หนังสือพิมพ์แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn เรื่องนโยบายขายฝันนี่ สำคัญมาก พรรคการเมืองเวลาหาเสียงก็จะพูดทุกอย่างเพื่อให้ได้คะแนนแต่พอมาเป็นรัฐบาลแล้ว ไม่ได้นำสิ่งที่หาเสียงมาปฏิบัติจริง เขาจึงเรียกนโยบายขายฝัน..
nn กรณีค่าแรงขั้นต่ำวันละ 425 บาทของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นี่ก็เหมือนกัน เพราะทั้ง อุตตม สาวนายน และ กอบศักดิ์ ภูตระกูล ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาท ยังไม่เร่งด่วน แต่ตอนหาเสียงบอกว่า หากเลือกพรรคพปชร. จะได้ค่าแรงขึ้น คนเขาก็แห่เลือก แต่พอได้เป็นรัฐบาล กลับไม่ทำตามนั้น...
nn “เสือไท” ไม่ทราบว่าจะถือเป็นการหลอกลวงหรือไม่ นี่อย่าลืมนะว่า นโยบายต้องแถลงต่อสภา ดังนั้น ฝ่ายค้านเขาจ้องจะ “ซักฟอก” นโยบายของรัฐบาล ตามภาษาข่าวการเมืองเขาเรียกว่า การอภิปรายนโยบายของรัฐบาล เป็นการซ้อมใหญ่การอภิปรายไม่ไว้วางใจกันเลยทีเดียว ฉะนั้นครม.ประยุทธ์ 2 จะทำเป็นเล่นไม่ได้ นายกฯประยุทธ์ จะบอกว่า ขืนเอานโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลมาใส่เป็นนโยบายรัฐบาลที่จะต้องทำจริง จะต้องใช้เงินเป็นล้านล้านบาท นั่นไง ก็มีการติงกันตอนหาเสียง เพราะแต่ละพรรคงัดนโยบาย “ประชานิยม”มาถล่มกัน จนประชาชนไม่ได้ลืมหูลืมตา เพราะแต่ละพรรคล้วนแต่มีนโยบายดีๆ ทั้งนั้น ที่สำคัญคือ เป็นนโยบายที่จะต้องใช้เม็ดเงินงบประมาณจำนวนมาก เขาเรียกว่า นโยบาย “ลด แลก แจก แถม” แต่วันนี้ นายกฯบอกว่าไม่ได้นำมาปฏิบัติทุกนโยบาย อย่างนี้ประชาชนก็ถูกหลอกสิ...
nn ในยุคที่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนได้รับคะแนนนิยมก็คือ นโยบายประชานิยม 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน พอมาเป็นพรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทย ก็มีนโยบายจำนำข้าวและนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ ปริญญาตรี 15,000 บาทต่อเดือนเหล่านี้ล้วนเป็นนโยบายประชานิยม...
nn ถามว่าประชานิยม ต่างจาก ประชารัฐ อย่างไร “เสือไท” ว่าไม่ต่าง แม้นจะมีเสียงจากฝ่ายรัฐบาลนายกฯประยุทธ์ ว่า ประชารัฐทำเพื่อรัฐเพื่อประชาชน แต่ประชานิยม ทำเพื่อพรรค ทำเพื่อคะแนนเสียง แต่ทั้ง 2 อย่างล้วนแต่ใช้เงินงบประมาณแผ่นดินแทบทั้งสิ้น...
nn หรืออย่างประกันราคา กับ จำนำ ของประชาธิปัตย์ก็บอกว่า ประกันราคา เงินถึงมือเกษตรกร และเกษตรกรสามารถขายเมื่อราคาตลาดของพืชผลนั้นสูงขึ้น รัฐก็ไม่ได้เสียหายอย่างใดเหมือนจำนำ เพราะจำนำ ถ้าตั้งราคาสูงกว่าตลาด เมื่อเกษตรกรนำพืชผลทางการเกษตรมาจำนำแล้ว ก็ไม่มาไถ่ถอนคืนเพราะเงินที่ได้จากจำนำมันสูงกว่าราคาตลาดอยู่แล้ว นี่เลยทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณ คือถ้าดำเนินนโยบายปกติ ก็ไม่มีอะไร แต่มีการเล่นแร่แปรธาตุจากงบประมาณ มีคนไปหักหัวคิว เข้ากระเป๋านักการเมือง มันเลยเกิดเรื่อง...
nn ประเด็นต่อมานโยบาย กัญชาเสรี ของเสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตอนหาเสียง มอบหมายให้ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค เป็นคนดำเนินการ ซึ่งศักดิ์สยามก็ประกาศว่า “สำหรับประเทศไทย เป็นประเทศที่มีสายพันธุ์กัญชามากมาย ซึ่งการที่รัฐบาลออกกฎหมายที่ปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดและให้ใช้ในทางการแพทย์และปลูกในเชิงพาณิชย์ได้ แต่ที่รัฐบาลควรทำคือ ต้องให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาได้อย่างเสรี ต้องปลูกได้บ้านละ 6 ต้น โดยจะมีรายได้ปีละ 4.2 แสนบาท ที่เป็นไปตามต้นแบบแคลิฟอร์เนียที่ทำมาแล้ว ดังนั้น การปลูกเองเพื่อใช้ในครัวเรือน หากเหลือใช้ก็สามารถขายได้ โดยเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะเป็นผู้รับซื้อ รัฐจะต้องมีหน้าที่เข้ามาดูแลเรื่องเหล่านี้ พร้อมทั้งจัดโซนนิ่ง เอกชนหรือบริษัทที่จะเข้ามาซื้อต้องซื้อผ่านรัฐไม่ใช่ซื้อจากประชาชนโดยตรง หากวันนี้ รัฐอุดหนุนให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถมาร่วมกันคิดพัฒนาทำวิจัยกัญชารับรองได้ว่าไม่มีอะไรที่ประเทศไทยจะเสียหาย พรรคภูมิใจไทยยังมองว่า กัญชาจะเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ มีอนาคตแน่นอน และแก้ปัญหาความยากจนให้กับประชาชนได้เช่นกัน” แต่ล่าสุด “เสี่ยหนู” บอกว่ากัญชาเสรีความหมายคือ เสรีทางการแพทย์เท่านั้น นี่ชี้ให้เห็นว่า “หลอกประชาชน”...nn
เสือไท
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี