โครงการสร้างบ้านพักพร้อมที่ดินขายให้ทหารที่เบื้องหลังมีผลประโยชน์ค่านายหน้ากลายเป็นชนวนของการก่อเหตุสะเทือนขวัญที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ กว่าจะยุติลงได้กินเวลาเกือบ 18 ชั่วโมง มีผู้เสียชีวิต 30 คน และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 50 คน เป็นเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความสะเทือนขวัญมีผลกระทบทางด้านจิตใจต่อประชาชนในสังคมทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยโดยเฉพาะครอบครัวผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บ
เหตุการณ์สะเทือนขวัญดังกล่าวสื่อต่างๆ ระบุว่าผู้กระทำเป็น “ทหารโหด” บ้าง “จ่าคลั่ง” บ้าง ผู้ก่อเหตุ คือ จ่าสิบเอก
จักรพันธ์ ถมมา สื่อส่วนใหญ่เสนอข่าวพฤติกรรมที่เรียกว่า “โหด” เพราะผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธสงครามยิงทั้งผู้ที่เป็นต้นเหตุและประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก อย่างไรก็ดีเมื่อค้นหาสาเหตุที่เกิดขึ้นจากสื่อก็พบว่าเกิดจาก “โครงการจัดสรรที่ดินสร้างบ้านพักเพื่อขายให้ทหาร” โดยมีสาเหตุจากบุคคลที่เป็น “นายหน้า” ทำหน้าที่เป็นคนกลางในการขายและจัดการจดจำนองให้ผู้ซื้อ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีผู้ซื้อหมดแล้ว โดยผู้ก่อเหตุซื้อบ้านในโครงการสวัสดิการทหาร 1,500,000 บาท และได้ให้นางอนงค์ เป็นคนเดินเรื่องเอกสารและตกแต่งภายใน ซึ่งมีเงินเหลือ 50,000 บาทและได้เอาเงินส่วนนี้ไปให้นายหน้า แต่นายหน้าไม่เอาไปคืนผู้ก่อเหตุ วันเกิดเหตุ นางอนงค์, พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ และผู้ก่อเหตุ ได้มาพูดคุยกัน และถามถึงเงินที่ค้าง นายหน้าเสนอคืนให้ 5 หมื่น แต่ขอกู้นางอนงค์ สุดท้ายเคลียร์ไม่ลงตัว แถมมีคำพูดของพ.อ.อนันต์ฐโรจน์ ที่อาจไปสะกิดใจผู้ก่อเหตุจนเกิดคลั่งขึ้นมาจึงได้ก่อเหตุสลด
อย่างไรก็ดี จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบภาครัฐควรจะนำมาศึกษา โดยเฉพาะแพทย์จิตเวชหาสาเหตุที่แท้จริงว่าการกระทำของผู้ก่อเหตุครั้งนี้นอกจากความโกรธที่ถูกเอารัดเอาเปรียบไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชา แต่ไม่สามารถพึ่งใครได้เพราะเกรงกลัวอิทธิพลจนทำให้เกิด “จิตวิปลาส” คิดว่าสังคมปราศจากความยุติธรรมจึงเกิดโมหะจริตเห็นทุกคนเป็นศัตรูจึงก่อเหตุขึ้นมา ซึ่งกรณีนี้น่าจะทำการวิเคราะห์จากนักจิตเวชหรือนักอาชญาวิทยา โดยหาสาเหตุที่แท้จริงและหาวิธีป้องกันมิให้เกิดได้อย่างไร เพราะสิ่งที่น่ากังวลคือ จะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบเนื่องจากเหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นในต่างประเทศมาแล้วหลายครั้ง และแม้จะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยก็ตาม โดยเฉพาะสังคมปัจจุบันเป็นสังคมที่มีสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปทำให้พฤติกรรมของประชาชนไม่เหมือนสังคมในอดีต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี