กลายเป็นที่ฮือฮา เมื่อปรากฏรายงานข่าวว่า กรมสรรพสามิตจะเร่งปราบปรามซุ้มยาดองเหล้า
ข่าวนี้เกิดขึ้น หลังเกิดกรณีชาวบ้านใน อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี เสียชีวิต3 ราย เพราะซื้อยาดองเหล้าที่อ้างว่ามีส่วนผสมของสมุนไพรรากสามสิบผสมคางคก
1. นายประนอม เชิมชัยภูมิ ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายเหล้าภาคเหนือ วิพากษ์วิจารณ์กรมสรรพสามิตอย่างรุนแรงว่า มาตรการของสรรพสามิตเป็นเพียงข้ออ้างในการเข้าไปทำลายวัฒนธรรมภูมิปัญญาพื้นบ้าน เพราะคำว่ายาดองเหล้า มีความหมายมากกว่าเหล้า ซึ่งกรมสรรพสามิตควรแยกแยะ ไม่ควรใช้มาตรการเหมารวม เพราะการทำยาดองเหล้าไม่ได้ใส่คางคกทุกสูตร การใช้เหตุนี้ กวาดล้างทั้งหมดถือว่า ไม่เหมาะสม เพราะยาดองคือภูมิปัญญาพื้นบ้านด้านสุขภาพ ถือว่ากรมสรรพสามิตกำลังใช้มาตรการทำลายภูมิปัญญา เป็นการทำลายการแปรรูปข้าวในระดับพื้นบ้าน และจะทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงอย่างแน่นอน การกระทำของกรมสรรพสามิตกำลังทำให้ทุนใหญ่ไร้คู่แข่ง ชี้ชัดได้ว่ากรมสรรพสามิตเป็นแค่เครื่องมือของทุนใหญ่อย่างชัดเจนทั้งนี้ เครือข่ายเหล้าพื้นบ้านภาคเหนือกำลังหารือเพื่อจะมีมาตรการตอบโต้ออกมา เชื่อว่าเครือข่ายเหล้าพื้นบ้านแห่งประเทศไทยคงไม่นิ่งนอนใจ เพราะเป็นการกวาดล้างแบบเหมารวม
2. ต่อข้อกล่าวหาข้างต้น กรมสรรพสามิตชี้แจงผ่านแฟนเพจ “สถานีข่าวกระทรวงการคลัง” ว่า“พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 อนุญาตให้ผู้ที่ประสงค์จะผลิตสุราชุมชน ซึ่งเป็นสุราพื้นบ้านสามารถที่จะดำเนินการผลิตได้ทั้งในรูปแบบของสุราแช่พื้นบ้าน เช่น อุ กระแช่ สาโท หรือสุรากลั่นชุมชน โดยสุราทั้งสองประเภทนี้ จะต้องได้รับการตรวจสอบคุณภาพจากกรมสรรพสามิต ในฐานะที่มีหน้าที่ตามกฎหมาย พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตฯ ดังกล่าว ก่อนจึงจะออกจำหน่ายได้ เพื่อให้ประชาชนในฐานะผู้บริโภคมีความปลอดภัยและสุขอนามัยเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม หากผู้ที่ต้องการนำสุราแช่พื้นบ้าน หรือสุรากลั่นชุมชนดังกล่าว ที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายจากกรมสรรพสามิตเรียบร้อยแล้ว ไปใช้เพื่อการผลิตเป็นยาแผนโบราณ โดยผสมสมุนไพรหรือวัตถุดิบพื้นบ้านตามภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อทำให้มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคตามตำรับยาแผนโบราณ ก็สามารถดำเนินการได้ โดยขอขึ้นทะเบียนเป็น ตำรับยาสมุนไพรแผนโบราณกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ได้เช่นเดียวกัน
จะเห็นได้ว่า หน่วยงานภาครัฐทั้งกรมสรรพสามิต และกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องไม่ได้ปิดกั้นการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นแต่อย่างใด แต่จำเป็นต้องมีการออกกฎระเบียบ เพื่อใช้กำกับการจำหน่ายสุราที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายให้ได้รับการตรวจสอบคุณภาพ ไม่ขัดต่อหลักสุขอนามัยที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคได้เช่นเดียวกับสินค้าอื่นๆ ที่ใช้บริโภคดื่มกิน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มหรืออาหารต่างๆ ก็ต้องได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานของรัฐเช่นเดียวกัน”
3. อันที่จริง ประเด็นเกี่ยวกับ “เหล้าดองยา” หรือ “ยาดองเหล้า” มีหลายมิติที่น่าสนใจ
ไม่ได้มีแค่ “จำหน่ายสุราไม่เสียภาษีสรรพสามิต”
3.1 แน่นอน ปัจจุบัน “ยาดองเหล้า” ได้กลายมาเป็นสินค้า เป็นเครื่องดื่ม เปิดขายเป็นซุ้ม ไม่ต่างกับร้านจำหน่ายสุราขนาดมินิ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มคนผู้ใช้แรงงานเป็นหลัก แต่ระยะหลัง ในต่างจังหวัด ก็มีคนหนุ่มสาวจำนวนหนึ่งหันมานิยมอยู่พอสมควร เพราะมีการปรับรูปแบบ เพิ่มสีสัน ตกแต่งร้านให้ดูทันสมัยมากขึ้น
ทำกันเป็นธุรกิจ แสวงหาผลกำไรเข้ากระเป๋าตัวเองเหมือนร้านเหล้าอื่นๆ
เพราะฉะนั้น ผู้จำหน่าย “ยาดองเหล้า” ตามซุ้มต่างๆ ก็ต้องยอมรับความจริงว่า ตนเอง คือ ผู้ค้าขายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จึงต้องยอมรับการกำกับควบคุมตามกฎหมายเช่นกัน
3.2 “ยาดองเหล้า” เป็นการนําเหล้ามาใส่สมุนไพรบางชนิด บางสูตรเป็นตำรับแผนโบราณ และดองไว้ระยะหนึ่ง เพื่อใช้ดื่มเป็นยาตามความเชื่อของชาวบ้าน นิยมกันมากในชนบท สมัยก่อนดองยาไว้ดื่มที่บ้าน แต่ปัจจุบัน “เหล้ายาดอง”ทำเป็นธุรกิจชัดเจน
ยาดองเหล้าที่นิยมกัน เช่น ม้ากระทืบโรง โด่ไม่รู้ล้ม กําลังเสือโคร่ง พญาช้างสารนารีรำพึง หญ้าหน้าหวาน
ผู้ขายยาดองเหล้า หรือซุ้มยาดอง มีกระจายอยู่ในย่านชุมชน ย่านโรงงาน
ในต่างจังหวัด มีทั้งในเขตเทศบาลและนอกเขตเทศบาล
ถ้าไปสำรวจจะพบว่าผู้ขายยาดองเหล้าส่วนใหญ่ไม่มีความรู้ในเรื่องยาดองเหล้า กระบวนการผลิต และขาดความรู้เกี่ยวกับสมุนไพร แต่เปิดขายเพื่อเป็นสุรานั่นเอง
แหล่งผลิตยาดองเหล้า มี 2 รูปแบบ คือ 1.ผู้ขายยาดองเหล้าเป็นผู้ผลิตเอง ขายเองที่ร้านตนเอง ซึ่งอาจเป็นการเลือกสรรหาซื้อสมุนไพรมาต้มเอง หรือซื้อสูตรจากผู้ที่ขายยาดองเหล้าก่อนตนเอง และ 2. ผู้ขายยาดองเหล้าซื้อยาดองเหล้าสําเร็จรูปที่เป็นนํ้ากระสาย หรือผู้ขายเรียกกันว่า “หัวเชื้อ” ซึ่งหมายถึงนํ้ากระสายยาที่ได้จากการสกัดสมุนไพร เช่น การต้มสมุนไพร และยังไม่ได้ผสมเหล้า ซึ่งเห็นในขวดโหลตามร้านยาดองเหล้า และยังพบว่า ปัจจุบันนี้คนนิยมยาดองเหล้าสูตรเย็นมากกว่าสูตรธรรมดาผู้จําหน่ายให้ข้อมูลว่าหัวเชื้อจะไม่ใส่เหล้าไว้ด้วย เพราะสรรพสามิต จะจับ เนื่องจากสรรพสามิตถือว่า เป็นการผลิตสุรา โดยไม่ได้รับอนุญาต
3.3 งานวิจัยเรื่อง “การศึกษาพฤติกรรมผู้ดื่มและผู้ขายยาดองวิถีชุมชนภาคใต้ :กรณีศึกษา เขตชุมชนเมือง จังหวัดสงขลา” โดยนวลตา อาภาคัพภะกุล และคณะมีข้อมูลที่น่าสนใจหลายประการ ยกตัวอย่าง
“ข้อดี-ข้อเสียของการใช้ยาดองเหล้า
ข้อดีของการใช้ยาดองเหล้า
1. เหล้าหรือแอลกอฮอล์ช่วยสกัดสารสําคัญในสมุนไพรออกมา ได้มาเป็นยารักษาโรคได้ตามสรรพคุณของยาที่ใช้ดอง 2. ไม่เปลืองตัวยาสมุนไพรมากเพราะใช้ยาในประมาณที่น้อยแต่สามารถสกัดยาออกมาได้มาก ซึ่งจะส่งผลดีด้านนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมเพราะบางชนิดหายากและใกล้สูญพันธุ์ 3. ช่วยบํารุงร่างกาย เจริญอาหาร4. ช่วยบํารุงสุขภาพและขับสิ่งที่ร่างกายไม่ต้องการออกได้มากกว่ากระบวนการทั่วไปของร่างกายจะทําได้เอง เช่น ขับน้ำคาวปลาในสตรีหลังคลอดบุตร ขับเลือดเสียและช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง เนื่องจากมีประจําเดือน บํารุงนํ้านม เป็นต้น 5.สามารถเก็บไว้ใช้ได้นานประมาณ 1-2 ปี จากนั้นคุณภาพจะเริ่มเสื่อมลง 6. ประโยชน์ทางด้านการค้าและการกระจายรายได้ การซื้อขายยาดองทําให้เกิดอาชีพทางการค้าขึ้นหลายๆ จุด เช่น ศาลายาดอง ซุ้มยาดอง ยาดองข้างถนน เป็นต้น 7. ช่วยอนุรักษ์และต่อยอดภูมิปัญญาด้านยาในวงการแพทย์แผนไทย
ข้อเสียของยาดอง
1. การดื่มยาดองในปริมาณมากๆ จะทําให้เสียสุขภาพ และเสียสถานภาพทางสังคมได้ 2.การดื่มยาดองในประมาณมากจะทําให้เป็นโรคตับแข็ง หรือโรคสุราเรื้อรังได้ เพราะไม่ได้ดื่มในลักษณะของยาแต่ดื่มในลักษณะของการดื่มเหล้า เป็นสาเหตุให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา อาทิ โรคหัวใจ มะเร็ง โรคเกี่ยวกับถุงนํ้าดี ความจําเสื่อม และอื่นๆ อีกมาก
3.ในหญิงหลังคลอดบุตรแม้จะช่วยขับนํ้าคาวปลาและบํารุงนํ้านมก็ตามก็ต้องระมัดระวังด้วย เพราะยังให้นมบุตรอยู่ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเด็กทารกได้ เคยมีรายงานทางการแพทย์ที่ว่ามีทารกที่มีอาการเลือดออกมากผิดปกติในแม่ที่ดื่มยาดองเหล้า เนื่องจากยาบางชนิดที่ใช้ดองนั้นจะมีสารเฮโมไลติก เช่น สารคูมารินเจือปนอยู่ซึ่งทําให้เม็ดเลือดแดงแตกได้
4. ยาดองเหล้าแต่ละสูตรนั้นยังไม่เคยได้รับการวิเคราะห์ทางพิษวิทยา แต่ด้วยอาศัยกินเป็นยาครั้งละ 15 ซีซี หรือ 1 ถ้วยตะไล วันละ 3 ครั้ง เท่านั้นซึ่งเป็นประมาณไม่มาก จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายอย่างเฉียบพลันได้ แต่ในระยะยาวยังไม่มีรายงานนี้ชัดเจน 5. ประเทศไทยยังไม่มีการควบคุมสูตรยาดองที่เป็นมาตรฐานและไม่เป็นอันตราย แต่ใช้ตามสูตรของหมอพื้นบ้านแต่ละท้องถิ่น และดองตามสมุนไพรที่มีในท้องถิ่นนั้นๆ 6. ในทางการค้านั้นยังถือว่ายาดองเหล้าผิดกฎหมายอยู่ ดังนั้นถ้าจะทําเป็นการค้าให้ถูกต้องนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยแก้ไขให้ยาดองเหล้าถูกกฎหมายและมีมาตรฐาน ผ่านการตรวจพิษวิทยาอย่างไรก็ตาม ยาดองก็มีข้อห้ามใช้สําหรับกลุ่มคนต่างๆ ดังนี้คือ - สตรีมีครรภ์ -ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง - ผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน - ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ - ผู้ป่วยที่กําลังมีไข้สูง – ผู้ที่แพ้แอลกอฮอล์...”
ขอสนับสนุนผู้เกี่ยวข้องพิจารณาประเด็นเหล่านี้ทุกมิติ ก่อนหาทางส่งเสริมตำรับสมนุไพรดองเหล้าอย่างถูกที่ถูกทาง เชื่อว่า อาจเป็นหนึ่งในสินค้าที่สร้างชื่อเสียงในระดับโลกด้วยซ้ำ
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี