การปกครองบ้านเมืองนั้น แม้ “โอกาสจะอำนวย” ให้ แต่ถ้า “ไม่ต้องด้วยใจคน” แล้ว ผู้ปกครองก็ปกครองไม่ได้ เพราะประชาชนไม่ยอมให้ปกครอง ไม่ว่าจะมีอำนาจมากมายเท่าไหนอำนาจที่ได้มาเพราะโอกาสอำนวยให้นั้น ไม่ใช่คำตอบว่าจะอยู่ได้นานและราบรื่น เพราะแท้จริงแล้วอำนาจนั้นอยู่ที่ประชาชนเชื่อถือ ถ้าประชาชนไม่เชื่อถือเสียแล้ว ไม่ว่าใครก็อยู่ไม่ได้ทั้งสิ้น และคงต้องจบลงเร็วเหมือนเห็นผีพุ่งไต้ที่ปรากฏให้เห็นบทท้องฟ้าเพียงวาบเดียวนั่นเอง นี่เป็นความจริงที่เคยเกิดขึ้นให้เห็นมาแล้วในหลายๆ ประเทศ รวมทั้งในประเทศไทยของเราเอง
ปมเงื่อนสำคัญของความล้มเหลวในการปกครองบ้านเมืองนั้น อยู่ที่หมู่คณะของผู้ปกครองว่าเป็นอย่างไร ได้รับความเชื่อถือในความซื่อสัตย์สุจริตมากน้อยแค่ไหน มีจิตใจเสียสละเพื่อทำงานให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและรักประชาชนอย่างจริงใจมากน้อยแค่ไหน แม้กระทั่งการรู้จักแยกแยะความผิดความถูกในการจัดการบริหารปกครองเพื่อให้เกิดความสงบสุขและเรียบร้อย ว่ามีหรือไม่ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้แหละเป็นบ่อเกิดสำคัญของคำว่า “ต้องด้วยใจคน” หรือ “ไม่ต้องด้วยใจคน”
บ้านเมืองวุ่นวายเกิดทะเลาะเบาะแว้งกันในหมู่ประชาชน ก็ต้องรู้จักแยกแยะออกว่ากลุ่มไหนมีพฤติกรรมในการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ซึ่งจะต้องจัดการให้ถูกที่ถูกทางและถูกคน ขาวก็ต้องเป็นขาว ดำก็ต้องเป็นดำ จะทำขาวให้เป็นดำ หรือ ทำดำให้เป็นขาวไม่ได้ ไม่ใช่ “วิน-วิน” หรือ “หยวน-หยวน”โดยไม่ฝักใฝ่ฝายหนึ่งฝ่ายใดแล้วบอกว่าตัวเองเป็นกลาง ตัวเองต้องการความสมานฉันท์
ความเป็นกลางระหว่างความดีกับความชั่วนั้นไม่มี แต่การวางตัวเป็นคนกลางเพื่อตัดสินความ ระหว่างคนดีหรือความดี กับ คนเลวหรือความเลวนั้น มีได้ เพราะความเป็นกลางนั้นเป็นคนละเรื่องกับความยุติธรรม
ความยุติธรรมต้องยุติโดยธรรม
ความสมานฉันท์ก็เช่นเดียวกัน ไม่ใช่ถือความเป็นกลางเป็นหลักอย่างเดียว โดยไม่คำนึงว่า ถูกก็คือถูกผิดก็คือผิด และต้องได้รับผลแห่งการกระทำนั้นก่อน ไม่ใช่พลิกผันกลบเกลื่อนให้เลวให้ชั่วกลับกลายเป็นฝ่ายไม่ผิด แล้วยุติลงอย่างมืดๆ มัวๆ เป็นอันว่าสมานฉันท์กันแล้ว ซึ่งการกระทำอย่างนี้ไม่ใช่สมานฉันท์
เพราะเป็นเพียงแค่เอาคนผิดคนเลว มาจับมือกันคนถูกคนดี แล้วยกเลิก ซึ่งการทำอย่างนี้ไม่ใช่ สมานฉันท์
