นับเป็นอีกนายตำรวจผู้มีจิตอาสา และใจบุญ สำหรับ ร.ต.ต.ปราโมทย์ ทัศนีย์ไตรเทพ รอง สว.(ฝอ.สก.) สกพ.ซึ่งได้รับคัดเลือกจากตำรวจชั้นประทวนยศ ด.ต. ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เข้ารับการอบรมเพื่อเลื่อนไหลขึ้นเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร โดยเป็นประธานรุ่น ไพรสะเดา 6 ของศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 7 เมื่อปี 2561 เส้นทางชีวิตในเครื่องแบบสีกากีของนายตำรวจหนุ่มใหญ่รายนี้มีมุมที่น่าสนใจไม่น้อย
ร.ต.ต.ปราโมทย์ เล่าว่า จบจากเทคนิคสมุทรสาคร ป.ตรี นิติศาสตร์ ม.ศรีปทุม และป.โท รัฐศาสตร์ มรภ.สวนดุสิต ช่วงที่เรียนจบออกมา ยังไม่ได้คิดจะเป็นตำรวจ ก็เริ่มทำธุรกิจคาร์แคร์ที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร บ้านเกิด ก่อนได้รับโอกาสทำงานในแวดวงสื่อมวลชนก็ได้สัมผัสมาแล้ว จากนั้นจึงก้าวสู่เส้นทางผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ด้วยการสอบเข้าเป็นพลตำรวจสังกัดกองทะเบียน แล้วย้ายมากองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ซึ่งโชคดีที่ได้นายดี คอยสนับสนุนในทุกๆ เรื่อง
ผู้หมวดรายนี้ เล่าต่ออีกว่า สมัยหนึ่ง ผบก.ป. มีนโยบายให้ตำรวจร่วมแก้ปัญหานักเรียนทะเลาะวิวาทกัน จึงสมัครใจร่วมจัดทำโครงการ “อุเทนอาสาร่วมพัฒนา” คอยเป็นที่ปรึกษา ร่วมกับ อ.สมนึก หนูเส็ง หัวหน้างานกิจการพิเศษ ม.เทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย นำนักศึกษา 40 คน ร่วมทาสีให้โรงเรียนและวัด ใน จ.ลพบุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยา
นอกจากนี้ ได้นำนักศึกษาร่วมสร้างอาคารเรียน 2 หลัง ให้กับโรงเรียนวัดโคมประดิษฐ์ จ.อุบลราชธานี รวมทั้งอบรมและสอนชาวบ้านให้สามารถซ่อมเฟอร์นิเจอร์ มุ้งลวด และอบรมความปลอดภัยกับวินัยจราจร สร้างให้นักศึกษามีจิตสาธารณะ รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ หลีกพ้นจากปัญหาทะเลาะวิวาท ที่รังแต่จะก่อเกิดแต่ความบาดหมางและสูญเสีย หรือแม้แต่สิ่งที่เป็นปัญหาใกล้ๆ ตัว ก็ไม่ละเลย
“ผมควักเงินส่วนตัวซื้อวัสดุอุปกรณ์ รวมถึงหินคลุก ดิน ทราย และยางมะตอย มาซ่อมถนนในชุมชน กม.11 ซอยวิภาวดีรังสิต 8 เพราะได้เห็นสภาพถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ชาวบ้านสัญจรไป-มาไม่สะดวก ยิ่งเวลาฝนตกหนัก สภาพก็ยิ่งแย่ เราอาศัยอยู่ในซอยนี้ จะให้เฝ้ารอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการคงต้องใช้เวลา จึงตัดสินใจใช้เงินที่เราพอมี ปันส่วนมาช่วยบรรเทาปัญหาเท่าที่ทำได้”
ร.ต.ต.ปราโมทย์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2560 ช่วงที่อบรมที่โรงเรียนตำรวจภูธรภาค 7 ก็ไปสะดุดกับป้ายวัดปราโมทย์ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ชื่อวัดก็ตรงกับชื่อเราประกอบกับใกล้ถึงวันเกิด จึงมีความคิดว่าอยากจะไปทำบุญที่วัดแห่งนี้ ก็เลยเลี้ยวรถเข้าไปวนดู ระหว่างนั้นก็ยังเจอกับนักเรียนโรงเรียนปราโมทย์ ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่า อาคารไม้แบบโบราณ จึงคิดอยากจะซื้ออุปกรณ์การเรียนไปแจกนักเรียนด้วย
“ดูแล้วนักเรียนที่นี่ก็ยังขาดแคลน ส่วนใหญ่เป็นลูกชาวสวน ผมเลยซื้อสมุด ดินสอ อุปกรณ์กีฬา ไปแจกเด็ก แจกกับมือตัวเอง ไม่เอาไปกองทิ้งไว้ มูลค่ามันอาจไม่ได้มากมาย แต่เห็นเด็กยกมือไหว้ขอบคุณแล้ว เรารู้สึกมีความสุข ก็คิดถึงตอนที่เราเป็นเด็ก เราชอบวันเด็ก วันที่จะได้รับของแจก ซึ่งวันนั้นได้สวมเครื่องแบบตำรวจ รู้สึกภูมิใจเพราะอย่างน้อยก็น่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีในสายตานักเรียนและครู”
"ถ้ามีโอกาส หรือวันหนึ่ง ข้างหน้า มีรายได้ที่ดีกว่านี้ ก็จะทำบุญอีก เท่านี้ชีวิตก็มีคุณค่า"
ผู้หมวดหนุ่มใหญ่ เล่าต่ออีกว่า พอแจกเสร็จวันนั้นทาง ผอ.โรงเรียนบอกว่าโรงเรียนมีการเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กด้วย ที่ผ่านมาจะได้เงินจากทางวัด ซึ่งเป็นเงินที่มีคนมาทำบุญแล้วแบ่งมาให้เป็นรายเดือน จึงคิดว่าถ้ามีโอกาสได้บอกบุญส่งต่อให้กับเพื่อนตำรวจมาร่วมกันทำตรงนี้ก็คงจะดี จึงไปหาสมัครพรรคพวกมาช่วยกัน ตั้งเป้าว่าถ้าได้สักเดือนละ 3,000 บาท ก็จะช่วยเสริมในส่วนที่ทางโรงเรียนจัดไว้ เช่น มีขนมหวาน หรือผลไม้ เพิ่มเติมให้กับเด็ก ไม่ใช่มีแต่ข้าวแกงอย่างเดียว
“ผมขอเบอร์ติดต่อกับทาง ผอ.โรงเรียน ไว้ และบอกเสมอว่า ถ้ายังต้องการอะไรเพิ่ม ขอให้แจ้งมาได้ และยังเคยมีความคิดว่าสถานที่เหล่านี้บางคนไม่ค่อยรู้
ว่ายังมีอะไรที่ขาดแคลน ที่ผ่านมา หลายคนไปทำบุญตามสถานพินิจ หรือบ้านเด็กกำพร้าต่างๆ ซึ่งจริงๆ บางที่ มีคนบริจาคเยอะแล้ว บางแห่งถึงขั้นต้องจองวัน เวลา จึงคิดว่าทำแบบนี้ เด็กน่าจะได้รับโดยตรงและเข้าถึงเด็กที่ยังยากจนอีกกลุ่มใหญ่”
ร.ต.ต.ปราโมทย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ยังมีความคิดว่าอยากให้การบริจาคกระจายไปตามต่างจังหวัดห่างไกล ที่ยังขาดแคลนจริงๆ ไม่ควรจะไปกระจุกกันอยู่เพียงบางแห่งเท่านั้น และสำหรับวัดปราโมทย์ ที่มีชื่อตรงกับตัวเอง ก็อยากให้คนที่ชื่อเดียวกันอย่างเพื่อนร่วมรุ่นอีก 3 คน ได้มาร่วมบุญกัน
“เราทำที่นี่เป็นจุดเริ่มต้น ก็ไม่ใช่ว่าจะทำเฉพาะที่มีชื่อ “ปราโมทย์” เท่านั้น ถ้ามีโอกาส หรือวันหนึ่งข้างหน้ามีรายได้ที่ดีกว่านี้ ก็จะทำที่อื่นๆ ด้วย ไม่จำเป็นต้องทำเยอะ ทำแค่พอประมาณ เท่าที่ไม่เดือดร้อนตัวเองและคนรอบข้างเรา เชื่อว่าเท่านี้ชีวิตก็มีคุณค่า มีความสุขตามแบบฉบับของเราเอง”
ทีมข่าวอาชญากรรม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี