ม็อบฮ่องกงที่เป็นข่าวครึกโครมต่อเนื่องมาเป็นเวลาปีเศษได้สิ้นสุดลงแทบจะสิ้นเชิงแล้ว หลังจากจีนออกกฎหมายความมั่นคงขยายอธิปไตยในการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงของจีนครอบคลุมทั่วฮ่องกง

ให้ฮ่องกงดำเนินงานบริหารจัดการและด้านเศรษฐกิจตามระบบเดิมต่อไป แต่ในด้านความมั่นคงเอกราชอธิปไตยและผลประโยชน์แห่งชาติเป็นอำนาจสิทธิขาดของประเทศจีนทำให้ทฤษฎีหนึ่งประเทศ สองระบบ ปรากฏเป็นจริงอย่างสมบูรณ์

มหาอำนาจนักล่าอาณานิคมที่หวังจะยึดฮ่องกงกลับเป็นอาณานิคมตามเดิมโดยใช้ม็อบฮ่องกงเป็นเครื่องมือ กระทั่งเคลื่อนแสนยานุภาพครั้งใหญ่ที่สุดเพื่อกดดันจีนไม่ให้ออกกฎหมายความมั่นคงถึงสามครั้งสามหนแต่กลับไม่ได้ผล จีนยังคงเดินหน้าปฏิบัติการเพื่อรักษาเอกราชอธิปไตยและผลประโยชน์ของจีนอย่างเด็ดเดี่ยว โดยแสดงท่าทีพร้อมที่จะเข้าทำสงครามกับชาติใดก็ได้ที่ละเมิดอธิปไตยของจีน

จากนั้นจีนก็ได้ส่งทั้งกำลังทหารและหน่วยงานด้านความมั่นคงสาธารณะของจีนเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายความมั่นคงอย่างเต็มรูปแบบ ส่วนในเรื่องบริหารจัดการและด้านเศรษฐกิจการเงินการคลังก็เป็นไปตามระบบเดิม

ทำให้เห็นรูปโฉมอย่างสมบูรณ์ของทฤษฎีหนึ่งประเทศสองระบบอย่างชัดเจนที่สุดนับตั้งแต่ เติ้ง เสี่ยว ผิง ได้ริเริ่มนำเสนอทฤษฎีนี้ในการรวมชาติ ซึ่งแน่นอนว่าอีกไม่นานสภาพเดียวกันนี้คงจะเกิดขึ้นกับไต้หวัน ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญในการรวมชาติจีนตามเจตนารมณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและชาวจีนทั้งชาติ ซึ่งแน่นอนว่ารวมถึงชาวไต้หวันด้วย

ภารกิจดังกล่าวนี้น่าจะเสร็จสิ้นลงในช่วงเวลาที่ประธานสี จิ้น ผิง เป็นผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนค่อนข้างจะแน่นอนชัดเจนแล้ว และยิ่งไต้หวันทำตัวเป็นฐานทัพให้กับต่างชาติเข้าลักษณะเป็นการขายชาติและทรยศชาติจึงย่อมถูกต่อต้านจากประชาชนจีนบนเกาะไต้หวัน และเพิ่มความชอบธรรมให้แก่จีนในการรวมชาติด้วยแสนยานุภาพ ซึ่งขณะนี้ท่าทีก็ชัดเจนแล้วว่าสิ่งที่ไต้หวันดำเนินการอยู่นั้นได้เลยเส้นแดงของการรวมชาติโดยสันติไปแล้ว

ในระหว่างการเคลื่อนไหวเพื่อยึดครองฮ่องกงตามรูปแบบที่นักล่าอาณานิคมได้กำหนดขึ้น ได้มีการให้คำมั่นสัญญาทั้งโดยทางสาธารณะและโดยส่วนบุคคลอย่างชัดเจนว่า ถ้ามาตรแม้นบรรดาแกนนำหรือผู้คนที่เข้าร่วมม็อบฮ่องกงถูกใช้ความรุนแรงไม่ว่าด้วยประการใดๆ จากฮ่องกงหรือจากจีน มหาอำนาจนักล่าอาณานิคมก็พร้อมเข้าแทรกแซงช่วยเหลือเพื่อพิทักษ์ไว้ซึ่งประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนอันเป็นข้ออ้างผายลมของนักล่าอาณานิคม

ทำให้แกนนำม็อบฮ่องกงและบรรดาผู้สนับสนุน ตลอดจนผู้เข้าร่วมทั้งหลายพากันดีใจได้ปลื้ม แสดงความมั่นอกมั่นใจไชโยโห่ฮิ้วกันเป็นการใหญ่ เหิมเกริมถึงขนาดนำธงชาติของทั้งสหรัฐและอังกฤษออกมาโบกนำขบวนและเรียกร้องอย่างเปิดเผยหลายครั้งให้อังกฤษและสหรัฐเข้ามาปกครองฮ่องกงแทนจีน

ชาวจีนทั้งประเทศและชาวโลกพากันแปลกประหลาดใจว่าม็อบฮ่องกงนั้นกลายพันธุ์เป็นอะไรไปหรืออย่างไร เพราะถ้าหากเป็นคนฮ่องกงมีจิตวิญญาณเป็นคนฮ่องกงไหนเลยที่จะประกาศเรียกร้องให้ชาติอื่นเข้ามาเป็นเจ้าเข้าครองเหมือนกับม็อบฮ่องกงได้ดำเนินการ

ปรากฏว่าแทนที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น กลับเป็นที่ขยะแขยงของชาวฮ่องกงส่วนใหญ่และพากันถอนตัวออกจากการสนับสนุนม็อบฮ่องกง ทำให้ม็อบอ่อนแรงเปลี้ยลงโดยลำดับ แม้ว่าจะได้รับการอัดฉีดเต็มขนาดสักเท่าใดก็ตาม และแม้ว่าจะมีการใช้เจ้าหน้าที่ที่ชำนาญงานเรื่องนี้จากหลายแหล่งทั่วโลกเข้ามาช่วยขับเคลื่อนก็ไม่ได้ผล

จนกระทั่งจีนเข้าปฏิบัติการด้านความมั่นคงในฮ่องกงเต็มรูปแบบ ได้ทำการขับไล่บรรดาสปายสายลับและผู้สื่อข่าวจำแลงต่างๆ ที่เป็นคนต่างชาติออกนอกประเทศ ทำการยึดอายัดเงินที่มีการส่งเขามาเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้ป่วนฮ่องกง และติดตามจับกุมบรรดาแกนนำและผู้สนับสนุนทั้งหมดอย่างเข้มงวด ในที่สุดฮ่องกงก็กลับคืนสู่ความเป็นปกติ

ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าม็อบฮ่องกงที่อ้างว่าเป็นม็อบที่เคลื่อนไหวโดยสงบสันติและไม่มีแกนนำ ไม่มีใครหนุนหลังนั้น แท้จริงแล้วก็เป็นแค่สุนัขรับจ้างของต่างชาติ ที่บังอาจประกาศตนเป็นคนขายชาติอย่างไม่มีความละอายของความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่อีกเลย

มาถึงวันนี้คนเหล่านั้นก็หลบหนีกันจ้าละหวั่นที่หนีได้ก็หนีไป ซึ่งกำลังถูกตามไล่ล่าอย่างไม่ละเว้น พวกที่หนีไม่ได้ก็ถูกจับกุม ส่วนบรรดาพวกที่ได้รับคำมั่นสัญญาไว้จากต่างชาติก็วิ่งเข้าไปลี้ภัยในสถานทูตที่เคยรับปากรับคำกันไว้ แต่ปรากฏว่าพอเอาเข้าจริงสถานทูตของนักล่าอาณานิคมก็ไม่กล้ารับ เพราะภาพลักษณ์อาชญากรจะปรากฏให้ชาวโลกเห็นอย่างหนึ่ง และเห็นว่าเรื่องอะไรจะเอาลูกเขามาเลี้ยงเอาเมี่ยงเขามาอมให้เสียข้าวสุกเปลืองข้าวสารหาประโยชน์อันใดมิได้ คนแบบนี้ถ้าเป็นสมัยก่อนก็ต้องตัดหัวเสียบประจานอย่างเดียวเท่านั้น

บางพวกก็ทำหนังสือขอลี้ภัยไปยังประเทศที่เคยให้คำมั่นสัญญาไว้แต่ปรากฏว่าไม่มีประเทศไหนกล้ายอมรับ เพราะเป็นวิสัยโลกที่คนขายชาติและคนทรยศชาตินั้นย่อมเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ของคนทั้งโลก แล้วเรื่องอะไรจะหาเหามาใส่หัว

ดังนั้นชะตากรรมและแกนนำผู้สนับสนุนม็อบฮ่องกงจึงเป็นดังที่เห็นอยู่นี้ และควรที่จะได้ถือเอาเป็นบทเรียนของบรรดาม็อบล้มเจ้าในประเทศไทยด้วยว่าอย่าหลงนับถือนักล่าอาณานิคมเป็นพ่อเลย พวกนั้นเป็นที่พึ่งอันใดไม่ได้ และควรทำความรู้ขึ้นในใจให้ได้ว่าถ้าทำตัวเป็นคนขายชาติคนทรยศชาติแล้วอย่าว่าแต่ชาติอื่นใดเลย แม้คนในชาติเดียวกันก็จะถูกรังเกียจเหยียดหยาม

จะเดินหน้าต่อไป หรือจะถอนตัวกลับมาเป็นพสกนิกรของพระราชอาณาจักรไทย อยู่ในครอบครัวที่มีพระเจ้าแผ่นดินพระองค์เดียวกันอย่างร่มเย็นเป็นสุขดังแต่ก่อนจะไม่ดีกว่าหรือ