หากจะให้เกิดความสมานฉันท์ด้วยการให้คนดีได้ช่วยฉุด ช่วยผลักดัน หรือช่วยดึงคนไม่ดีหรือคนเลวให้ได้มีโอกาสสำนึกและกลับเนื้อกลับตัวเสียใหม่ มีจิตสำนึกดีขึ้น มีคุณธรรมขึ้น เพื่อร่วมสร้างสรรค์บ้านเมืองหรือสังคมให้เกิดความสงบสุข โดยที่คนดียังคงดำรงอยู่ได้ อย่างนี้จึงจะเรียกว่าสร้างความสมานฉันท์
อย่าเที่ยวเต้นแร้งเต้นการ้องรำทำเพลง ตะโกนหาความปรองดองหรือความสมานฉันท์ไปให้เสียเวลาน่าหัวร่อเลย แม้กระทั่งความพยายามที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ก็ตาม ไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องในการแก้ไขปัญหา
คำกล่าวที่คนไทยแบ่งสีทะเลาะกันก็เช่นเดียวกัน ชอบพูดกันนักว่าสีเหลืองกับสีแดงทะเลาะกัน โดยไม่แยกแยะความเป็นมาของเรื่องนี้ ว่าสีเหลืองนั้นได้ปรากฏให้เห็นเต็มบ้านเต็มเมือง เต็มท้องถนนราชดำเนิน แน่นขนัดทั้งลานพระบรมรูปทรงม้ายาวเหยียดไปตามท้องถนนสุดลูกหูลูกตาในวันพระราชสมภพของในหลวง โดยเฉพาะในวันเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีที่ทรง
ครองราชย์ รวมทั้งในต่างจังหวัดทุกแห่ง
คนไทยใส่เสื้อสีเหลือง เป็นสีของวันจันทร์ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพของในหลวง เป็นวันพ่อที่คนไทยทั้งชาติให้ความสำคัญยิ่ง ต่างออกมายืนเปล่งเสียงถวายพระพรกันทั่วทั้งแผ่นดิน ซึ่งจากวันนั้นมาสีเหลืองก็เป็นสีฟีเว่อร์ไปทั่ว ในขณะที่สีแดงอันเป็นต้นวิกฤติอย่างสุดๆ ของบ้านเมืองยังไม่ปรากฏ
สีแดงปรากฏพร้อมๆ กับคำจาบจ้วง
ไล่ตีไล่ทำร้ายคนใส่เสื้อเหลืองในทุกที่ทุกแห่งที่มีการชุมนุม เป็นที่รู้กันดีไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าสีเหลืองกับสีแดงใครหาเรื่องก่อนใคร และใครทำเพื่ออะไร เพื่อใคร
การพูดว่าบ้านเมืองวุ่นวายทะเลาะเบาะแว้งกันไม่เลิก ก็เพราะสีเหลืองสีแดงนี่แหละ จึงเป็นคำพูดของการไม่รู้จักแยกแยะว่าอะไรเป็นอะไรใครเป็นผู้สร้างปัญหาหรือก่อปัญหา พูดเหมารวมกันไปหมดอย่างนี้เป็นการพูดที่ไม่คิด แยกมิตรแยกศัตรูไม่ออก ทั้งยังผลักมิตรไปเป็นศัตรูเสียอีกอย่างที่เคยพูดมาให้ฟังแล้ว
ความรู้สึกที่ดีของประชาชนที่มีต่อการทำรัฐประหารในระยะแรกๆ จึงมีทิศทางไปในทางบวกกับคณะรัฐประหาร แต่ก็เป็นไปในช่วงสั้นๆ เท่านั้น เพราะในขณะนี้ความรู้สึกดังกล่าวกำลังตีกลับไปทางด้านลบ ความอึดอัดใจและความไม่พอใจกำลังสะสมขึ้นเรื่อยๆ เหมือนหม้อน้ำที่กำลังจะเริ่มเดือด เพราะจากเหตุต่างๆ ของการใช้อำนาจของผู้กำลังมีอำนาจทั้งหลายที่ได้มาจากการรัฐประหาร
ยังมีเรื่องที่จะกล่าวถึงอีกมากในคราวหน้า
(อ่านต่อวันศุกร์)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี