กรณียิงกันสนั่นในบ่อนพระราม ๓ บ่อนขนาดใหญ่ของผู้มีอิทธิพล “เฮียตี้” มีคนเสียชีวิตทันที ๔ ศพ และบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง
ก่อให้เกิดคำถามอื้ออึงว่า ทำไมประเทศไทยจึงมีบ่อนเถื่อนเกิดขึ้นจำนวนมากเกือบทุกจังหวัด แม้ในกรุงเทพมหานครก็มีจำนวนเป็นร้อยบ่อน
หากจะวิเคราะห์ถึงสาเหตุก็อาจจะเป็นเพราะว่า
๑. เป็นเพราะคนไทยจำนวนไม่น้อยมีใจชอบในการพนัน เมื่อมีความต้องการเล่นพนันก็จะมีการตอบสนองด้วยบ่อนการพนันเถื่อนแม้จะผิดกฎหมาย
๒. ประเทศไทยมีกฎหมายห้ามตั้งบ่อน แต่การบังคับใช้กฎหมายอยู่ในมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความโลภหาประโยชน์ใส่ตัวและพวกพ้อง
๓. ผู้ที่มีอิทธิพลไม่ว่าจะด้วยเงินหรือปืนหรือด้วยอำนาจตามกฎหมาย ก็ฉวยโอกาสสร้างรายได้ให้กับตน โดยการเปิดบ่อนเถื่อน แล้วแบ่งรายได้ผลประโยชน์ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทำไมคนไทยนิยมเล่นการพนัน
สังคมไทยอยู่ในระบบอุปถัมภ์ที่มีคนจำนวนหนึ่งหวังจะร่ำรวยทางลัด รวยง่ายโดยไม่ต้องทำงานหนัก แม้จะรู้ว่าการเล่นการพนันรวมถึงการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ผู้เล่นจะเสียเปรียบเพราะผลตอบแทนต่ำกว่าโอกาสที่จะชนะหรือถูกรางวัล
ผู้เล่นมักจะสร้างความฝัน มองโลกในแง่ดีว่ายังมีโอกาสที่จะถูกรางวัลหรือจะชนะ
ผู้เล่นจำนวนมากรู้ดีว่า การประกอบอาชีพทำการงานของเขามีความยากลำบาก โอกาสที่จะประสบความสำเร็จร่ำรวยจะน้อยยิ่งกว่าการพนัน จึงหวังเสี่ยงโชคเผื่อฟลุค และมักจะคิดว่าดวงหรือจะมีสิ่งดลบันดาลอุปถัมภ์ให้สามารถร่ำรวยได้ในพริบตา
หากสังเกตจากภาพยนตร์ไทยที่สุดยอดฮิตติดตลาดมาเป็นเวลาช้านาน คือ เรื่องบ้านทรายทอง ที่มี
ผู้สร้างภาพยนตร์ซ้ำหลายครั้งก็ยังมีคนดูหนาแน่น เพราะคนดูจะแทนตัวเองกับ พจมาน สว่างวงศ์ นางเอกผู้ยากไร้ พล็อตของเรื่องสร้างให้ทันใดพบพินัยกรรมระบุว่าเธอเป็นลูกท่านเจ้าคุณที่มาไข่ทิ้งไว้กับแม่ที่เป็น
ชาวบ้าน และได้รับมรดกเป็นเจ้าของบ้านทรายทอง
คนดูจะพึงพอใจแทนพจมานที่สามารถร่ำรวยได้ข้ามคืน ประดุจถูกรางวัลหรือชนะการพนัน
ทั้งหมดนี้สะท้อนสังคมที่มีความเหลื่อมล้ำเอารัดเอาเปรียบ ชาวบ้านขาดโอกาส และมีความยากลำบากที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน ของตนตามปกติ
กฎหมายห้ามตั้งบ่อนมีความเหมาะสมหรือไม่
การพนันทุกชนิดไม่ก่อให้เกิดผลิตผลในสินค้าและบริการ เป็นเพียงการโอนเงินจากผู้เล่นการพนันคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งเท่านั้น
จึงไม่สามารถนับรวมเป็นรายได้ประชาชาติแต่กลับจะทำให้ผลิตภาพและผลิตผลความสามารถของประเทศลดลง เพราะผู้เล่นการพนันจะสูญเสียเวลาและความสามารถในการพัฒนาตนเอง
พุทธศาสนาจึงกำหนดให้การพนันเป็นอบายมุขที่ควรละเว้น การพนันเป็นตัวสร้างกิเลสให้พอกพูน เพราะเมื่อเล่นได้ก็อยากได้มากขึ้นอีก เมื่อเล่นเสียก็อยากจะได้คืน จึงติดพันโรมรันพันตูอยู่กับกิจกรรมที่ไม่สร้างสรรค์
สุดท้าย เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา เป็นหนี้เป็นสินเป็นบ่อเกิดของการลักขโมยจี้ปล้น ใช้ความรุนแรงดังที่ปรากฏการฆ่ากันตายที่บ่อนเฮียตี้ พระราม ๓ และในที่อื่นๆ
สังคมจึงกำหนดให้การพนันเป็นกิจกรรมที่ไม่พึงปรารถนา มีกฎหมายห้ามไม่ให้เปิดบ่อนกาสิโน
สังเกตเห็นได้ว่า ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ จึงไม่สบายใจที่จะพบลูกของตนไปมีคู่ครอง แต่งงานกับนักเล่นการพนัน
ตำรวจกับการบังคับใช้กฎหมาย
เป็นที่รู้กันอยู่ทั่วไปว่าตำรวจไทย เลือกจะไม่บังคับใช้กฎหมายแต่หาผลประโยชน์จากกฎหมายที่ห้ามมิให้มีบ่อน แปลงข้อห้ามทางกฎหมายเป็นสินทรัพย์หาประโยชน์ใส่ตน และนายบ่อน
ตำรวจไทยจึงมีรายได้จากส่วยที่มาจากบ่อนการพนันและซ่องโสเภณีอย่างเป็นกอบเป็นกำ ถึงกับมีระบบการจัดสรรแบ่งปันรายได้เป็นรายเดือนให้กับตำรวจในชั้นยศต่างๆ
ข้ออ้างของตำรวจที่ว่าไม่รู้ว่ามีบ่อนในพื้นที่ของตน เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น เพราะขณะประชาชนคนเล่นและผู้อยู่อาศัยในบริเวณบ่อนต่างรู้ดีว่ามีบ่อนอยู่ที่ใดบ้าง กรณียิงกันตายที่บ่อนเฮียตี้ พระราม ๓ ก็เป็นหลักฐานที่บอกว่าตำรวจได้เข้าไปเล่นการพนันในบ่อนเถื่อนดังกล่าวเสียเอง
บ่อนกับทางออก
๑. มีผู้เสนอให้การแก้ไขปัญหาบ่อนเถื่อน คือ ให้เปิดบ่อนได้อย่างเสรี ขอตั้งข้อสังเกตว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นข้อเสนอที่สิ้นคิด
เพราะเหมือนกับเป็นผู้จนปัญญา เมื่อมีบ่อนผิดกฎหมายก็แก้กฎหมายทำให้มันถูก ผลเสียผลกระทบทั้งหลายจะเป็นอย่างไรก็ไม่พูดถึง อ้างแต่ข้อดีที่จะได้ดูดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ทั้งๆที่ก็อ้างว่าต่างชาติเขาก็มีบ่อนกาสิโนของเขาอยู่แล้ว คนต่างชาติคงไม่รอนแรมมาเล่นการพนันและในที่สุดก็จะกลายเป็นบ่อนที่ถูกกฎหมายสำหรับคนไทยนั่นเอง
๒. รัฐจะต้องปรับโครงสร้างเพื่อลดความเหลื่อมล้ำกระจายโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถมีความหวังในชีวิตกับการประกอบสัมมาชีพ ให้เห็นว่าการประกอบการงานด้วยความมานะอุตสาหะ สามารถจะประสบความสำเร็จได้
รัฐจะต้องขจัดการผูกขาด กระจายโอกาสในการทำมาหากิน กระจายโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีและทรัพยากรธรรมชาติ ให้กับคนทั่วไป
ผู้คนจะได้ไม่หันไปหวังกับการพนันที่จะมีโอกาสลมๆแล้งๆ
๓. จะต้องปรับโครงสร้างตำรวจของไทยครั้งใหญ่ อย่างจริงจัง โดยไม่ต้องหวั่นเกรงอิทธิพลและผลประโยชน์ของตำรวจที่รวมศูนย์อยู่ส่วนกลาง
๓.๑ ลดขนาดของตำรวจให้เล็กลงเฉพาะที่ทำหน้าที่ตำรวจอย่างแท้จริงเท่านั้น ถ่ายโอนหน่วยงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการตำรวจ เช่น ตำรวจทางหลวง ตำรวจ รถไฟ ตำรวจน้ำ และอื่นๆ ให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเฉกเช่น ตำรวจดับเพลิงที่เคยโอนให้กับท้องถิ่น
๓.๒ สร้างตำรวจให้เป็นคนของประชาชน อยู่ร่วมกับประชาชนในท้องถิ่น ไม่ใช่เป็นตำรวจที่รวมศูนย์ส่วนกลาง และส่วนกลางส่งไปครองอำนาจในจังหวัดต่างๆ เมื่อตำรวจกระทำความผิด ส่วนกลางก็โยกย้ายตำรวจที่เลวจากจังหวัดหนึ่งไปอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง
ทั้งนี้จะต้องให้ตำรวจตรงขึ้นอยู่กับจังหวัด เป็นตำรวจที่อยู่ใกล้ชิดประชาชน คัดและเลือกจากจังหวัด หากทำความผิดไม่สามารถโยกย้ายไปที่อื่นได้ แต่ต้องพ้นจากอาชีพตำรวจ
ขณะเดียวกันต้องให้ชุมชนท้องถิ่น มีส่วนร่วมในการกำกับตรวจสอบตำรวจของเขา
๓.๓ ต้องแยกอำนาจการสอบสวนออกจากตำรวจ จะได้เกิดการคานและดุลในอำนาจ มิใช่ให้ตำรวจเป็น
ผู้จับกุมเอง สอบสวนเอง ดำเนินคดีหรือสั่งไม่ฟ้องเอง
๓.๔ เพื่อให้ตำรวจไม่แปลกแยก แต่เป็นตำรวจของประชาชน ตำรวจควรมีเครื่องแบบแต่ไม่ควรมีชั้นยศเหมือนทหาร
เครื่องแบบของตำรวจควรมีเครื่องหมายที่บอกหน้าที่ว่าทำหน้าที่อะไร ไม่มีความจำเป็นต้องแต่งเครื่องแบบมีชั้นยศ รวมศูนย์สั่งการจากส่วนกลางเหมือนทหาร
๓.๕ มีตำรวจส่วนกลางที่ทำหน้าที่ดำเนินคดีกับคดีที่เกิดข้ามจังหวัด และดำเนินคดีกับตำรวจท้องถิ่นที่กระทำผิด ละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หาประโยชน์ใส่ตนดั่งเช่นที่เกิดกับตำรวจในปัจจุบัน
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อไม่ให้ตำรวจและบ่อน ทำลายประเทศไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี