ประชาชนที่เป็นชนชาติไทยนั้นมาจากที่ใดกันแน่ เป็นคำถามที่มีการสอบถามกันมานานปีหลายๆ รัฐบาลได้พยายามอธิบายเรื่องนี้ ชาวไท เป็นชื่อเรียกโดยรวมของกลุ่มชาติพันธุ์ที่พูดกลุ่มภาษาไท กระจายตัวอยู่ในภูมิภาคอุษาคเนย์ รับประทานข้าวเจ้าหรือข้าวเหนียวเป็นอาหารหลัก นิยมปลูกเรือนเสาสูง มีใต้ถุน อาศัยทั้งในที่ราบลุ่ม และบนภูเขา ประเพณีศพเป็นวิธีเผาจนเป็นเถ้าแล้วเก็บอัฐิไว้ให้ลูกหลานบูชา ศาสนาดั้งเดิมเป็นศาสนาผี นับถือบรรพบุรุษและบูชาพญาแถน ผีฟ้าหรือเสื้อเมือง มีประเพณีสำคัญคือ ประเพณีสงกรานต์ ซึ่งเป็นประเพณีเฉลิมฉลองวสันตวิษุวัต และการขึ้นปีใหม่ทั้งนี้ คำเรียก ไต เป็นคำที่กลุ่มชนตระกูลไต เช่น ไตแดง ไตดำ ไตขาว ไตเม้ย เป็นต้น และไทใหญ่ใช้เรียกตนเอง
ส่วนไท เป็นคำเดียวกัน แต่เป็นสำเนียงของชาวไทน้อยและไทยสยาม บางครั้ง การใช้คำ ไต-ไท ในวงแคบจะหมายถึงเฉพาะผู้ที่ใช้ภาษาในกลุ่มภาษาไท ไม่รวมกลุ่มภาษากะได เช่น ลักเกีย คำ ต้ง หลี เจียมาว ปัจจุบันมีนักวิชาการประวัติศาสตร์ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเชื่อว่าไทนั้นเป็นชนชาติที่ผสมผสานระหว่างชนชาติไทในสุวรรณภูมิผสมกับชนชาติกลุ่มไทยลาว ไทยเขมร และไทยจากภาคใต้ที่เกิดขึ้นจากอาณาจักรศรีวิชัย
ชาวไทอาศัยอยู่บริเวณจีนตอนใต้ และเขตวัฒนธรรมไท-กะได เป็นที่ยอมรับของนักภาษาศาสตร์ นิรุกติศาสตร์ และประวัติศาสตร์ในปัจจุบันมากที่สุด โดยศาสตราจารย์เก็ดนีย์ เจ้าของทฤษฎีนี้ให้เหตุผลประกอบด้วย ทฤษฎีทางภาษาว่า ภาษาเกิดที่ใด จะมีภาษาท้องถิ่นมากหลายชนิดเกิดขึ้นแถบบริเวณนั้น เพราะอยู่มานานจนแตกต่างกันออกไปแต่ในดินแดนที่ใหม่กว่าภาษาจะไม่ต่างกันมากโดยยกตัวอย่างภาษาอังกฤษบนเกาะอังกฤษมีสำเนียงถิ่นมากและบางถิ่นอาจฟังไม่เข้าใจกันแต่ขณะที่ภาษาอังกฤษในสหรัฐอเมริกานั้นมีสำเนียงถิ่นน้อยมากและพูดฟังเข้าใจกันได้โดยตลอด เปรียบเทียบกับชาวจ้วงในมณฑลกวางสีแม้มีระยะห่างกันเพียง 20 กิโลเมตร บางครั้งก็พูดต่างกัน
แต่ก็แยกสำเนียงถิ่นออกเป็นจ้วงเหนือ และจ้วงใต้ ซึ่งสำเนียงบางคำต่างกันมากและฟังกันไม่รู้เรื่องทั้งหมดขณะที่ภาษาถิ่นในไทย ภาษาไทยกลาง และภาษาถิ่นในลาว กลับฟังเข้าใจกันได้มากกว่า ต้นกำเนิดของชาวไทในรายงานตีพิมพ์เมื่อปี 2547 นักภาษาศาสตร์ Laurent Sagart ตั้งสมมุติฐานว่าภาษาไท-กะไดเริ่มแรกกำเนิดจากภาษาออสโตนีเซียน ซึ่งผู้อพยพนำติดตัวจากไต้หวันไปถึงจีนแผ่นดินใหญ่หลังจากนั้นภาษานี้ก็ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากภาษาพื้นเมืองต่างๆ ตั้งแต่จีน-ทิเบต, ม้ง-เมี่ยน จนถึงตระกูลภาษาอื่นๆ
โดยรับคำศัพท์เข้ามาจำนวนมากและค่อยๆ กลายโครงสร้างภาษามาคล้ายกันปัจจุบันเมื่อไม่นานมานี้กลุ่มคนบางกลุ่มที่พูดภาษาไทได้อพยพไปทางทิศใต้ผ่านเทือกเขาต่างๆ เข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาจจะทันทีโดยการมาถึงของชาวจีนฮั่นไปจีนตอนใต้ มรดกทางภาษาไม่ได้เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับมรดกทางพันธุกรรมเนื่องจากการเปลี่ยนภาษาเมื่อประชากรต่างๆ เรียนรู้ภาษาใหม่ๆ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบโครโมโซมแล้วลักษณะร่วมของกลุ่มผู้พูดภาษาตระกูลไท-ไตคือ Y-DNA haplogroup O1a ซึ่งพบมากในแถบจีนตะวันออกเฉียงใต้ทำให้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่โอกาสในทฤษฎีที่กล่าวว่าคนไทมาจากประเทศจีนตอนใต้นั้นมีความเป็นไปได้มากที่สุดในขณะนี้ การแบ่งประเภท การแบ่งกลุ่มชาวไททำได้หลายวิธี เช่น แบ่งตามวัฒนธรรม แบ่งตามภาษาที่ใช้ และแบ่งตามประเทศในปัจจุบัน
การแบ่งตามวัฒนธรรม เป็นการแบ่งตามหลักมานุษยวิทยา โดยใช้เกณฑ์ด้านวัฒนธรรมและประเพณี ซึ่งสามารถแบ่งได้ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ ไทน้อย ไทใหญ่ และไทยสยาม ตระกูลชาติพันธุ์ไทน้อย หมายถึงกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีถิ่นฐานเดิม อยู่บริเวณฝั่งตะวันออกของแม่น้ำโขงในลาว จนถึงลุ่มแม่น้ำดำ-แดงในเวียดนาม แล้วเลยไปจนถึงตอนใต้ของจีน เอกลักษณ์ตระกูลชาติพันธุ์ไทน้อย คือ มีการปลูกเรือนแบบยาวลึกเข้าไป และไม่มีการเล่นระดับที่ซับซ้อนมาก ในสถาปัตยกรรมขั้นสูงมีการประดับตกแต่งที่ค่อนข้างน้อย เน้นความอ่อนช้อยของศิลปะ แต่เสื้อผ้าอาจจะมีเครื่องประดับมากกว่า โดยกลุ่มชาติพันธุ์ในตระกูลนี้ ได้แก่พวก ไทลาว ไทดำ (ภาษาไทยเรียกว่าลาวโซ่ง ไทขาว ไทแดง ไทพวนภาษาไทยมักจะเรียกว่าลาวพวน ไทฮ่างตง ตูลาว หลี เจียมาว เกลาว ลาติ ลาคัว ลาฮา จาเบียว เบ ไทแสกลาวใช้ไทแซก ลักเกีย คำ สุย มู่หล่าว เมาหนาน ไทญ้อ ภูไท ต้ง จ้วง คัง นุง โท้ เป็นต้น กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีความหลากหลายกว่าไทใหญ่ โดยเฉพาะด้านภาษา ซึ่งมีกลุ่มภาษาทั้ง 3 กลุ่ม รวมถึงภาษากะได ด้วย
ชาติพันธุ์ไทยสยาม หมายถึงกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำยม แม่น้ำน่าน แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำเพชรบุรี เรื่อยไปจนถึงที่ราบลุ่มแม่น้ำพุมดวง-ตาปี ที่ราบลุ่มทะเลสาบสงขลา บริเวณจังหวัดเกาะกงและบริเวณจังหวัดเกาะสอง ไทยสยาม เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีการพูดถึงและถกเถียงเรื่องที่มามากที่สุด ไทยสยาม เป็นชาติพันธุ์ต้นตระกูลของทุกชาติพันธุ์ในตระกูลภาษาไท-กะได แต่ในปัจจุบันนักวิชาการส่วนมากยอมรับแล้วว่า ไทยสยามไม่ใช่ชาติพันธุ์บริสุทธิ์ แต่เป็นชาติพันธุ์ที่มีการผสมผสานกัน
เป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการภายใต้การนำของครูณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ที่มี นายอิทธิพล คุณปลื้ม เป็นรัฐมนตรีว่าการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม ที่มีดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ เป็นรมว. ต้องร่วมกันสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนชาวไทยให้ทราบความจริงต่อไป
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี