เมื่อเวลา 09.30 น. ของเช้าวันที่ 27 พ.ค. 2563 ที่ผ่านมา คณะข้าราชการเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการป.ป.ช.จากกรุงเทพมหานคร จากกองสอบสวน, กองคดีและกองนิติการได้เดินทางไปที่ตั้งของมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ที่อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรีเพื่อขอสอบสวนและสอบปากคำคณะผู้รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ที่มีนายปริวัฒน์วรรณกลาง ทำหน้าที่ผู้รักษาการอธิการบดี ของมหาวิทยาลัย มาตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 2562
การเดินทางของข้าราชการจากสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.ครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5ธ.ค. 2562 นั้น นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่าสมาคมได้รับการร้องเรียนจากบุคลากรภายในมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ว่า หลังจากที่ ม.การกีฬาแห่งชาติ ยกฐานะจากสถาบันการพลศึกษา มาเป็นมหาวิทยาลัยเมื่อ 23 พ.ค. 2562 แล้ว จะต้องมีการสรรหาอธิการบดีและคณะผู้บริหารชุดใหม่ ขึ้นมาทำหน้าที่แทนตามที่กฎหมายกำหนด โดยคณะผู้บริหารชุดเดิม จะทำหน้าที่รักษาการไปจนกว่าจะมีคณะผู้บริหารชุดใหม่เข้ามารับหน้าที่ โดยการปฏิบัติหน้าที่รักษาการพึงต้องกระทำการใดๆ ตามที่กรอบกฎหมายให้อำนาจเท่าที่ทำได้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่ารักษาการอธิการบดี ม.การกีฬาแห่งชาติ กลับกระทำการและใช้อำนาจเสมือนหนึ่งว่าตนเป็นอธิการบดีแล้ว โดยใช้ตำแหน่งอธิการบดีโดยไม่มีคำว่ารักษาการนำหน้าเลย นอกจากนั้นยังมีการใช้อำนาจในการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชฯให้กับผู้ที่มาทำหน้าที่รักษาการโรงเรียนกีฬาต่างๆ ซึ่งขัดต่อหนังสือสั่งการของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยชัดเจน
นอกจากนั้นยังได้มีคำสั่งให้คณะผู้บริหารและพนักงานเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยจำนวนมากเดินทางไปติดตามประเมินผลนักเรียนทุนที่มีความสามารถด้านกีฬาไม่กี่คน ณ ประเทศออสเตรเลีย ในระหว่างวันที่ 12-17 ก.ค. 2562 ซึ่งพบว่าคณะที่เดินทางไปดังกล่าวมีโปรแกรมการดูงานจริงเพียงครึ่งวันเท่านั้นและไม่มีโปรแกรมการไปติดตามและประเมินผลการเรียนของนักเรียนทุนเลย นอกจากเป็นโปรแกรมการทัวร์เที่ยวเล่น กิน ช็อปปิ้ง ถ่ายรูปเซลฟี่มาอวดกัน และผู้ที่ไปร่วมดูงานก็ไม่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจแต่อย่างใด เช่น หัวหน้าสำนักงานรองอธิการบดี นักวิเคราะห์นโยบายและแผนนักวิชาการคอมพิวเตอร์ นักวิเทศสัมพันธ์ เป็นต้น
นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้มีการอนุมัติให้คณะผู้บริหารและบุคคลภายนอกอีก 24 คนได้เดินทางไปดูงานด้านการศึกษาและกีฬากับประเทศในกลุ่มทวีปยุโรป อาทิ รัสเซีย นอร์เวย์และเดนมาร์ก โดยใช้งบประมาณจากภาษีของประชาชนไปเป็นจำนวนมาก โดยมีข้อพิรุธว่า ให้มีการนำสามีของผู้บริหารสถาบันเดินทางไปร่วมดูงานด้วย ทั้งที่มิได้เป็นกรรมการหรือมีตำแหน่งหรือส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับมหาวิทยาลัยหรือสถาบันแต่อย่างใด
กรณีที่เกิดขึ้น จึงเป็นการใช้อำนาจที่อาจเข้าข่ายกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมหรือไม่ จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตาม ม. 234(2) ของรัฐธรรมนูญ 2560 ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความพร้อมพยานหลักฐานไปร้องเรียนกล่าวโทษอธิการบดีม.การกีฬาแห่งชาติ ต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยตามข้อพิรุธดังกล่าวข้างต้น โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันศุกร์ที่ 6 ธ.ค.2562 เวลา 10.30 น. ณ สำนักงาน ป.ป.ช.ถ.สนามบินน้ำ นนทบุรี
มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาตินั้นเป็นสถาบันอุดมศึกษาขนาดใหญ่มากของประเทศไทยอยู่ในความดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แม้ปัจจุบันจะมีจำนวนนักศึกษาไม่มากนักแต่มีขอบเขตทั่วประเทศถึง 18 วิทยาเขต ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี,ปทุมธานี, สมุทรสาคร, อ่างทอง, สุพรรณบุรี,ลำปาง, สุโขทัย, เชียงใหม่, เพชรบูรณ์, อุดรธานี, ชัยภูมิ, ศรีสะเกษ, มหาสารคาม,กระบี่, ชุมพร, ตรัง และยะลา นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนกีฬาอยู่ในความดูแลที่จังหวัดชลบุรี,นครนายก, สุพรรณบุรี, อ่างทอง, เชียงใหม่, ลำปาง, นครสวรรค์, ศรีสะเกษ, ขอนแก่น, อุบลราชธานี, ตรัง, นครศรีธรรมราช และยะลา
เชื่อว่าการดำเนินการสอบสวนคณะผู้บริหารของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ครั้งนี้คงดำเนินการไปด้วยความละเอียดรอบคอบและรวดเร็วตามหลักฐานที่เจ้าหน้าที่มีซึ่งหากข้าราชการในมหาวิทยาลัยผู้ใดมีหลักฐานเพิ่มเติมสามารถส่งไปที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.พร้อมนี้ทางนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการ ป.ป.ช.อย่างเต็มที่เพื่อความโปร่งใสและเป็นธรรม
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี