ตำรวจหลายนายหนีงานสอบสวน แต่นั่นไม่อยู่ในความคิดของ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.นายตำรวจที่เติบโตจากสายงานสอบสวนมาโดยตลอด พ.ต.อ.เอนก เล่าถึงที่มาที่ไป ก่อนจะมานั่งกุมบังเหียนงานสอบสวนของ หน่วยงานที่พึ่งสุดท้าย อย่าง กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ว่า พื้นเพเป็นชาว จ.อุทัยธานี สอบเข้าเป็นนักเรียน เตรียมทหารรุ่น 29 และ นายร้อยตำรวจรุ่น 45 หลังจากจบออกมาก็เติบโตในงานสอบสวนอยู่ในหลายโรงพักของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)
“ผมอยู่ที่ สน.บางรัก นาน 11 ปี จนขึ้น รอง ผกก.(สอบสวน) ที่นั่น กระทั่งปี 2553 ถึงย้ายมาสังกัด บก.ป.หน่วยงานติดอาร์ม สอบขึ้นเป็น สบ. 4 ที่ กก.5 บก.ป.จากนั้นจึงย้ายมาอยู่กลุ่มงานสอบสวน ผมทำงานตรงนี้ไม่เหมือนคนอื่นที่ส่วนใหญ่จะเบื่องาน หนีหน้างานนี้ แต่ผมไม่ ผมคิดไม่เหมือนกันเพราะองค์กรต้องมีคนที่เป็นหลัก ถ้าหนีตรงนี้กันหมด น้องๆ ข้างหลัง ก็อยากจะหนีบ้าง เราต้องเป็นกำลังใจให้เขา”
พ.ต.อ.เอนก เผยว่า มีแนวคิดจะพัฒนางานสอบสวน อันดับแรกคือ การปรับทัศนคติของพนักงานสอบสวน เพราะว่าถ้าพนักงานสอบสวนมีทัศนคติในทางบวกเมื่อไหร่ เขาจะปฏิบัติหน้าที่ได้ดี โดยไม่ต้องมีการกำชับหรือกำกับดูแลของผู้บังคับบัญชา เขาจะสามารถดูแลชาวบ้าน หรือให้ความเป็นธรรมได้ ทัศนคติจึงถือว่ามีความสำคัญมาก ถ้าไม่คิดบวก เกียจคร้าน หรือท้อแท้ งานก็จะเดินไปไม่ได้ แล้วเกิดปัญหา
ต่อมาคือ การพัฒนาคุณภาพงานสอบสวน ที่ผ่านมาจะเห็นว่าพนักงานสอบสวนแต่ละคนจะทำคดีไปในสไตล์ที่ตัวเองถนัด บางครั้งทำตามใจตัวเองโดยคิดว่าถูกต้อง แต่กลายเป็นรูปแบบที่หลากหลายซึ่งไม่ถูกต้อง ดังนั้น เป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพงานสอบสวนให้มีประสิทธิภาพ มีความหมายว่าจะต้องทำอย่างลึกซึ้ง เป็นแนวทางเดียวกัน เป็นที่มาของโครงการจัดอบรมเพื่อพัฒนาเรื่ององค์ความรู้ด้านกฎหมาย
“ผมเขียนโครงการอบรมพัฒนาพนักงานสอบสวนอย่างจริงจังโดยหวังผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง จัดอบรมพนักงานสอบสวนทั้งหมดใน บก.ป.ไม่เอาแบบพอรู้ผ่านๆ จะต้องบังเกิดผลเป็นรูปธรรม มีการประเมินผลโดยให้ทำสำนวนคดีจริง ว่าเขาจะผ่านเกณฑ์ที่เราตั้งไว้หรือไม่ ทั้งหมดทั้งมวลมันเกี่ยวโยงกับประโยชน์ที่จะเกิดกับประชาชน”
รอง ผบก.ป.ระบุว่า เป้าหมายของการพัฒนาพนักงานสอบสวน คือเราอยากให้เป็น พนักงานสอบสวนในอุดมคติ มีความรู้ความสามารถที่จะดูแลคดีของชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ให้ความเป็นธรรมกับเขาได้ แม้ทุกวันนี้ยังไปไม่ถึงเป้าหมายนี้ แต่ก็พยายามทำ เพราะถ้าได้พนักงานสอบสวนในอุดมคติ มีศักยภาพในการดูแลปัญหาทางคดี ก็จะตอบโจทย์การเป็นที่พึ่งพาของประชาชนอย่างแท้จริง
“กองบังคับการปราบปราม เรายืนยันว่า ยังคงเป็นที่พึ่งพาได้ของประชาชน เพราะการแทรกแซงที่นี่ต้องถือว่าทำได้ยาก ไม่ว่าจากการเมืองหรืออิทธิพลใดๆ ด้วยนโยบายจากผู้บังคับบัญชา และด้วยลักษณะงาน ที่ผ่านมาก็มีผลสำเร็จทางคดีเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าอิทธิพลทางการเมือง หรือแม้แต่อิทธิพลทางการเงินหรืออะไรต่างๆ ไม่ได้เป็นอุปสรรคทำให้เราหวั่นไหว หรือสามารถบิดเบือนคดีที่เราทำได้”
ด้านชีวิตส่วนตัวและงานอดิเรกที่ชื่นชอบ พ.ต.อ.เอนก เล่าว่า เป็นคนชอบปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ ทั้งเลี้ยงควาย ไก่ชน และเป็ด เลี้ยงที่จังหวัดบ้านเกิดอุทัยธานี มีเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ โดยควายมีอยู่ประมาณ 20 ตัว เลี้ยงไว้ขายสายพันธุ์ ส่วนไก่ชน มีประมาณ
300 ตัว ขณะที่เป็ดมี 50 ตัว ก็เลี้ยงไว้ขายไข่ เราวางระบบฟาร์มเต็มรูปแบบ จึงมีรายได้ทุกวัน ถือเป็นรายได้เสริมที่ทำให้อยู่ได้
“ระบบฟาร์มที่เราทำ สามารถเลี้ยงตัวเองได้แล้ว เพราะเป็ดเป็นรายได้หลัก เราขายไข่เป็ดทุกวัน ทำมาสักประมาณ 10 ปีแล้ว ส่วนไก่ชนขายไก่หนุ่ม มีรายได้เดือนละประมาณ 30,000-50,000 บาท ขณะที่ควายก็เป็นรายได้รายปี ปีละประมาณล้านกว่าบาท เราใช้วิธีบริหารจัดการ ถามว่าทำไมใช้คนงานน้อย ก็เพราะเราใช้การวางระบบมาช่วย ทำให้เขาทำงานง่าย ภาระงานน้อย แต่มีประสิทธิภาพ”
รอง ผบก.ป.ออกปากว่า ตรงนี้ถ้าเราไม่วางระบบไว้ ทุกอย่างก็จะยาก แต่เราให้เขารู้ขั้นตอนการทำงาน เขาก็จะทำงานง่าย งานได้ประสิทธิภาพสูงสุด กว่าจะถึงตรงนี้ยอมรับว่าใช้เวลาเป็น 10 ปี แต่พอเริ่มแล้วไปได้เร็วเพราะตนเอาจริง ที่มาถึงทุกวันนี้ได้ทั้งเรื่องงานหรืองานอดิเรกที่รับผิดชอบ สิ่งที่สำคัญคือความจริงจัง ไปให้สุดทาง ให้ถึงแก่นแท้ เมื่อเราเอาจริงก็จะทำให้เรารู้ปัญหาของงาน รู้ระบบ รู้เนื้องานอย่างแท้จริง งานจึงราบรื่นเป็นไปได้ด้วยดี
“วันหยุด เสาร์-อาทิตย์ ถ้าไม่ติดงานอะไร ไม่มีคดีหรือราชการสำคัญ ผมก็จะไปที่ไร่ ผมทำกระต๊อบไว้หลังหนึ่งเป็นที่พัก เหมือนได้ทำอะไรที่เป็นการผ่อนคลายจากงานประจำของเรา ได้รีแล็กซ์สมอง ทำแล้วรู้สึกมีความสุข ผมชอบแบบนี้มากกว่าการไปเที่ยวเตร่” พ.ต.อ.เอนก กล่าวทิ้งท้าย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี