สัปดาห์นี้ ผมตั้งใจจะเขียนเรื่องผลการเลือกตั้งอเมริกา รอจนกระทั่ง 5 โมงเย็น วันพุธ ตามเวลาประเทศไทย ยังประกาศไม่ได้เพราะมี 6 รัฐ ที่ยังนับคะแนนไม่เสร็จ
1.แอริโซนา ไบเดนนำ
2.เนวาดา ไบเดนนำ
3.วิสคอนซิน ทรัมป์นำ
4.มิชิแกน ทรัมป์นำ
5.เพนซิลเวเนีย ทรัมป์นำ
6.จอร์เจีย ก็ยังไม่แน่นอน ไบเดนตีตื้นขึ้นมามาก
การนับคะแนนปีนี้มีปัญหามากเพราะโควิด-19 มีผู้ลงคะแนนล่วงหน้าทางไปรษณีย์และลงด้วยตนเองกว่า 90 ล้านคน เพราะกลัวติดโควิด-19 จึงใช้เวลานับคะแนนนานกว่าการเลือกตั้งทุกๆครั้ง
ก่อนอื่นผมประหลาดใจความเก่งของทรัมป์ได้คะแนนมากกว่าที่คิดไว้ เพราะจากการศึกษาโพลล์ต่างๆ คาดไว้ว่า จะมีรัฐเป็นตัวแปร 9 รัฐคือ
1.แอริโซนา
2.นอร์ทแคโรไลนา
3.โอไฮโอ
4.เพนซิลเวเนีย
5.เท็กซัส
6.ฟลอริดา
7.จอร์เจีย
8.วิสคอนซิน
9.มิชิแกน
จากการวิเคราะห์โพลล์หลายสำนักคาดว่า ไบเดนจะมีโอกาสชนะส่วนใหญ่ จะสูสี มีรัฐโอไฮโอ เท็กซัส จอร์เจีย
แต่พอนับคะแนนจริงๆ เห็นว่า คะแนนของทรัมป์ไม่เป็นรองไบเดนและชนะหลายรัฐ เช่น ฟลอริดา นอร์ทแคโรไลนา เท็กซัสและจอร์เจีย ยังมีคะแนนนำใน 3 รัฐที่ยังนับไม่เสร็จคือ วิสคอนซิน มิชิแกน และเพนซิลเวเนีย
ถึงจะผลยังไม่ออกก็คาดว่า คะแนนของทรัมป์ดีกว่าที่คาดไว้มาก และถ้าเขาชนะ 2 ใน 3 ของรัฐที่เหลือ คือ วิสคอนซิน มิชิแกน และเพนซิลเวเนีย เขาก็จะได้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2
ถ้าวิเคราะห์สาเหตุที่ทรัมป์ได้คะแนนมากกว่าที่คาดไว้
ประเด็นแรกคือ วิเคราะห์จากโพลล์ต่างๆ น่าจะมีสิ่งที่ไม่ถูกต้องผมคาดว่า คนที่ลงให้ทรัมป์อาจพูดไม่จริง ตั้งใจโกหกทำให้โพลล์ไม่ถูกต้อง คือวางแผนไว้ก่อน เพื่อหลอกให้คู่แข่งตายใจ เพราะรัฐมิชิแกน เพนซิลเวเนียและวิสคอนซิน คะแนนโพลล์ล่าสุด 1 วันก่อนเลือกตั้ง ทรัมป์ตามอยู่เฉลี่ยกว่า 5-6% ในทุกรัฐที่กล่าวมา
ถ้าดูทิศทางที่ทรัมป์เคยชนะฮิลลารี โพลล์บอกว่า ฮิลลารีนำแต่ไม่มาก ทรัมป์คะแนนตามหลังฮิลลารีแต่พอใกล้ๆ คะแนนทรัมป์ก็เริ่มดีขึ้น ใน 10 วันก่อนเลือกตั้ง ฮิลลารีถูกเอฟบีไอแจ้งข้อหาว่า นำอีเมลส่วนตัวมาใช้งานทางการ ทำให้เก็บความลับไม่ได้ฮิลลารีจึงเสียคะแนนไปมาก
แต่ในกรณีของไบเดน ก่อนการเลือกตั้ง ไม่มีเหตุการณ์ที่เลวร้ายกระทบ คะแนนนิยมของไบเดนก็ยังสูงอยู่ก่อนเลือกตั้ง
อีกประการ ในความเห็นของผม น่าจะเป็นวิธีการหาเสียงของทรัมป์ที่ทำแบบเดิมก่อนโควิด-19 คือ ทำกลางแจ้ง มีคนมาจำนวนมากไม่กลัวว่า คนจะติดโควิด-19 ไม่ใส่หน้ากากอนามัยและไม่เว้นระยะห่างทางสังคม ต่างจากไบเดนมากที่มีมารยาทในการหาเสียง เกรงใจผู้สนับสนุน ไม่อยากให้ติดโควิด-19 จึงหาเสียงโดยไม่ได้เน้นให้มีผู้ฟังจำนวนมาก จัดให้มีการเว้นระยะห่างทางสังคมพอสมควรและให้ทุกคนป้องกันด้วยการใส่หน้ากากอนามัย
คนที่เชียร์ทรัมป์ เป็นคนที่มีแนวคิดและอุดมการณ์บ้าคลั่งคล้ายๆ กันไม่กลัวติดโรค ทำให้การหาเสียงของทรัมป์ได้ผล แต่ผลออกมา คนที่ไปฟังทรัมป์จะติดโควิด-19 จำนวนมาก ถ้าเป็นผู้นำที่มีคุณธรรม เขาไม่ทำกันแต่ทรัมป์ทำเช่นนี้มาโดยตลอดช่วงหาเสียง ปลุกระดมให้คนเชียร์มีอารมณ์ร่วมโดยไม่กลัวว่า ใครจะติดโควิด-19 หรือไม่
ทรัมป์รู้ว่า คะแนนเป็นรอง จึงเร่งหาเสียงในช่วง 3-4 วันอย่างเข้มข้นมาก เช่น 2 วันก่อนวันเลือกตั้ง ทรัมป์ไปหาเสียงวันละ 5-6 จุด เป็นการทำงานที่เน้นความสำเร็จโดยไม่กลัวว่า ผู้สนับสนุนจะติดโควิด-19 หรือไม่ ขณะที่ไบเดนเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ต้องการให้ผู้สนับสนุนเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 จึงจำกัดจำนวนคนฟังไม่ให้นั่งติดกัน บางครั้ง ให้นั่งฟังในรถเพื่อปลอดภัยจากโควิด-19
ถ้าทรัมป์ชนะอีกครั้ง ทั้งคนในโลกและคนอเมริกันคงต้องปรับตัวกันอย่างมหาศาล ต้องสู้กับความเลวร้ายของเขาอีก 4 ปี
เรื่องแรกที่น่ากลัวมากๆคือ โควิด-19 ถ้าทรัมป์ชนะจริงๆ จะสร้างปัญหาให้โลกต่อไป เพราะโควิด-19 ยุคทรัมป์จะแพร่ระบาดอย่างมากในอเมริกา ปัจจุบัน มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นวันละเกือบหมื่นราย และตายวันละ 1 พันราย กระจายไปทุกรัฐและเริ่มมีปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ วัคซีนพอจะช่วยได้ แต่กว่าจะแพร่หลายไปทั่วโลก คงปลายปี 2021 และไม่มีท่าทีที่ทรัมป์จะปรับวิธีแก้ปัญหาโควิด-19 จะสร้างปัญหาให้ทุกประเทศในโลก รวมทั้งไทยที่รักษาโควิด-19ได้ดีที่สุดในโลก แต่เศรษฐกิจไทยต้องพึ่งพาประเทศอื่นๆ
เรื่องความร่วมมือในการแก้ปัญหาโควิด-19 ยังไม่มีใครเป็นผู้นำ ส่งผลกระทบทางลบต่อโลกและประเทศไทยเป็นอย่างมาก หลายประเทศในโลกยังแก้ปัญหาโควิด-19 ไม่ได้ เรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศยังมาไม่ได้ ปัญหาความรุนแรงในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น เศรษฐกิจไทยในช่วงปี 2564 จะประสบปัญหามาก ธุรกิจท่องเที่ยวจะเสียหายหนัก หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น SMEs ปัญหา ธุรกิจจะมี NPL มากขึ้นใครจะช่วยได้บ้าง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ก็เริ่มออกมาแสดงความเป็นห่วงแล้ว
ถ้านับคะแนนครบแล้ว ไบเดนได้เป็นประธานาธิบดี อเมริกา จะกลายเป็นผู้นำของโลกอย่างน้อยในเรื่อง
-โควิด-19 น่าจะมีการแก้ไขร่วมกันมากขึ้น
-เรื่องการทำงานร่วมกันกับพันธมิตรต่างๆ ไม่ใช่หลักอเมริกาต้องมาก่อน
-เรื่องสงครามการค้าจะลดความรุนแรงลง มีการเจรจาทวิภาคีมากขึ้น
-โลกจะหันมาทำงานร่วมกันมากขึ้น เรื่องภาวะโลกร้อน จะมีการแก้ไขมากขึ้น เศรษฐกิจโลกจะร่วมมือกันมากขึ้น
ต้องดูกันต่อไปว่า 4 ปีข้างหน้า จะเป็นอย่างไร ถ้าทรัมป์ชนะอีกครั้ง โควิด-19 จะมีทางแก้ไขหรือไม่ เราต้องเตรียมตัวให้ดี ไม่ว่าทรัมป์หรือไบเดนจะชนะ ก็ต้องเตรียมวางแผนรองรับ เพียงแต่วิธีการแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
อยากให้คนไทยทราบว่า ถ้าศึกษาผู้นำแบบทรัมป์ จะทราบว่าประชาธิปไตยหรือรัฐธรรมนูญไม่สำคัญเท่ากับใครเป็นผู้นำ อย่าดูแค่รูปแบบประชาธิปไตยเท่านั้น ควรจะศึกษาถึงตัวบุคคลและความประพฤติที่ส่อในทางขาดจริยธรรม ปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน และการไม่พูดความจริงกับประชาชนจะสร้างปัญหาแค่ไหน ถ้าทรัมป์จะได้เป็นจริงๆ อีกครั้ง เห็นใจคนอเมริกันจำนวนมากไม่พอใจจะต้องอดทนต่อผู้นำที่หยาบคายและขาดจริยธรรมไปอีก 4 ปี
ก่อนผมจะส่งบทความไปโรงพิมพ์ คะแนนในสหรัฐอเมริกาเปลี่ยนอีกแล้ว ขณะนี้วิสคอนซินและมิชิแกน ไบเดนชนะถ้าไบเดนรักษาคะแนนที่นำในรัฐแอริโซนาและเนวาดา ไบเดนมีโอกาสชนะสูงมาก
สรุป จึงฝากให้กลุ่มที่ต่อต้านสถาบันอันเป็นที่รักอยู่คู่กับประเทศมากว่า 700 ปี ได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่นำพาประเทศรอดมาถึงปัจจุบันและศึกษารากเหง้าของประเทศเรา อย่าไปเทียบกับประเทศอื่น ถ้าไม่พอใจ ยิ่งเกลียดประเทศไทยของตนเอง ก็ไปอยู่กับทรัมป์ น่าจะเหมาะสมกว่า
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี