พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่เข้ามาเป็นกรรมาธิการ ประกาศจะให้ตรวจสอบกรณีทุจริตจัดซื้อรถจักรยานยนต์ไทเกอร์ ในสมัยที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
อดีต ผบ.ตร. ระบุว่า “เขารู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง เขารู้ไหมว่าพูดแค่นี้เขาก็หมิ่นประมาทผมแล้ว เขายังไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายเลยพูดจริงๆ พูดมาก็ผิดแล้ว ไม่มีกฎหมายคุ้มครองเขานะ”
1. เรารู้อะไร เกี่ยวกับการจัดซื้อมอเตอร์ไซค์ไทเกอร์?
การจัดซื้อรถจักรยานยนต์ไทเกอร์ 19,147 คัน มูลค่า 1,144ล้านบาท เกิดขึ้นในยุค พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็น ผบ.ตร. จริงๆ
มีการล็อกสเปก เอื้อประโยชน์ให้เอกชน ทำให้มีผู้ยื่นซองประมูลเพียงรายเดียว และหลังใช้งานไม่นานก็ทยอยเจ๊ง ไม่มีศูนย์บริการและอะไหล่รองรับ กลายเป็นเศษขยะ กองสนิมเหล็ก
ตามโรงพักทั่วประเทศ
ป.ป.ช.มติเอกฉันท์ ชี้มูลความผิดนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อ
แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ได้ถูกชี้มูลความผิด
2. โครงการจัดซื้อรถจักรยานยนต์ยี่ห้อไทเกอร์ ขนาด 200 ซีซี พร้อมอุปกรณ์ทดแทน 19,147 คัน วงเงิน 1,144,550,600 บาท เป็นการจัดหาจักรยานยนต์เพื่อส่งไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปราบปรามฯตามโรงพักทั่วประเทศ 1,447 แห่ง ใช้เป็นพาหนะออกตรวจพื้นที่
โครงการเซ็นสัญญาเมื่อวันที่ 27 ส.ค.2550
ราคากลางตามงบจัดซื้อคันละ 65,000 บาท
จัดซื้อรถจำนวน 19,147 คัน
รวมเป็นเงิน 1,144,550,600 บาท
3. คณะกรรมการ ป.ป.ช.ลงมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ชี้มูลความผิดนายตำรวจระดับนายพล
ข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ และฮั้วประมูล
เรื่องนี้ ป.ป.ช.ชี้มูลไปเมื่อปี 2557 แต่ผู้ถูกกล่าวหา 3-4 คนยื่นร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา ป.ป.ช.ก็นำไปไต่สวนพิจารณา แล้วก็ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาอีกครั้ง ผลปรากฏว่า ยืนยันตามที่ชี้มูลเดิมทุกประการ
ผู้กระทำความผิดที่ถูกชี้มูล อยู่ในคณะกรรมการจัดซื้อ และคณะกรรมการประกวดราคา
นายตำรวจทั้ง 4 นายที่ถูกชี้มูลความผิด ประกอบด้วย พล.ต.ท.ประชิน วารี รองจเรตำรวจ (สบ 9) พล.ต.ต.สมพงษ์ น้าเจริญ พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ และพล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ อดีตคณะกรรมการประกวดราคา
ขณะนี้ ทั้งหมดยังไม่ถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิด
4. พฤติการณ์แห่งคดี ปรากฏว่า โครงการนี้ มีการเปลี่ยนการกำหนดคุณลักษณะรถจักรยานยนต์จากขนาด 150 ซีซี มาเป็นไม่เกิน 200 ซีซี และกำหนดสเปกโรงงานผู้ผลิต
ทำให้มีแต่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อไทเกอร์ รุ่น Boxer200 สามารถเข้าเสนอราคาได้เพียงรายเดียว
โดยที่บริษัทคาร์แทรคกิ้ง จำกัด ไม่มีศูนย์ซ่อมและตัวแทนจำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศ
ในที่สุด ราชการก็เสียหาย เพราะไม่สามารถนำรถจักรยานยนต์ไปซ่อมบำรุงตามสัญญาได้
แถมยังพบด้วยว่า ตัวรถมีปัญหาสารพัน อาทิอัตราเร่งไม่สามารถทำความเร็วได้เท่ากับรถยี่ห้ออื่นในท้องตลาด เป็นต้น
นอกจากนายตำรวจจะถูกชี้มูลแล้ว ผู้บริหารบริษัทเอกชน2 ราย ที่เป็นคู่สัญญาจัดซื้อจัดจ้าง ก็โดนชี้มูลความผิดฐานร่วมกันกระทำการเสนอราคาโดยเอาเปรียบหน่วยงานรัฐ อันมิใช่เป็นในทางประกอบธุรกิจปกติตามมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542
5. การจัดซื้อจัดจ้างนี้ ทำให้ราชการเสียหายร้ายแรง
ที่ร้ายไปกว่านั้น คือ เสื่อมเสียองค์กรสถาบันตำรวจอย่างมาก
เป็นองค์กรผู้ต้องจับโจรผู้ร้าย กับปรากฏกรณีทุจริตประพฤติมิชอบในการจัดซื้อขององค์กรเสียเอง
6. ตัว ผบ.ตร. ขณะนั้น คือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แม้ไม่ได้ถูกชี้มูลความผิด แต่ก็ไม่พ้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์
เพราะถือเป็นผู้บังคับบัญชาที่มีบทบาทสำคัญต่อโครงการ
และในช่วงนั้น ก็มีเสียงท้วงติง วิพากษ์วิจารณ์การดำเนินโครงการ
แต่เหตุใดจึงปล่อยให้การจัดซื้อเดินหน้าต่อไป จนกระทั่งเกิดความเสียหายร้ายแรงในที่สุด
7. น่าเศร้าใจ... เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งว่า พล.ต.ท.ประชิน วารี อดีตรองจเรตำรวจแห่งชาติซึ่งถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดด้วย ได้ยิงตัวเองเสียชีวิตที่บ้านพักย่านนนทบุรี!!!
8. กรณี สส.ปารีณาประกาศว่า จะเสนอให้รื้อคดีขึ้นมาดูอีกครั้ง จึงไม่ใช่เรื่องที่ไร้สาระเสียทีเดียว
ส่วนจะทำได้แค่ไหน อย่างไร นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี