร ให้สัมภาษณ์ว่า หากศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ให้ 41 สส.ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ก็จะยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวให้ ธนาธร ได้ปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกัน มันคนละเรื่องคนละประเด็น...
nn “เสือไท” แอบคิดเล่นๆ ไม่รู้ว่า ฝ่ายรัฐบาล จะเอาด้วยหรือไม่คือ การที่สส.รัฐบาลจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ สส.ฝ่ายค้าน 55 คนนั้น ถ้ายื่นผ่านประธานสภา อาจจะเป็นเหมือน 41 สส. แต่หากยื่นผ่านกกต. ทางกกต. จะมีการสอบสวนก่อน เมื่อผลการสอบสวนมีมูลอันน่าสงสัยว่าจะขาดคุณสมบัติจริง กกต.ก็จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งอาจจะแตกต่างกับการวินิจฉัย 41 สส.รัฐบาลก็ได้ ใครจะไปรู้ เพียงแต่ว่า ถ้าไปทางประธานสภา จะเร็วเหมือนทางลัด แต่ถ้ามาทางกกต.จะช้าเพราะต้องให้อนุกรรมการไปสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน...nn
เสือไท
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี